19 มิ.ย.62 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ เสนอข่าว "ASEAN must not turn a blind eye to Rohingya crisis: Rights groups" ระบุว่า เครือข่ายนักสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 34 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง 20 - 23 มิ.ย.62 ต้องไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าในภูมิภาคมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมโรอิงญาในเมียนมา
อีวา ซุนดารี (Eva Sundari) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อินโดนีเซีย และเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งรัฐสภาอาเซียน (ASEAN Parliament) กล่าวในแถลงการณ์ว่า ประชาคมอาเซียนต้องไม่เพิกเฉยต่อความโหดร้ายของรัฐบาลเมียนมาและยุติการให้ความชอบธรรมในกระบวนการส่งผู้ลี้ภัยจากบังกล่เทศกลับเมียนมา หลังมีชาวโรฮิงญากว่า 7 แสนคน หนีตายเข้าไปหลบในบังกลาเทศ เมื่อปี 2560 นอกจากนี้ เครือข่ายนักสิทธิฯ เห็นว่าแคว้นยะไข่ของเมียนมายังไม่ปลอดภัย
เช่นเดียวกับ แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย องค์กรฮิวแมน ไรท์ วอทซ์ ตั้งข้อสังเกตว่า อาเซียนจะหารือเรื่องอนาคตของชาวโรฮิงญาโดยไม่มีการกล่าวโทษ ซึ่งน่าประหลาดใจที่จะเห็นการส่งกลับผู้คนไปยังดินแดนที่มีกองทัพเคยก่อเหตุปล้น ฆ่าและข่มขืนพวกเขา โดยรัฐบาลเมียนมาปฏิเสธว่าไม่เคยกระทำผิดใดๆ พร้อมกับย้ำว่าการใช้กำลังทหารในหลายหมู่บ้านเป็นเพียงการตอบโต้กลุ่มก่อความไม่สงบของชาวโรฮิงญาเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง ดอน ปรมัตถ์วินัย (Don Pramudwinai) รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย กล่าวว่า การประชุมอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพจะไม่มีการชี้ว่าใครถูกหรือผิด และอาเซียนมีความกังวลเรื่องเดียวคือผู้ลี้ภัยนับแสนคนคนได้เริ่มก้าวแรกของการเดินทางกลับ โดยจะเป็นความสมัครใจ อีกทั้งต้องเป็นการยินยอมรวมกันของมันเมียนมาและบังกลาเทศ
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ในประชาคมอาเซียนนั้น มีทั้งเมียนมาซึ่งเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และมาเลเซียกับอินโดนีเซียที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้นจะเห็นการกล่าวประณามรัฐบาลเมียนมาโดยรัฐบาลมาเลเซียเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตามในระดับประชาคม อาเซียนยึดถือธรรมเนียมที่จะไม่อภิปรายในเชิงแทรกแซงกิจการภายในของชาติสมาชิก
ทั้งนี้ ในปี 2558 มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาออกจากพม่ามาแวะพักที่ประเทศไทยก่อนไปต่อยังปลายทางคือมาเลเซียและอินโดนีเซีย นำไปสู่การปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ถึงกระนั้นเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ยังมีชาวโรฮิงญา 65 คน เลือกใช้ภาคใต้ของไทยเป็นทางผ่านเช่นเดิม
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.aljazeera.com/news/2019/06/asean-turn-blind-eye-rohingya-crisis-rights-groups-190619091135258.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี