ทูตจีนประจำประเทศออกโรงเตือนสหรัฐ ยับยั้งกม.อ้างปัญหา"ซินเจียง" เพื่อแทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีน
10 ธันวาคม 2562 นายหลู่ย์ เจี้ยน เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สังคมโลกค่อนข้างพุ่งความสนใจเพิ่มขึ้นในประเด็นของซินเจียง ซึ่งเป็นกิจการภายในของประเทศจีน ข้าพเจ้ายินดีที่จะอธิบายถึงสถานการณ์ของซินเจียงให้ประชาชนชาวไทยได้รับรู้ดังนี้
ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในซินเจียงต้องทนทุกข์ทรมานจากลัทธิความรุนแรงอันสุดโต่งและลัทธิการก่อการร้ายมาเป็นเวลายาวนาน ตั้งแต่ทศวรรษที่ 9 ในศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ซินเจียงได้ดำเนินมาตรการรับมือสถานการณ์ด้วยการมุ่งป้องกันและขจัดการเผยแพร่ลัทธิความรุนแรงอย่างสุดโต่งและลัทธิการก่อการร้ายที่ต้นเหตุ มาตรการเหล่านี้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศจีน และแนวทางปฏิบัติที่ใช้กันทั่วไปในระดับสากล โดยที่ซินเจียงได้จัดตั้งศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมทักษะวิชาชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูก“ล้างสมอง”และได้รับผลกระทบจากลัทธิความรุนแรงสุดโต่งและภัยก่อการร้าย รวมทั้งเพื่อพัฒนาทักษะวิชาชีพของพวกเขา หาใช่ “ค่ายกักกัน” ดังที่มีผู้กล่าวหาไม่
นายหลู่ย์ เจี้ยน ระบุว่า การที่ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ผ่านร่างกฎหมายที่ใช้ชื่อว่า “กฎหมายว่าด้วยนโยบายสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ ปี 2019” ซึ่งเป็นการจงใจให้ร้ายสภาพสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียงของประเทศจีน และเป็นการใส่ร้ายป้ายสีต่อความพยายามของประเทศจีนในการขจัดลัทธิความรุนแรงสุดโตงและปราบปรามภัยก่อการร้ายที่เกิดขึ้นภายในประเทศจีน แถมยังโจมตีนโยบายในการแก้ไขปัญหาซินเจียงของรัฐบาลจีนด้วยใจคอที่เหี้ยมโหด อันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและทำลายหลักการพื้นฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง แสดงพฤติกรรมแทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีนอย่างป่าเถื่อน ซึ่งประเทศจีนต้องขอแสดงท่าทีเคืองแค้นและต่อต้านพฤติกรรมเช่นนี้อย่างเด็ดขาด
นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าวยืนยันว่า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงนั้น ไม่ใช่ปัญหาสิทธิมนุษยชน หรือปัญหาชาติพันธุ์ หรือปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาใดๆ แต่เป็นปัญหาการแก้ไขเหตุการณ์ความรุนแรงและการก่อการร้าย และต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน เราต้องขอแจ้งเตือนให้ฝ่ายสหรัฐอเมริกาได้ทราบด้วยว่า กิจการในมณฑลซินเจียงนั้น เป็นกิจการภายในของประเทศจีนล้วนๆ ไม่อาจยอมรับการแทรกแซงใดๆ จากต่างประเทศ ทางสหรัฐอเมริกาได้ใช้ร่างกฎหมายข้างต้นเพื่อใส่ร้ายป้ายสีต่อมาตรการของประเทศจีนในการต่อต้านภัยก่อการร้ายและขจัดลัทธิความรุนแรงอย่างสุดโต่งนั้น มีแต่จะแสดงถึงสองมาตรฐานในประเด็นปัญหาการต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐอเมริกา และทำให้ประชาชนชาวจีนจะได้ประจักษ์ในภาพลักษณ์อันจอมปลอมหลอกลวงและจิตใจอันเลวทรามชั่วช้าของฝ่ายอเมริกา
ทั้งนี้ รัฐบาลและประชาชนของประเทศจีนมีความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวในการปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ในการพัฒนาประเทศชาติ แม้ว่าฝ่ายสหรัฐอเมริกาจะใช้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงมาทำการยุยงปลุกปั่นให้แตกความสามัคคีระหว่างชาติพันธุ์ต่างๆ ของประเทศจีน หรือเพื่อต้องการทำลายความมั่นคงและมั่งคั่งของซินเจียง หรือจะต้องการยับยั้งการพัฒนาสู่ความแข็งแกร่งของประเทศจีนก็ตาม ล้วนไม่อาจสัมฤทธิ์ผลได้อย่างแน่นอน
"เราขอเตือนให้ฝ่ายสหรัฐอเมริการีบแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ยับยั้งกระบวนการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว และหยุดใช้ประเด็นปัญหาซินเจียงมาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีน ซึ่งประเทศจีนจะเฝ้าสังเกตสถานการณ์และทำการตอบโต้อย่างทันท่วงทีต่อไปประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บางประเทศใช้เครื่องมือสองมาตรฐาน นำเอามาตรการต่อต้านภัยก่อการร้ายมาเป็นเครื่องมือสร้างอิทธิพลทางการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ผลก็คือภัยก่อการร้ายกลับยิ่งรุนแรงกว่าเดิม ถึงขั้นนำไปสู่ความหายนะในภูมิภาค"นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าว
นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าวอีกว่า การต่อต้านลัทธิก่อการร้ายในซินเจียงของประเทศจีน เน้นขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ โดยพึ่งมาตรการปรับปรุงคุณภาพชีวิต แก้ไขทั้งต้นเหตุและปลายเหตุควบคู่กัน สร้างหลักประกันแห่งความผาสุขของประชาชน ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ได้มีกลุ่มองค์กรต่างชาติกว่า 70 คณะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ซินเจียง สัมผัสด้วยสายตาของตนเองซึ่งได้เห็นถึงสถานการณ์ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรื่องในการพัฒนาซินเจียง ซึ่งคณะชาวต่างชาติล้วนแสดงความชื่นชมต่อผลงานความสำเร็จในการต่อต้านภัยก่อการร้ายและขจัดลัทธิความรุนแรงอย่างสุดโต่งในพื้นที่ซินเจียง โดยเห็นว่าเป็นประสบการณ์ความสำเร็จที่ควรค่าแก่การนำไปปรับใช้ในพื้นที่อื่น วิญญูชนย่อมมีความยุติธรรมประจำใจ
นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าวด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ผู้แทนกว่า 60 ประเทศได้แสดงท่าทีสนับสนุนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงของรัฐบาลจีน ผ่านการปราศรัยในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ รวมถึงแสดงท่าทีต่อต้านการกระทำของชาติตะวันตกบางประเทศที่ใช้ "สิทธิมนุษยชน" เป็นข้ออ้างเพื่อแทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีน หรือนำเอาปัญหาสิทธิมนุษยชนมาขยายความให้เป็นประเด็นทางการเมือง ในบรรดาผู้นำ 60 กว่าประเทศนี้ มี 30 กว่าประเทศเป็นประเทศอิสลาม ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ในประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาของซินเจียงนั้น ใครถูก ใครผิดสังคมย่อมแก่ใจ
"กลอุบายใดๆ ที่มุ่งใส่ร้ายป้ายสีต่อประเทศจีนในความพยายามแก้ไขปัญหาภัยก่อการร้ายและลัทธิความรุนแรงสุดโต่งในซินเจียง ย่อมไม่อาจสัมฤทธิ์ผล รวมถึงกลอุบายใดๆ ที่คิดจะแอบอ้างปัญหาซินเจียงมาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีน เพื่อทำลายการพัฒนาสู่ความมั่นคง มั่งคั่งของซินเจียง ย่อมต้องแพ้ภัยตนเองอย่างแน่นอน ประเทศจีนจะยังคงดำเนินงานกิจการภายในของตนเองให้ดีต่อไป ยังคงขับเคลื่อนนโยบายบริหารปกครองซินเจียง เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่งคั่ง สร้างความสามัคคีระหว่างชนชาติต่างๆ สร้างซินเจียงให้เกิดความสมานฉันท์ นี่แหละคือการตอบโต้ที่ทรงพลังที่สุดต่อข่าวลือและคำใส่ร้ายป้ายสีที่มีต่อเรา"นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าว
ทั้งนี้ แม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซินเจียงได้ประสบความสำเร็จในการต่อต้านภัยก่อการร้ายและความรุนแรงสุดโต่ง จนเป็นผลงานที่ประจักษ์ เป็นความจริงที่เหนือกว่าวาทกรรมใดๆ ในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้ พื้นที่ซินเจียงไม่เกิดเหตุความรุนแรงและก่อการร้ายขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธ์ได้รับหลักประกันขั้นพื้นฐานทั้งด้านสิทธิในชีวิต สุขภาพ และการพัฒนาฯลฯ ชาวซินเจียงได้หลุดพ้นจากความหวาดระแวงที่เคยอยู่ภายใต้ภัยคุกคามของลัทธิก่อการร้ายสุดโต่ง และเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างงดงามที่มีความสันติ มั่นคง มั่งคั่งและได้รับการพัฒนา
เมื่อปีที่แล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามณฑลซินเจียงเพิ่มขึ้น 40% ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP)เพิ่มขึ้นมากกว่า 6% สิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาได้รับหลักประกันอย่างเต็มที่ ซึ่งในพื้นที่ซินเจียงมีสถานประกอบกิจกรรมทางศาสนามากกว่า 28,000 แห่ง มีครูสอนศาสนากว่า 30,000 คน ค่าเฉลี่ยชาวมุสลิม 350 คนมีมัสยิด 1 แห่ง ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงกว่าประเทศมุสลิมหลายๆ ประเทศ ข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้แต่สื่อตะวันตกหลายสำนักที่ไม่ปรารถนาดีก็ตาม
"เรื่องของซินเจียงนั้นเป็นกิจการภายในของจีนล้วนๆ สื่อบางแห่งได้ใช้วิธีการที่น่ารังเกียจซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อสร้างกระแสประโคมข่าวปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซินเจียง สาดโคลนใส่ร้ายต่อความพยายามในการต่อต้านภัยก่อการร้ายในซินเจียง ยังมีนักการเมืองบางคนถึงกับไปพบปะหารือกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน “เตอร์กิสถานตะวันออก”อย่างประเจิดประเจ้อ แถมมีพฤติกรรมสนับสนุนขบวนการ “เตอร์กิสถานตะวันออก” อย่างออกนอกหน้า พวกเขาเหล่านี้พยายามที่จะสร้าง “ข่าวปลอม” แต่ก็ถูกตบหน้าประจานด้วยข้อเท็จจริงหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งคนเหล่านี้ได้สูญสิ้นทั้งความซื่อสัตย์และคุณธรรมจริยธรรม"นายหลู่ย์ เจี้ยน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี