ลอนดอน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) – ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ พร้อมสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ เดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในฐานะประมุขของรัฐครั้งแรก เพื่อพบปะราชวงศ์อังกฤษ และนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงต่อต้านที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลายเมืองทั่วประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันของประธานาธิบดีสหรัฐโดนัล ทรัมป์ พร้อมด้วยนางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง เดินทางถึงท่าอากาศยานสแตนสเตด ในกรุงลอนดอน เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เป็นการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรแบบรัฐพิธี ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน ในฐานะประมุขของรัฐและอาคันตุกะของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยมีพิธีต้อนรับที่พระราชวังบักก้ิงแฮม ซึ่งผู้นำสหรัฐร่วมพระกระยาอาหารเที่ยงกับสมเด็จพระราชินีนาถฯและเป็นแขกงานเลี้ยงมื้อค่ำในฐานะประมุขของรัฐที่อังกฤษเคยจัดให้อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช และบารัค โอบามา เมื่อครั้งมาเยือนในฐานะประมุขของรัฐเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน ที่เป็นฝ่ายค้านอังกฤษ ประกาศไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำดังกล่าว เพราะไม่ใช่เวลาที่อังกฤษจะปูพรมแดงต้อนรับประธานาธิบดีที่ฉีกสนธิสัญญาระหว่างประเทศ สนับสนุนการไม่ยอมรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ใช้ถ้อยคำเหยียดผิวและเหยียดเพศ
ส่วนในวันอังคารประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าพบนายกรัฐมนตรีเมย์ ซึ่งเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เดินทางไปแสดงความยินดีกับเขาที่ทำเนียบขาว หลังชนะเลือกตั้งปี 2559 แต่ความสัมพันธ์ของผู้นำทั้งสองไม่แน่นแฟ้นเหมือนผู้นำยุคก่อน เพราะมีความเห็นต่างกันในหลายเรื่อง ที่สำคัญคือเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่อังกฤษและมหาอำนาจร่วมลงนามกับอิหร่าน แต่ทรัมป์ถอนสหรัฐออกมาเมื่อปีก่อน ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวก่อนการเดินทางอ้างว่าสนิทสนมกับนายบอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ที่สนับสนุนการแยกสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท และเป็นตัวเต็งในบรรดาลูกพรรคอนุรักษ์นิยมที่ประกาศตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ผู้ชนะจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ ทรัมป์สำทับในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะซัน ของอังกฤษ เมื่อวันศุกร์ว่า นายจอห์นสันน่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ เดอะไทมส์ ด้วยว่า นายไนเจล ฟาราจ ผู้นำพรรคเบร็กซิท ควรจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาของรัฐบาลในกระบวนการที่จะออกจากอียู ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการเยือนอังกฤษผู้นำสหรัฐและนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา จะแวะเยือนไอร์แลนด์ก่อนมุ่งหน้าไปฝรั่งเศสในวันที่6 มิถุนายน เพื่อร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 75 ปีวันยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดี หรือวันดีเดย์ (D-Day)
การเดินทางเยือนอังกฤษของทรัมป์ มีขึ้นท่ามกลางการวางแผนจัดชุมนุมประท้วงในหลายเมือง รวมทั้งกรุงลอนดอน, แมนเชสเตอร์,เบลฟาสต์, เบอร์มิงแฮม และนอตติ้งแฮม โดยทรัมป์เยือนอังกฤษครั้งหลังสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ครั้งนั้นมีคนออกมาประท้วงมากมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี