สตรีสวิสฯเดินขบวนใหญ่
เจนีวา – สตรีทั่วสวิตเซอร์แลนด์พร้อมใจผละงานออกมาเดินขบวนตามท้องถนนวานนี้ (14 มิ.ย.) เพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่เท่าเทียมกับผู้ชาย หลังจากที่เคยเดินขบวนเรียกร้องครั้งแรกเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน การเรียกร้องครั้งนี้มีทั้งการเดินขบวน การแสดงดนตรี การยื้อเวลาพักเที่ยงให้นานขึ้น การจัดปิกนิกกลุ่มใหญ่ และการชุมนุมตามเมืองต่าง ๆ รวมทั้งหน้าที่ทำการรัฐบาลในกรุงเบิร์น เมื่อวานนี้เมื่อปี 2534 สตรีสวิสครึ่งล้านคนจากที่มีไม่ถึง 3.5 ล้านคนตบเท้าออกจากบ้านและที่ทำงานมาร่วมประท้วงเรียกร้องค่าจ้างที่เท่าเทียมกับผู้ชาย เพราะไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งที่รัฐธรรมนูญบรรจุเรื่องความเสมอภาคทางเพศตั้งแต่ปี 2524 แกนนำการประท้วงเผยว่า หลังจากการเรียกร้องครั้งแรกผ่านมาเกือบสามสิบปีก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเดิม สตรีสวิสโดยเฉลี่ยยังคงได้ค่าจ้างต่ำกว่าผู้ชายร้อยละ 20 สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ใช้เวลานานมากเรื่องการยอมรับสิทธิสตรี เพราะเพิ่งให้สตรีมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2513
มือกราดยิงไม่รับผิด
เวลลิงตัน – นายเบรนตัน ทาร์แรนต์ มือปืนชาวออสเตรเลีย วัย 28 ปี ที่ก่อเหตุกราดยิงผู้แสวงบุญชาวมุสลิมภายในมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 51 คน บาดเจ็บอีก 40 คน ให้การต่อศาลว่าไม่มีความผิดระหว่างการขึ้นศาลผ่านวีดีโอลิงค์จากเรือนจำที่เขาถูกคุมขังเดี่ยวในนครออคแลนด์ โดยก่อนหน้านี้ นายทาร์แรนต์ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 51 คดี พยายามฆ่า 40 คดี และข้อหาก่อการร้ายอีก 1 คดี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์ที่มีการตั้งข้อหาก่อการร้ายแก่ผู้กระทำความผิด ขณะที่มีรายงานว่าบรรดาญาติผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงที่เข้ารับฟังการไต่สวนถึงกับร่ำไห้เมื่อได้ยินว่านายทาร์แรนต์อ้างกับศาลว่าไม่มีความผิด ก่อนที่ผู้พิพากษาจะนัดให้มีการพิจารณาคดีนัดต่อไปในวันที่ 4 พฤษภาคมปีหน้า เหตุกราดยิงดังกล่าวถือเป็นก่อการร้ายที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของนิวซีแลนด์ และทำให้รัฐบาลยกเครื่องกฎหมายคุมเข้มอาวุธปืนในประเทศ เนื่องจากปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนกึ่งอัตโนมัติที่ได้รับการดัดแปลง ทำให้สามารถยิงได้ต่อเนื่องและบรรจุกระสุนได้มากขึ้น
โฆษกทำเนียบขาวลาออก
วอชิงตัน – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เผยว่านางแซราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวได้ขอลาออกจากตำแหน่งแล้วเพื่อกลับไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่บ้านเกิดในรัฐอาร์คันซอ โดยจะอยู่ทำหน้าที่จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมกับยกย่องนางแซนเดอร์สว่าปฏิบัติหน้าที่ได้แข็งขันดั่งนักรบ ขณะที่นางแซนเดอร์สซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบขาวคนล่าสุดที่ลาออกจากตำแหน่ง บอกว่าภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่โฆษกทำเนียบขาวและถือเป็นเกียรติแห่งชีวิต นางแซนเดอร์สเริ่มงานจากตำแหน่งรองโฆษกทำเนียบขาว ก่อนรับหน้าที่โฆษกแทนนายฌอน สไปเซอร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ตลอดการปฏิบัติหน้าที่ นางแซนเดอร์สถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับสื่อมวลชน เพราะมักต้องคอยปกป้องประเด็นที่ถาโถมเข้าโจมตีประธานาธิบดีทรัมป์ อีกทั้งยังนัดแถลงต่อสื่อมวลชนน้อยกว่าโฆษกทำเนียบขาวคนก่อนหน้าทั้ง 13 คน โดยนางแซนเดอร์สแถลงต่อสื่อมวลชนครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 11 มีนาคม หรือ 95 วันก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี