‘เมียนมา’เศร้า
น้ำป่าดินสไลด์ทับดับ50ศพ
ริมเขาเมืองมะละแหม่ง
อุตุเตือนฝนยังตกหนัก
เรือประมงหลบเข้าฝั่ง
พายุกวาดสตูล100หลัง
อุตุฯ เตือนคลื่นลมแรงสูง 2-4 เมตร ในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เรือประมงพื้นบ้าน และเรือประมงขนาดใหญ่ นำเรือกลับเข้าฝั่ง ด้านพายุถล่ม “สตูล” พบบ้านเรือนเสียหายกว่า 100 หลังคา เจ้าหน้าที่กู้ภัยเมียนมาเดินหน้าค้นหาผู้เคราะห์ร้าย หลังเกิดดินถล่มเพราะฝนตกหนักในเมืองมะละแหม่งหรือเมาะลำเลิง เมืองเอกของรัฐมอญคาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50 ศพ ยังมีผู้สูญหายมากถึง 100 คน
เมื่อวันที่10 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้และภาคตะวันออก มีผลกระทบจนถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2562 ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 10-11 สิงหาคม 2562 บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย โดยมีผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้
วันที่ 10 สิงหาคม 2562 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
วันที่ 11 สิงหาคม 2562 มีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคตะวันออก : จังหวัดจันทบุรี และตราด ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กงดออกจากฝั่ง
สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากภาวะ ฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้เกิดคลื่นลมแรงในทะเล 2-3 เมตร ทำให้เรือประมงพื้นบ้าน และเรือประมงขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดพังงา นำเรือกลับเข้าฝั่งจอดเทียบท่า พร้อมเคลื่อนย้ายเครื่องมือประมงขึ้นเก็บไว้ เพราะห่วงสภาพอากาศที่แปรปรวน จากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนคลื่นลมแรงสูง 2-4 เมตรในพื้นที่ภาคใต้
ส่วนที่ตรัง ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯ ตรัง ออกประกาศด่วนที่สุดแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในทะเลอันดามันไปจนถึงวันพรุ่งนี้ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานเจ้าท่า ประมง และตำรวจน้ำ ออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภท เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และมีอุปกรณ์กู้ชีพให้เพียงพอ โดยให้ถือปฏิบัติอย่างเข้มงวด
เช้าวันเดียวกัน เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ทำให้ต้นกระถินณรงค์ ขนาดใหญ่อายุนับ 10 ปีหักล้มทับสายไฟ กระชากเสาไฟหักโค่นขวางถนนสาย โรงเรียนนานาชาติบริติส-กะทู้ ม.2ต.เกาะเเก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลเกาะเเก้วและ งานจราจร สภ.กะทู้ ปิดการจราจรถนนสายดังกล่าว ให้เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงชนบทและเจ้าหน้าที่ของอบต.เกาะเเก้วนำเลื่อยยนต์และอุปกรณ์เข้าทำการรื้อถอนออกจากบนถนน โดยพบว่ามีกระถินณรงค์ขนาดใหญ่จำนวน 2 ต้นโดนลมกระโชกหักโค่นกลางลำต้นลมขวางถนนทั้ง 2 เลน ส่วนบริเวณริมถนนและใกล้เคียงยังพบต้นกระถินณรงค์หักโค่นอีกหลายต้น
นอกจากนี้กิ่งของกระถินยังพาดไปโดนสายไฟทำให้เสาไฟโค่นล้มลงมาขวางถนนอีก1ต้น มีสายไฟ โคมไฟส่องสว่างได้รับความเสียหาย ต้องประสานการไฟฟ้าให้ทำการตัดไฟอย่างเร่งด่วน จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รถไม่สามรถผ่านไปมาได้นานนับชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยเปิดการจราจรตามปกติในเวลาต่อมา
จากการสอบถามผู้อาศัยบริเวณดังกล่าวเล่าว่า ช่วงเช้าได้เกิดฝนตกและมีลมกระโชกอย่างเเรงไม่ถึง 10 นาที ทำให้ต้นไม้บริเวณดังกล่าวหักโค่นล้มลงมาทับสายไฟเสาไฟ ล้มครืนลงมาขวางถนนเสียงดังสนั่น จึงประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์เกิดพายุพัดอย่างรุนแรงในพื้นที่ของจังหวัดสตูลเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย ทำให้ภาพรวมทั้งจังหวัดรับผลกระทบแล้ว 4อำเภอ 10 ตำบล 30 หมู่บ้าน ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน. พร้อมด้วยตำรวจน้ำจิตอาสาต่างนำเรือตรวจการณ์ลงพื้นที่ตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เพื่อดูความเสียหายของบ้านเรือนดังกล่าวในพื้นที่เกาะตำมะลัง เหนือ – ใต้ พบว่าบ้านเรือนชาวบ้านนับ 100 กว่าหลังถูกพายุพัดกระหน่ำหลังคาปลิวว่อนเสียหายและพบว่าเรือประมงพื้นบ้านจมอีก 1 ลำ ตอนนี้ทำการกู้ขึ้นได้แล้ว
ขณะที่ชาวบ้านของกลุ่มชาวเลอูรักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ได้รับความเสียหายเช่นกัน บ้านเรือนหลังคาปลิวร่วงหล่นหลายหลังคาเรือน ขณะนี้วอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงช่วยเหลือเนื่องจากสภาพอากาศท้องฟ้ามืดครึ้ม
ด้านสำนักข่าวรายรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเมียนมาเดินหน้าค้นหาผู้เคราะห์ร้ายในวันนี้ หลังเกิดดินถล่มเพราะฝนตกหนักในเมืองมะละแหม่งหรือเมาะลำเลิง เมืองเอกของรัฐมอญ ทางตะวันออกค่อนมาทางใต้เมื่อวานนี้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 22 คน และคาดว่ายังมีผู้สูญหายมากถึง 100 คน
ภาพถ่ายทางอากาศเห็นแต่ซากหลังคาบ้าน ข้าวของ และรถบรรทุกพลิกคว่ำเกลื่อน เพราะโคลนขนาดใหญ่ถล่มจากเชิงภูเขาไหลลงมาท่วมบ้านเรือน 16 หลัง และวัดแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่พยายามค้นหาผู้รอดชีวิตตลอดคืนที่ผ่านมา และกู้ศพที่จมอยู่ใต้กองโคลนลึก จนถึงขณะนี้พบแล้ว 22 ศพ ลำเลียงใส่ท้ายรถบรรทุกท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่มองอย่างกังวลใจ มีผู้บาดเจ็บ 47 คน และคาดว่ามีผู้สูญหายอยู่มากถึง 100 คน เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินช่วยกันเคลียร์กองโคลนที่สูงถึง 1.8 เมตรออกจากถนนสายหลักเชื่อมมะละแหม่งกับนครย่างกุ้ง
ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้แม่น้ำหลายสายทั่วเมียนมามีน้ำล้นตลิ่ง ชุมชนตามชายฝั่งเฝ้าระวังกระแสน้ำที่ขึ้นสูง ชาวเมืองฉ่วยยิน รัฐพะโค ทางตะวันออกของเมียนมาต้องลุยน้ำท่วมสูงระดับเอว หรือติดค้างอยู่ในบ้านรอความช่วยเหลือ หลังจากแม่น้ำสายหนึ่งน้ำล้นตลิ่งทะลักท่วมทั้งเมือง
ในขณะที่สื่อบางค่ายรายงานความคืบหน้าว่าเหตุร้ายดังกล่าวในพม่าหนนี้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50 ศพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี