โคลัมโบ (รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) -ชาวศรีลังกาออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยประเด็นสำคัญที่ผู้สมัครใช้ในการหาเสียงมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงของชาติ และการกำจัดกลุ่มหัวรุนแรง หลังเกิดเหตุระเบิดหลายระลอกในวันอีสเตอร์ที่มีโบสถ์และโรงแรมตกเป็นเป้าหมาย
ชาวศรีลังกาออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันเสาร์ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครมากเป็นประวัติการณ์ถึง 35 คน โดยประเด็นสำคัญที่ผู้สมัครใช้ในการหาเสียงมุ่งเน้นไปที่เรื่องความมั่นคงของชาติ และการกำจัดกลุ่มหัวรุนแรง นักการเมืองและนักวิเคราะห์ระบุว่าตัวเก็งสองคนที่ขับเคี่ยวกันอย่างสูสี คือนายโกตาบายา ราชปักษา วัย 70 ปี อดีตรัฐมนตรีกลาโหมที่คุมกองทัพปราบกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเมื่อสิบกว่าปีก่อน กับนายซาจิท เพรมาดาษา วัย 52 ปี รัฐมนตรีการเคหะและการวัฒนธรรม นายราชปักษาประกาศจะยกเครื่องการรักษาความมั่นคงประเทศ เพราะรู้ว่าชาวสิงหลที่เป็นชาวพุทธและเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงหวาดกลัวจากเหตุระเบิดวันอีสเตอร์เมื่อเดือนเมษายนที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 ศพและกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสอ้างว่าอยู่เบื้องหลัง ขณะที่นายเพรมาดาษา หาเสียงกับคนต่างจังหวัดและผู้หญิงด้วยการชูเรื่องแจกบ้าน ชุดนักเรียน และผ้าอนามัย
การเลือกตั้งวันนี้มีผู้มีสิทธิทั้งหมด 16 ล้านคน สามารถเลือกผู้สมัครได้สูงสุดสามคนเรียงตามลำดับความชอบ ล่าสุดช่วงเช้าวันเสาร์เกิดเหตุกลุ่มมือปืนกราดยิงใส่ขบวนรถโดยสารที่นำชาวมุสลิมไปคูหาเลือกตั้งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ตำรวจระบุว่า กลุ่มคนร้ายเผายางและตั้งกีดขวางบนถนนเพื่อซุ่มโจมตีขบวนรถที่มีมากกว่าร้อยคัน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตศรีลังกามีประชากรมุสลิมมีไม่ถึงร้อยละ 10 พวกเขาเผยว่าถูกปองร้ายตั้งแต่เกิดระเบิดอีสเตอร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี