กรุงเทพฯ (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ประกาศยึดมั่นตามพันธกรณีที่มีต่อกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือยูเอ็นเอฟซีซีซี (UNFCCC) และความตกลงปารีสปี 2558 ขณะที่เลขาธิการยูเอ็นเตือนประเทศในเอเชียให้เลิกเสพติดการใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงาน เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้หลายล้านคนเสี่ยงภัยจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค
อาเซียนออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการประชุมรัฐภาคียูเอ็นเอฟซีซีซีครั้งที่ 25 (UNFCCC COP25) เมื่อวานนี้ว่า ผู้นำ 10 ชาติสมาชิกอาเซียนขอใช้การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ย้ำเรื่องการยึดมั่นต่อพันธกรณีที่มีต่อยูเอ็นเอฟซีซีซีและความตกลงปารีส โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการเรื่องความรับผิดชอบร่วมกันแต่แตกต่างกันและศักยภาพของแต่ละประเทศตามสภาพแวดล้อมระดับประเทศที่แตกต่างกัน อาเซียนจะดำเนินมาตรการแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามพิมพ์เขียวประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียนปี 2568 อย่างสอดคล้องกับผลของวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2573 ของยูเอ็นและนโยบายการพัฒนาระดับประเทศ
แถลงการณ์กล่าวถึงเรื่องป่าไม้ว่า อาเซียนจะส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน เช่น ปฏิบัติตามมติการประชุมรัฐภาคีเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าการทำให้ป่าเสื่อมโทรมและส่งเสริมการอนุรักษ์ จะส่งเสริมแหล่งกักเก็บคาร์บอนในประเทศกำลังพัฒนาตามกรอบวอร์ซอปี 2556 จะส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การคุ้มครองและฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาบนบก ริมฝั่ง และทางทะเล
ส่วนเรื่องการใช้พลังงาน อาเซียนจะบรรลุเป้าหมายลดความเข้มข้นของการใช้พลังงานลงให้ได้ร้อยละ 21.9 ของการใช้ในปี 2548 จะเปิดตัวยุทธศาสตร์ภูมิภาคอาเซียนว่าด้วยการขนส่งทางบกที่ยั่งยืน โรดแมปการประหยัดเชื้อเพลิงอาเซียนสำหรับภาคการขนส่งปี 2561-2568 และแนวทางสำหรับการจัดทำดัชนีชี้วัดการขนส่งทางบกที่ยั่งยืนว่าด้วยการประหยัดพลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอาเซียน ด้านภัยพิบัติ อาเซียนจะส่งเสริมศักยภาพในการจัดการภัยพิบัติที่เกิดจากสภาพอากาศด้วยกลไกที่มีอยู่ตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการรับมือเหตุฉุกเฉิน จะปฏิบัติตามระยะ หรือเฟสสองของแผนปฏิบัติการประกันและจัดหาเงินลดความเสี่ยงภัยพิบัติอาเซียน จะตั้งเงินทุนประกันภัยความเสี่ยงภัยพิบัติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประการสุดท้ายอาเซียนจะส่งเสริมความร่วมมือกับคู่เจรจา หุ้นส่วน และภายนอกเรื่องการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในอาเซียน
ขณะที่นายอันโตนีโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น กล่าวกับสื่อมวลชนก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนว่า ประเทศในเอเชียจะต้องเป็นแนวหน้าในการเอาชนะการเสพติดถ่านหิน ด้วยการกำหนดราคาการปล่อยคาร์บอนและปฏิรูปนโยบายพลังงาน การดำเนินการเรื่องนี้ล่าช้ามาก หากสามารถลดการใช้ถ่านหินได้ก็จะช่วยยับยั้งอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นได้
ทั้งนี้ ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานหลักของหลายประเทศในอาเซียน ยิ่งเศรษฐกิจเติบโตเร็วยิ่งมีความต้องการใช้มากขึ้นและทำลายสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเวียดนามใช้ถ่านหินผลิตพลังงานถึง 1 ใน 3 ของพลังงานที่ผลิตได้ทั้งหมด และเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินอีกหลายแห่งภายในปี 2593 ขณะที่ไทยกำลังลงทุนเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ก่อนหน้านี้ วารสารเนเจอร์คอมมูนิเคชันส์เผยผลการวิจัยใหม่เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า คนทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 300 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงจมน้ำภายในปี 2593 มากกว่าตัวเลขที่เคยมีการวิจัยก่อนหน้านี้มาก และในจำนวนนี้หลายเมืองเป็นมหานครในเอเชียที่เสี่ยงน้ำท่วมหนัก เช่น กรุงเทพฯ นครโฮจิมินห์ ของเวียดนาม นครมุมไบ ของอินเดีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี