16 มกราคม 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ลงนามร่วมกันในข้อตกลงการค้าระยะที่หนึ่งที่ทำเนียบขาว ส่งสัญญาณบวกหลังทั้ง 2 ประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ทำสงครามการค้ามากว่า 2 ปี
โดยทรัมป์กล่าวว่า สิ่งนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญที่ไม่เคยทำกับจีนมาก่อน เพราะถือเป็นคืนความยุติธรรมทางเศรษฐกิจให้กับแรงงานและเกษตรกรอเมริกัน ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ทั้งสองประเทศควรแก้ไขความต่าง ด้วยการมองภาพรวม และว่าข้อตกลงระยะแรก เป็นสิ่งที่ดีต่อทั้งจีน สหรัฐ และโลก
โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว จีนจะเพิ่มมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐทั้งผลิตภัณฑ์เกษตรและสินค้าเทคโนโลยีเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการซื้อสินค้าเกษตร 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าอุตสาหกรรม 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าพลังงาน 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และภาคบริการ 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งยังจะแก้ไขปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา และหลีกเลี่ยงการบิดเบือนค่าเงิน
ด้านเงื่อนไขทางการค้าที่สหรัฐผ่อนปรนให้จีน รวมถึงการลดกำแพงภาษีจาก 15% ลงมาอยู่ที่ 7.5% ต่อมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากจีน 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอัตราเดิมเป็นไปตามมาตรการที่รัฐบาลวอชิงตันบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ปีที่แล้ว โดยข้อตกลงการค้าระยะที่หนึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันนับจากวันลงนาม
สำหรับการเจรจาข้อตกลงการค้าเฟสสองของสหรัฐและจีนจะเริ่มในไม่ช้านี้ อย่างไรก็ตาม จนกว่าจะบรรลุข้อตกลงดังกล่าว สหรัฐจะยังคงเก็บภาษีร้อยละ 25 จากสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ต่อไป โดยจนถึงขณะนี้สหรัฐและจีนยังคงเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่จีนเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของ เรื่องที่สหรัฐการห้ามไม่ให้หัวเว่ย ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีนเข้าสู่ตลาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี