7ผู้นำเมินถกผู้แทนสหรัฐ
ตบหน้า‘ทรัมป์’
ฉุนไม่เห็นหัวอาเซียน
ส่งแค่กุนซือเข้าร่วมวง
บัวแก้วแจงหลักการทูต
‘มะกัน’โวยโดนลูบคม
ประชุมอาเซียนบวก 3 ชื่นมื่น จับมือรับความท้าทายด้านเศรษฐกิจ-สังคม การเปลี่ยนแปลงของโลก“บิ๊กตู่” หารือ ทวิภาคีผู้นำญี่ปุ่นย้ำความร่วมมือพัฒนาอาเซียน หนุนสตาร์ทอัพ–SMEs ไทย ก่อนถกผู้แทนพิเศษผู้นำสหรัฐที่ฝากหนังสือย้ำสัมพันธ์ไทยมิตรประเทศ รับปากทบทวนปมตัด GSP ส่วนที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐเปลี่ยนรูปแบบเป็นทรอยก้า เหตุ 7 ผู้นำเมินเข้าร่วม ฉุน“ทรัมป์”ส่งเจ้าหน้าที่เทียบเท่าระดับอธิบดีมาแทน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 22 โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 22 ประกอบด้วย 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนและ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี และญี่ปุ่น จัดขึ้นเพื่อร่วมกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือในกรอบอาเซียนบวกสาม เน้นแนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของการเป็นประธานอาเซียนของไทย และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เป็นข้อห่วงกังวลร่วมกัน
ปลุกอาเซียนบวก3รับมือโลกเปลี่ยนแปลง
โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 22 พร้อมแสดงความเสียใจกับรัฐบาลและชาวญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ความร่วมมือในกรอบอาเซียนบวกสามมีพลวัตมากที่สุดกรอบหนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นเสาหลักสำคัญที่ส่งเสริมความร่วมมือเฉพาะด้าน รวมทั้งสร้างแนวคิดการเป็น ประชาคมในภูมิภาคอาเซียน เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทั้ง 13 ประเทศ ความร่วมมือดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการ 3M ได้แก่ ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ผลประโยชน์ร่วมกัน และการเคารพซึ่งกันและกัน ภายใต้กระแสความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายปัจจุบัน ทั้งการแข่งขันทางการค้า และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น เราควรเตรียมความพร้อมให้อาเซียนบวกสามรับมือ ความท้าท้ายดังกล่าว
ขอแรงหนุนตั้ง2ศูนย์เพื่อการศึกษา-ผู้สูงวัย
นายกฯยังเสนอแนวทางส่งเสริมความร่วมมือในกรอบอาเซียนบวกสาม 2 ประการคือ 1.การส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งการส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่างๆ ของภูมิภาคจะช่วยสร้างศักยภาพของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้เป็นกลไกสำคัญของการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืน 2.ความยั่งยืนทุกมิติ ไทยขอให้ประเทศบวกสามสนับสนุนความมุ่งมั่นของอาเซียน โดยเฉพาะการตั้ง “ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน” และ“ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม”ที่ประเทศไทย นอกจากนี้ นายกฯยังเชื่อว่าความร่วมมืออาเซียนบวกสามจะเป็นกลไกสำคัญนำไปสู่หุ้นส่วนความร่วมสร้างอนาคตยั่งยืนร่วมกันของภูมิภาคเอเชียตะวันออก พร้อมขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และสำนักเลขาธิการอาเซียนที่สนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของไทยมายตลอดทั้งปี
ถกอาเบะย้ำพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 โดยนายกกล่าวยินดีที่อาเซียนและญี่ปุ่นบรรลุการเจรจาร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 22 ว่าด้วยความเชื่อมโยง พร้อมหวังว่าอาเซียนจะได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นภายใต้ ASEAN Outlook on Indo-Pacific โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การเข้าถึงบริการการเงิน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดการขยะทะเล นอกจากนี้ นายกฯขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนความเชื่อมโยง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม พร้อมชื่นชมญี่ปุ่นในฐานะประธาน G20 จัดทำเอกสารผลลัพธ์สำคัญของการประชุม G20 Principles on Quality Infrastructure Investment ส่งเสริมยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค
ยันร่วมมือไทยหนุนSMEs-Stratups
ด้านนายอาเบะกล่าวชื่นชมบทบาทการเป็นประธานอาเซียนของไทย โดยเฉพาะบทบาทผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์ที่ผลักดันให้บรรลุผลประชุมสำคัญต่อการพัฒนาภูมิภาคประสบความสำเร็จ พรือยืนยันว่าญี่ปุ่นจะเดินหน้าร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป ร่วมแก้ปัญหาท้าทายสำคัญในภูมิภาคด้วย ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีต่อความร่วมมือในการส่งเสริม SMEs และ Startups โดยการลงนาม MOUระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และ Startups ของไทยและญี่ปุ่น 6 ฉบับ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจทั้งสองฝ่าย และพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ในไทย สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการจัดตั้ง Startups ที่มีนวัตกรรมของรัฐบาลไทยภายใต้โครงการ Innospace (Thailand) รวมทั้ง ความร่วมมือไทย - ญี่ปุ่นในการพัฒนาประเทศที่สาม ซึ่งลงนามบันทึกช่วยจำว่าด้วยกรอบความร่วมมือแบบหุ้นส่วนระหว่างญี่ปุ่นกับไทย ระยะที่สาม (Memorandum on Japan-Thailand Partnership Programme Phase 3) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมต่อยอดความร่วมมือด้านการช่วยเหลือเพื่อพัฒนาประเทศที่สาม โดยเฉพาะประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และอาเซียน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือประเด็นความร่วมมือในภูมิภาคสำคัญ ในโอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้อวยพรให้ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก ปี 2563
ทรัมป์ส่งตัวแทนพิเศษถกนายกฯ
ต่อมาเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมพบหารือกับนายโรเบิร์ต ซี โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา และหัวหน้าคณะผู้แทนสหรัฐฯในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกฯย้ำว่าไทยพร้อมร่วมมือใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ เช่น การลงทุน ต่อต้านการค้ามนุษย์ และสนับสนุนบทบาทของสหรัฐฯ ในการเพิ่มความร่วมมือกับภูมิภาค พร้อมฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ และภริยา โดยหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับที่ประเทศไทย
ฝากจม.ย้ำไทยมิตรปท.รับทบทวนตัดGSP
ด้านนายโรเบิร์ต ซี โอไบรอันกล่าวขอบคุณที่ไทยต้อนรับอย่างอบอุ่น และเผยว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯฝากหนังสือถึงนายกฯย้ำว่าสหรัฐฯให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์กับไทยในฐานะมิตรประเทศอันใกล้ชิด ชื่นชมการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย ย้ำสัมพันธ์อันดีกับไทย พร้อมชื่นชมบทบาทไทยในการปราบปรามการค้ามนุษย์ และการประชุมอินโด-แปซิฟิก จะเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนสาขาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานดิจิทัล พร้อมรับพิจารณาที่ไทยขอให้ทบทวนการตัดสิทธิ GSP อย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง เพื่อให้กระทบกับภาคเอกชนของไทย
7ผู้นำอาเซียนบอยคอยเมินถกสหรัฐ
จากนั้น เป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯครั้งที่ 7 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ร่วมหารือกับนายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนายกฯกล่าวต้อนรับนายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ ในฐานะประธานอาเซียน ชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ซึ่งช่วยให้อาเซียนพัฒนาเป็นประชาคมที่มีพลวัตความเจริญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นพิเศษ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาส่งนายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เป็นผู้แทนพิเศษเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐแทน ทำให้ผู้นำอาเซียนมีท่าทีตอบโต้ด้วยการไม่เข้าร่วมประชุม 7 ประเทศ และส่งรัฐมนตรีต่างประเทศเข้าร่วมแทน ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันของผู้นำอาเซียน จึงต้องปรับการประชุมเป็นรูปแบบทรอยก้า มีเพียงผู้นำ 3 ประเทศเข้าร่วมประชุมเท่านั้นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอาเซียนปัจจุบัน นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียนปีหน้า และนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีลาวในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียน-สหรัฐ ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตามธรรมเนียมปกติงหากสหรัฐไม่ส่งผู้นำเข้าร่วมประชุม จะต้องส่งตัวแทนเป็นระดับรองประธานาธิบดี หรือรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นตัวแทน
ทรัมป์ส่งจม.เชิญอาเซียนประชุมปีหน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังประธานอาเซียนขอบคุณสหรัฐที่สนับสนุนเสริมสร้างสันติภาพ และความร่วมมือด้านการลงทุนที่ให้ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญจัดประชุมอินโด-แปซิฟิก ที่จะร่วมมือกันต่อไป แล้ว นายโอไบรอัน ที่ปรึกษาความมั่นคงฯสหรัฐ อ่านจดหมายจากประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ส่งมาแสดงความยินดีกับความสำเร็จของการประชุมครั้งนี้ และยืนยันพร้อมเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ พร้อมเชิญผู้นำอาเซียนทุกประเทศร่วมประชุมนัดพิเศษในไตรมาสแรกของปีหน้า
บัวแก้วแจงเรื่องปกติ10ผู้นำเห็นชอบ
ด้านน.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้นำอาเซียนเข้าร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐเพียง 3 ประเทศ ขณะที่อีก 7 ประเทศส่งผู้แทนระดับรมว.ต่างประเทศเข้าประชุมว่า ในประวัติศาสตร์ 52 ปีของอาเซียน มีสถานการณ์เกิดขึ้น ทำให้ต้องปรับรูปแบบการประชุมให้เหมาะสมหลายครั้ง เช่นครั้งนี้ ใช้รูปแบบการประชุมลักษณะทรอยก้า จึงถือเป็นเรื่องปกติ เป็นแนวทางที่อาเซียนทุกประเทศเห็นชอบร่วมกัน เป็นรูปแบบที่อาเซียนเคยใช้ในอดีต เช่น กับสหภาพยุโรป (อียู) โดยคำนึงถึงหลักการทางการทูตของเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน และการประชุมก็เป็นไปโดยราบรื่น ผ่านไปได้ด้วยดี
วิจารณ์แซ่ด-ทูตสหรัฐแสดงท่าทีผิดหวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าทีของผู้นำอาเซียน 7 ประเทศ ที่ไม่เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน–สหรัฐครั้งที่ 7 แต่ส่งผู้แทนระดับรัฐมนตรีต่างประเทศเข้าหารือแทน สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเนื่องจาก นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เป็นทูตพิเศษ ตัวแทนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น ตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดีเท่านั้น
ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐแสดงความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของผู้นำอาเซียนที่ไม่เข้าร่วมประชุม ตั้งข้อสังเกตเป็นการจงใจทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ขายหน้าหรือไม่ โดยการประชุมดังกล่าว ทูตสหรัฐส่งข้อความถึงกลุ่มอาเซียน แสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจเช่นนี้
นายกฯเลี้ยงอาเซียน-UN-IMF”
เวลา 11.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อหารือเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอก โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า งานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างอาเซียนกับองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ สหประชาชาติ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียน และกรรมการผู้จัดการองค์กรการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันด้วย
โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า การพัฒนายั่งยืนเป็นวาระสำคัญของโลก และเป็นประเด็นสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอาเซียน ในการสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งท้าทาย ไทยถือว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของ“ความยั่งยืนทุกมิติ” เปรียบเสมือนเหรียญมีสองด้าน คือ การมีเสถียรภาพและความมั่นคง และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีพลวัต และการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งทั้งสองด้านจะต้องส่งเสริมและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนของประชาคมอาเซียน ในตอนท้ายนายกฯยังย้ำความร่วมมือความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน ความเป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดกับประเทศคู่เจรจา และภาคีภายนอกอาเซียน ซึ่งส่งผลให้การขับเคลื่อนวาระการพัฒนายั่งยืนให้มีผลเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี