วอชิงตัน/โซล/โตเกียว (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - สหรัฐกดดันเกาหลีใต้ให้เพิ่มเงินสมทบค่าใช้จ่ายสำหรับทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ และต่ออายุข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองกับญี่ปุ่นที่เกาหลีใต้จะปล่อยให้หมดอายุในสัปดาห์หน้า รวมถึงยังขอให้ญี่ปุ่นเพิ่มค่าใช้จ่ายดูแลทหารอเมริกันที่ประจำการในญี่ปุ่นเป็น 4 เท่า
นายมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายพลจอง คยองโด รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศร่ำรวยจึงควรเพิ่มเงินสมทบสำหรับทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ทั้งสองฝ่ายควรสรุปข้อตกลงกลาโหมที่เกาหลีใต้จะเพิ่มเงินสมทบให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้ ด้านนายพลจองกล่าวว่า เขาและนายเอสเปอร์เห็นพ้องกันว่าข้อตกลงรายปีนี้ควรเจรจาอย่างเป็นธรรมและเห็นด้วยทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ได้เผยว่าเห็นพ้องกันว่าสัดส่วนเท่าใดจึงจะเป็นธรรมหรือไม่ สมาชิกสภาเกาหลีใต้คนหนึ่งเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐเรียกร้องให้เกาหลีใต้จ่ายเงินมากถึงปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 151,100 ล้านบาท) มากกว่าที่เกาหลีใต้ตกลงจ่ายในปีนี้ถึง 5 เท่า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยืนกรานให้เกาหลีใต้เพิ่มเงินสมทบเพื่อช่วยป้องกันการรุกรานจากเกาหลีเหนือ สถาบันเกาหลีเพื่อการรวมชาติเผยผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวเกาหลีใต้ร้อยละ 96 คัดค้านการเพิ่มเงินสมทบ ด้านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือลงบทความวันที่ 16 พ.ย. ว่า การเรียกร้องของสหรัฐเป็นความพยายามปล้นทรัพย์ประเทศอื่นและเสริมสร้างการครอบงำทางทหารในภูมิภาคนี้ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ประกาศว่า จะเจรจารอบใหม่กับสหรัฐในวันที่ 18-19 เดือนนี้ ที่กรุงโซล
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐยังได้เตือนว่า การที่เกาหลีใต้ตัดสินใจไม่ต่ออายุข้อตกลงข้อมูลทางทหารเพื่อความมั่นคงทั่วไปญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ (GSOMIA) ที่จะหมดอายุในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะกระทบต่อความพร้อมทางทหาร ประเทศที่จะได้ประโยชน์หากข้อตกลงหมดอายุและญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ยังคงมีความขัดแย้งคือจีนและเกาหลีเหนือเท่านั้น ด้านรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้กล่าวเพียงว่า เกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะพยายามลดความเห็นต่างก่อนข้อตกลงจะหมดอายุ
ขณะเดียวกัน ฟอเรนโพลิซีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มค่าใช้จ่ายดูแลทหารอเมริกันในญี่ปุ่นจำนวน 54,000 นาย จากปีละ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60,600 ล้านบาท) เป็น 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 242,200 ล้านบาท) ส่วนข้อตกลงปัจจุบันจะหมดอายุในเดือนมีนาคม 2564 สหรัฐเรียกร้องดังกล่าวในช่วงที่นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ในขณะนั้นและนายแมทธิว พอตทิงเกอร์ผู้อำนวยการเอเชีย สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐในขณะนั้นเยือนญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคม โฆษกกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงปฏิเสธว่า รายงานดังกล่าวไม่ถูกต้องและยังไม่มีการเจรจาเรื่องข้อตกลงใหม่แต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี