วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
ทัวร์‘ล่าท้าผี’สถานที่สุดเฮี้ยนใน3เมืองอาเซียน มี‘กรุงเทพฯ’รวมอยู่ด้วย

ทัวร์‘ล่าท้าผี’สถานที่สุดเฮี้ยนใน3เมืองอาเซียน มี‘กรุงเทพฯ’รวมอยู่ด้วย

วันพุธ ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 17.31 น.
Tag : กรุงเทพฯ ล่าท้าผี สถานที่ เฮี้ยน
  •  

9 ต.ค. 2562 เว็บไซต์ นสพ. South China Morning Post ของฮ่องกง เสนอรายงานพิเศษ “Dark tourism: three ghost tours in Southeast Asia where history, beliefs and horror combine to offer spine-tingling thrills” ว่าด้วยตำนานสถานที่สุดเฮี้ยนในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย ที่รอให้นักท่องเที่ยวไปท้าพิสูจน์ ซึ่งมีผู้นำทัวร์คือ จัสติน ดันน์ (Justin Dunne) ชาวมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่มาเปิดบริษัท Bangkok Haunt ในประเทศไทย 

ทัวร์ของจัสติน พาไปเยือนมาแล้วทั้งโรงแรมที่ว่ากันว่ามีเรื่องแปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้ คลินิกทำแท้งเถื่อน โรงภาพยนตร์แบบดั้งเดิม (Stand Slone) แห่งสุดท้ายในประเทศไทย หรือทางรถไฟที่บรรดาคนขับแท็กซี่เล่าว่าหากผ่านไปแถวนั้นในเวลากลางคืน อาจเจอหญิงสาว 2 คนในชุดดำ โบกเรียกให้พาไปส่งที่ทางรถไฟ ก่อนจะเห็นร่างของพวกเธอขาดครึ่งตรงทางรถไฟนั้นเพราะพวกเธอนั้นเป็นวิญญาณของคนที่ประสบอุบัติเหตุรถไฟทับ

เรื่องหลอนๆ บางเรื่องยังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย อาทิ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) สถานที่เกิดเหตุนองเลือดที่ทหารและกลุ่มแนวร่วมฝ่ายขวาจัดบุกเข้าไปฆ่านักศึกษาในวันที่ 6 ต.ค. 2519 และบริเวณถนนราชดำเนิน ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีประชาชนเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 จากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากคณะทหารที่ทำรัฐประหาร 

โดยแขกที่พักบริเวณโรงแรมในย่านราชดำเนิน เล่ากันว่า บางครั้งอาจได้ยินเสียงร้องไห้ขอให้ช่วยเหลือดังมาจากในกระจก แต่เมื่อหันไปดูก็ไม่พบอะไร ซึ่ง จัสติน ระบุว่า ผู้ที่สนใจ “ทัวร์ขนหัวลุก” ของเขานั้นมักเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการหาทางเลือกใหม่ๆ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวกระแสหลัก เพราะคนไทยไม่ต้องการไปรบกวนดวงวิญญาณเหล่านั้นเนื่องจากกลัวจะต้องประสบโชคร้าย 

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ที่ประเทศสิงคโปร์ ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางไป “ล่าท้าผี” เช่นกัน ณ สุสานจีนขนาดใหญ่ “Bukit Brown” ภายในเมือง ซึ่งมีตำนานของ “Pontianak” หรือผีตายท้องกลม หมายถึงหญิงสาวที่ตายระหว่างคลอดลูก โดยหญิงที่ตายในลักษณะนี้เชื่อกันว่าเฮี้ยนสุดๆ จนถูกนำไปเล่าในภาพยนตร์สยองขวัญครั้งแล้วครั้งเล่า Pontianak ปรากฏตัวในลักษณะสวมชุดสีขาว ผิวขาวซีด ผมดำ แต่มีตาสีแดง ล่อลวงด้วยเสียง และชายที่หลงกลก็จะถูกฉีกร่างเป็นชิ้นๆ ก่อนจะกลืนกิน

สุสาน Bukit Brown มีเนื้อที่ 200 เอเคอร์ (หรือ 506 ไร่) มีหลุมศพ 1 แสนหลุม ที่นี่มัคคุเทศก์จะบรรยายเกร็ดประวัติศาสตร์เรื่องพิธีฝังศพชาวจีน จุดเด่นของสุสานแห่งนี้คือหลุมศพของ Chew Keok Leong แพทย์ผู้มีชื่อเสียงที่มีพื้นเพเดิมเป็นชาวกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนในปัจจุบัน หน้าหลุมศพมีหุ่นทหารชาวซิกข์ 2 คน ถือปืนเฝ้าอยู่ แคลร์ โหลว (Claire Leow) ผู้ร่วมก่อตั้งทัวร์สุสาน เล่าว่าได้ยินเรื่องแปลกๆ จากผู้เฝ้าสุสานคนก่อน 

อาทิ ที่นี่เคยมีทั้งการทำพิธีหลั่งเลือดเพื่อรับคนเข้าแก๊งมาเฟีย ในช่วงทศวรรษ 1970s (ปี 2513-2522) การลักลอบมามีเพศสัมพันธ์ การทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ แม้กระทั่ง “คอหวย” ที่มาแสวงหาเลขเด็ดไปเสี่ยงโชค จนบางครั้งผู้ดูแลสุสานต้องแกล้งปลอมเป็นผี โดยการนำถุงดำใส่ขยะมาสวมแล้วย่องไปหลอกด้วยการพูดภาษาจีนสำเนียงฮกเกี้ยน เพื่อปรามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้มาเยือนบ้าง 

ความเฮี้ยนของ Bukit Brown ถูกพูดถึงในปี 2555 เมื่อทางการสิงคโปร์ตัดถนนผ่านพื้นที่สุสาน ร่างไร้วิญญาณจำนวน 4,000 ศพ ถูกขุดขึ้นมา กลายเป็นเรื่องร่ำลือว่าคนตายไม่อาจพักผ่อนได้อย่างสงบ ชาวออสเตรเลียรายหนึ่งเล่าว่าไปถ่ายทำวีดีโอในยามค่ำคืน และใช้แอพพลิเคชั่นที่สร้างขึ้นสำหรับจับคลื่นสัญญาณแปลกๆ ซึ่งพบปฏิกิริยาเสียงรบกวนบางอย่าง แต่ก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตาม มีบางคนโต้แย้งว่า การที่สุสานเป็นแบบเปิดให้เดินผ่านได้ แถมยังรกและเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลาน ทำให้ผู้คนรู้สึกกลัวขึ้นมามากกว่า

 ปิดท้ายที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย วินสตัน ลิ้ม (Winston Lim) มัคคุเทศก์นำเที่ยวสถานที่ผีสิง เล่าถึงคฤหาสน์แห่งหนึ่งที่สร้างบนที่ดินซึ่งชาวบ้านเตือนก่อนก่อสร้างแล้วว่ามีคำสาปแต่เศรษฐีที่จะสร้างบ้านไม่เชื่อ เมื่อสร้างเสร็จปรากฏว่าลูกสาวเศรษฐีและคนรับใช้ทยอยตายลง สุดท้ายตัวเศรษฐีเองก็ไม่รอด ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นบุกยึดคฤหาสน์ดังกล่าวและทำเป็นสถานที่บำเรอกามของทหาร มีผู้หญิงมากมายตกเป็นทาสทางเพศที่นี่
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สาวไต้หวันซื้อห้องพักในกทม.ได้ถูก เจอทัวร์ชาติเดียวกันลง บอกทำคนไทยเดือดร้อนราคาบ้านแพงขึ้น สาวไต้หวันซื้อห้องพักในกทม.ได้ถูก เจอทัวร์ชาติเดียวกันลง บอกทำคนไทยเดือดร้อนราคาบ้านแพงขึ้น
  •  

Breaking News

ยอดดับเหตุเครื่องบินตกใน'อินเดีย'เพิ่มแตะ 274 ราย

'ซูเปอร์โพล'เผยคนไทยสนใจปัญหาปากท้อง - ภัยพิบัติ และข้อพิพาทชายแดน

แม่ก็คือแม่! 'นุ้ย สุจิรา'อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกินี ออร่าพุ่งกระฉูด

เสียงประชาชนศักดิ์สิทธิ์! ‘อนุทิน’กราบขอบคุณโพลให้ ‘มท.’ รั้งท้ายกระทรวงสมควรถูกปรับ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved