เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 เว็บไซต์ นสพ. The Independent ของอังกฤษ เสนอข่าว “Indian father hires assassins to kill daughter’s husband because he was from lower caste, court claims” ระบุว่า ที่ประเทศอินเดียมีเหตุพ่อตาฆาตกรรมลูกเขย เพียงเพราะรู้ว่าคนรักของลูกสาวตนเองมาจากวรรณะต่ำกว่า โดยผู้เคราะห์ร้ายคือ พระนาย เพรุมัลลา (Pranay Perumalla) ชายหนุ่มวัย 23 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต ในช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากเข้าพิธีสมรสกับ อัมฤธา วาชินี (Amrutha Varshini) หญิงสาววัย 21 ปี
หลังการสืบสวน พบว่าผู้บงการในคดีนี้คือ ที มฤธี เรา (T Maruthi Rao) ผู้เป็นพ่อของอัมฤธา โดยแรงจูงใจมาจากการไม่อาจยอมรับได้ที่ลูกสาวของตนซึ่งอยู่ในครอบครัวร่ำรวยและสถานะทางสังคมสูง ไปคบหากับพระนาย ชายหนุ่มที่มาจากวรรณะ “ดาลิท (Dalit)” หรือ “จัณฑาล” ชนชั้นต่ำที่สุดของสังคมอินเดีย จึงตัดสินใจจ้างมือสังหารมาปลิดชีพลูกเขยดังกล่าว
อินเดียนั้นเป็นประเทศหนึ่งที่การศึกษาและเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนนับล้านพ้นจากความยากจน แต่วัฒนธรรมที่อิงกับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่แบ่งคนออกเป็นวรรณะต่างๆ ยังคงฝังรากลึกอยู่ในสังคมที่นี่ อาทิ เคยมีผลสำรวจในปี 2560 พบชาวอินเดียแต่งงานข้ามวรรณะเพียงร้อยละ 5.8 เท่านั้น และคดีความรุนแรงจากการคบหาเชิงชู้สาวแบบข้ามวรรณะก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหรือพื้นที่เดียว ในเดือน มิ.ย. 2562 มีคดีทำนองเดียวกันเกิดขึ้นทั้งที่รัฐคุชราฎ ทมิฬนาดู , มัธยประเทศ และอานธรประเทศ
อุมา จักรวาตี (Uma Chakravarti) นักประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญประเด็นวรรณะและเพศในอินเดีย อธิบายว่า การความรุนแรงดังกล่าวถูกส่งผ่านในนามประเพณีและเกียรติยศ แต่ยังมีประเด็นที่แฝงไว้ด้วย คือ “หากผู้หญิงสามารถเลือกคู่ครองได้เอง รวมถึงการเลือกผู้ชายที่มาจากวรรณะต่ำสุดอย่างดาลิทได้ด้วย ย่อมจะทำให้ระบบที่เอื้อต่อความไม่เสมอภาคในสังคมอินเดียปั่นป่วนไปทั้งหมด
ชนชั้นดาลิทหรือจัณฑาลนั้นมีอยู่ราวร้อยละ 17 ของประชากรอินเดียทั้งหมด 1.3 พันล้านคน หลังถูกกดขี่เหยียดหยามมาหลายศตวรรษ คนเหล่านี้ค่อยๆ รุกคืบเข้าไปพื้นที่ทางสังคมที่สูงขึ้นทั้งภาคการเมือง ภาคการศึกษาระดับสูง และภาคธุรกิจ แต่ก็ไม่อาจยุติการเลือกปฏิบัติตามขนบเดิม พอล ทิวาการ์ (Paul Divakar) เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนของชาวดาลิท กล่าวว่า แม้อินเดียจะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งตามหลัก 1 คน 1 เสียง แต่การให้คุณค่าความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันไม่เกิดขึ้นที่นี่
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า เมื่ออัมฤธาเข้าเรียนระดับมัธยม เธอถูกพ่อแม่กำชับอยู่เสมอว่าจะต้องไม่คบหาคนที่มาจากวรรณะต่ำกว่าเป็นเพื่อนฝูง แต่ความซับซ้อนของระบบวรรณะในสังคมอินเดียนั้นไม่ได้อยู่ในความคิดของเด็กสาว ในตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้น ม.3 เธอได้ไปดูภาพยนตร์กับเพื่อนๆ และเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับพระนาย หนุ่มนักเรียนรุ่นพี่ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มสานสัมพันธ์ผ่านการพูดคุยและส่งข้อความทางโทรศัพท์
แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องถูกบังคับให้พลัดพรากจากกัน ที มฤธี พ่อของอัมฤธา พบว่าลูกสาวแอบคบกับชายหนุ่ม ทำให้ผู้เป็นพ่อลุแก่โทสะ ลงมือตบตีลูกสาวเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่นั่นก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่อัมฤธาถูกพ่อทำร้าย นอกจากนี้ ผู้เป็นพ่อยังยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและโทรศัพท์มือถือของเธอ พร้อมกับย้ายเธอไปเรียนที่อื่น กระทั่งชายหนุ่มและหญิงสาวจะได้กลับมาพบกันในช่วงสั้นๆ ก่อนเกิดโศกนาฎกรรมในอีก 6 ปีต่อมา
ก่อนเกิดเหตุสลดขึ้น ทั้งคู่กำลังเรียนในระดับอุดมศึกษา พระนายอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนอัมฤธาเลือกเรียนด้านแฟชั่น ฝ่ายหญิงกลัวว่าท้ายที่สุดพ่อแม่ของเธอจะจับแต่งงานแบบคลุมถุงชนกับชายอื่น ขณะที่ฝ่ายชายก็บอกว่าให้หนีไปด้วยกัน และแล้วทั้งคู่ก็ทำตามนั้นในวันที่ 30 ม.ค. 2561 แน่นอนว่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากนัก นอกจากไปยื่นขอทำหนังสือเดินทางและสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษ โดยทั้งคู่หวังว่าจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ออสเตรเลีย
คู่รักต่างวรรณะเข้าพิธีสมรสต่อหน้าเพื่อนๆ เพียงไม่กี่คนที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองไฮเดอราบัด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม “อารยะ สมาจ (Arya Samaj)” ที่มีแนวคิดปฏิรูปศาสนาฮินดูให้เกิดกว้างเรื่องวรรณะมากขึ้น และอีก 5 เดือนต่อมา อัมฤธารับรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์ เธอกับสามีจึงจัดงานเลี้ยงฉลอง โดยงานมีขึ้นในวันที่ 17 ส.ค. 2561 ท่ามกลางแขกเหรื่อกว่าร้อยคน เว้นแต่พ่อแม่ของอัมฤธา
โดยหารู้ไม่ว่า พ่อของหญิงสาวเริ่มวางแผนฆาตกรรมชายหนุ่มผู้เป็น “ลูกเขยจากชนชั้นต่ำ” ไว้แล้ว ที มฤธี เรา วัย 57 ปี จ้างมือสังหารผ่านนักการเมืองท้องถิ่นด้วยเงิน 150,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4.65 ล้านบาท และในวันที่ 14 ก.ย. 2561 คือวันสุดท้ายที่หญิง-ชายคู่นี้จะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ในขณะที่พระนาย อัมฤธา และ พรีมาลธา (Premalatha) แม่ของพระนาย กำลังเดินออกจากโรงพยาบาลที่อัมฤธาไปพบแพทย์เพื่อตรวจครรภ์ มือสังหารเดินเข้าไปด้านหลังและใช้มีดแทงชายหนุ่มไป 2 ครั้ง ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน
คดีนี้ความเห็นของชาวอินเดียแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในขณะที่ชาวดาลิทนับร้อยเห็นใจชะตากรรมของพระนายและพูดคุยกันถึงการสร้างรูปปั้นเล็กๆ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับชายหนุ่ม แต่ ภูปฏิ ราชุ (Bhupathi Raju) ประธานกิตติมศักดิ์ของ Arya Vysya Association และเป็นผู้ก่อตั้งองค์กร “สมาคมคุ้มครองบุพการี (Parents Protection Association)” รวบรวมผู้คนที่เห็นด้วยกับ ที มฤธี เรา ผู้เป็นพ่อของอัมฤธา พากันไปเยี่ยม ที มฤธี ซึ่งถูกจำคุก
ชยาม ซันเดอร์ ชิลูคุรี (Shyam Sunder Chilukuri) ทนายความ ให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน โดยบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการที่ฝ่ายชายซึ่งเป็นคนในวรรณะที่แตกต่างได้ข่มขู่และแต่งงานกับฝ่ายหญิง และกล่าวอีกว่า ยังมีโอกาสที่ลูกสาวคนอื่นๆ ที่มีชีวิตมั่งคั่งจะติดกับดักที่เรียกว่าความรัก ปัจจุบัน ที มฤธี เรา ได้รับการประกันตัวและคาดว่าศาลจะเริ่มพิจารณาคดีในเดือน ก.ย. 2562 อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว
เอ วี รังคนาถ (A V Ranganath) ผู้กำกับการสถานีตำรวจ Nalgonda ระบุว่า คดีนี้มีหลักฐานสำคัญคือบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์มือถือที่นักการเมืองซึ่งเป็นคนจัดหามือสังหารให้กับ ที มฤธี เปิดระบบไว้โดยไม่ตั้งใจ ด้าน พลสวามี (Balaswamy) วัย 53 ปี ผู้เป็นพ่อของพระนาย คาดหวังว่า ที มฤธี เรา จะถูกลงโทษตามกฎหมายเพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง จะได้ไม่เกิดการฆาตกรรมที่มีมูลเหตุจูงใจในเรื่องดังกล่าวอีก
รายงานข่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยชะตากรรมครอบครัวของพระนายที่ต้องดำเนินต่อไป พลสวามี กล่าวว่า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เขาตัดสินใจพาหลานชายตัวน้อยที่เกิดจากคู่รักต่างวรรณะ ไปที่เมืองไฮเดอราบัด แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะใช้ชีวิตที่นั่น เพราะเมื่อเจ้าของบ้านหรือห้องเช่ารู้ว่าตนเป็นดาลิทหรือจัณฑาลก็จะปฏิเสธไม่ยอมให้เช่า การถูกเลือกปฏิบัติคือสิ่งที่คนวรรณะต่ำสุดของอินเดียเผชิญจนชิน ขณะที่อัมฤธา ยินดีที่จะใช้ชีวิตในฐานะสมาชิกในครอบครัวของสามีผู้ล่วงลับ
“พ่อของฉันเป็นสาเหตุทำให้พระนายต้องตาย แต่พ่อแม่ของเขานั้นรู้ว่าเราสองคนรักกันมากเพียงใด” อัมฤธา กล่าวในท้ายที่สุด
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.independent.co.uk/news/world/asia/indian-couple-father-assassins-caste-wedding-amrutha-varshini-pranay-perumalla-a9071206.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี