วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 องค์กรนิรโทษกรรมสากล “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International)” ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน หยุดกดดันประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ให้ต้องร่วมมือในการสกัดกั้นแกนนำนักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชา ซึ่งนำโดย สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านที่มีชื่อเสียงจากพรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) ที่ถูกยุบและปัจจุบันลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส ไม่ให้เดินทางเข้าไปในกัมพูชา
สืบเนื่องจากตั้งแต่เดือน ส.ค. 2562 เป็นต้นมา เมื่อสม รังสี ประกาศว่าจะเดินทางกลับไปยังกัมพูชา ในวันที่ 9 พ.ย. 2562 และหลังจากนั้นอดีตสมาชิกพรรค CNRP ก็ประกาศจะจัดการชุมนุมใหญ่ในวันเดียวกัน ทำให้รัฐบาลกัมพูชา ออกมาอ้างว่าท่าทีของอดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาเป็นความพยายามก่อรัฐประหาร นำไปสู่การปราบปรามผู้สนับสนุนพรรค CNRP อย่างรุนแรง
“มีรายงานว่า อดีตสมาชิกพรรคสงเคราะห์ชาติอย่างน้อย 45 คน ถูกจับกุมคุมขัง และอีก 92 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาทางการเมือง รวมทั้งคดีวางแผนการต่อต้านรัฐ ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเดินทางกลับมายังกัมพูชาของหัวหน้าพรรคสงเคราะห์ชาติซึ่งอาศัยอยู่ต่างประเทศ การจับกุมที่เกิดขึ้นมักไม่เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและไม่มีการออกหมายจับ” แถลงการณ์ของแอมเนสตี้ฯ ระบุ
ในแถลงการณ์ยังกล่าวถึงชะตากรรมของ แซม โบพา นักเคลื่อนไหวของพรรค CNRP ถูกสังหารระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจ โดยเขาถูกจับกุมจากบ้านที่จังหวัดสะหวายเรียง เมื่อ 30 ต.ค. 2562 รวมถึง ทิธ รอน นักเคลื่อนไหวอีกคนหนึ่งของพรรค CNRP เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว ไม่นานหลังถูกจับกุโดยพลการเมื่อเดือน เม.ย. ปีเดียวกัน และที่ผ่านมาไม่มีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระเพื่อจำแนกสาเหตุการเสียชีวิต แม้บนศพจะปรากฏร่องรอยบาดแผลซึ่งมีลักษณะเหมือนถูกทรมาน
อีกทั้งในปี 2560 เขม โสกา ประธานพรรค CNRP ยังคงถูกควบคุมตัวและดำเนินคดีในข้อหาสมคบคิดกับมหาอำนาจจากต่างชาติ นับแต่ถูกจับกุมเมื่อปี 2560 ภายหลังถูกควบคุมตัวในเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดเป็นเวลา 1 ปี ทางการได้เปลี่ยนมาควบคุมตัวเขาในบ้าน โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เข้มงวดตั้งแต่เดือน ก.ย. 2561 เป็นต้นมา
นอกจากนี้ยังพบการให้ตรึงกำลังทหารเพิ่มขึ้นตามจังหวัดชายแดนของกัมพูชา โดยนายกฯ ฮุน เซน สั่งการอย่างเปิดเผยให้กองทัพโจมตีกลุ่มฝ่ายค้านใดๆ ที่จะจัดการชุมนุมในวันที่ 9 พ.ย. 2562 มีการสั่งซ้อมรบของทหารโดยใช้กระสุนจริง และการตรึงกำลังทหารตามเขตเมืองต่างๆ ที่ติดกับชายแดนไทย ยิ่งทำให้เกิดข้อกังวลอย่างมากว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้นในวันดังกล่าว
ขณะที่ความเหลื่อนไหวในอาเซียน พบกรณีของ มู ซกฮัว รองหัวหน้าพรรค CNRP ซึ่งมีทั้งสัญชาติกัมพูชาและสหรัฐฯ ถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวไว้เกือบทั้งวัน เมื่อเดินทางถึงสนามบินนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา เช่นเดียวกับ เงื่อม เคียทา และ เฮง เสียงเหลียง ชาวกัมพูชาอีก 2 คน ถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวเมื่อ 4 พ.ย. 2562 แต่หลังมีข่าวสับสนมาหลายวันว่า จะถูกเนรเทศกลับไปกัมพูชาหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทั้ง 2 ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทางการมาเลเซียประกาศจะปล่อยตัวพวกเขา
นิโคลัส เบเคลัง ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ฯ กล่าว ว่า ช่วงหลายวันที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ข่มขู่และคุกคามอย่างโจ่งแจ้งต่อชาวกัมพูชาตลอดทั่วภูมิภาค ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียใจที่รัฐบาลฮุนเซนพยายามขอความร่วมมือจากเพื่อนบ้านในภูมิภาค ให้ทำการปฏิบัติมิชอบอย่างชัดเจนเช่นนี้ สมาชิกหลายคนของพรรค CNRP ที่ถูกสั่งยุบไปแล้ว ถูกควบคุมตัวหรือถูกคุกคามตลอดทั้งภูมิภาคในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย
นิโคลัส กล่าวถึงท่าทีของทางการมาเลเซียว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะความจริงทั้ง 3 คนไม่ควรถูกควบคุมตัวเลยตั้งแต่ต้น และย้ำว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนต้องปฏิบัติตาม และปฏิเสธที่จะร่วมมือในการปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนของกัมพูชา ทั้งนี้ แอมเนสตี้ฯ ยังพบว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562 ทางการกัมพูชาได้สั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางพลเมืองกัมพูชา 12 คนโดยพลการ เนื่องจากพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรค CNRP
แถลงการณ์ของแอมเนสตี้ฯ ยังกล่าวถึงความพยายามอื่นๆ ของรัฐบาลกัมพูชาในการสกัดกั้นความเคลื่อนไหวของผู้เห็นต่างในภายในกัมพูชาและในกลุ่มอาเซียน เช่น ในประเทศไทย วันที่ 6 พ.ย. 2562 ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจได้สลายกลุ่มชาวกัมพูชา 60 กว่าคน และจับกุมสองคน โดยนำตัวไปสอบสวนหลายชั่วโมงก่อนจะปล่อยตัวไป ในวันที่ 4 พ.ย. 2562 ที่จังหวัดปทุมธานี ตำรวจ 10 กว่านายเข้าล้อมบ้านของชายชาวกัมพูชา แม้ว่าเขาจะหลบหนีออกจากบ้านไปได้แล้ว
หรือกรณีของ มู ซกฮัว ในเดือน ต.ค. 2562 ยังถูกทางการไทยปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ หลังจากทางการกัมพูชาออกหมายจับหัวหน้าพรรค CNRP และเผยแพร่ไปยังผู้นำต่างๆ ในอาเซียน และในวันที่ 6 พ.ย. 2562 ก่อนจะเดินทางไปมาเลเซีย ได้จัดการแถลงข่าวที่อินโดนีเซีย และถูกทูตกัมพูชาเรียกร้องให้ทางการอินโดนีเซียจับกุมตัว รวมถึงเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2562 องค์กรการบินพลเรือนของกัมพูชา ออกมาขู่จะดำเนินคดีกับสายการบินใดๆ ที่ปล่อยให้ สม รังสี เข้ากัมพูชา ในข้อหาสนับสนุนการทำรัฐประหาร
ล่าสุดเมื่อ 7 พ.ย. 2562 สายการบินไม่อนุญาตให้ สม รังสี เดินทางจากฝรั่งเศสมากรุงเทพฯ หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ของไทย กล่าวว่า จะไม่ให้อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาใช้ไทยเป็นทางผ่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี