สันติภาพตาลิบัน
วอชิงตัน - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ อนุมัติข้อตกลงสันติภาพกับตาลิบันในอัฟกานิสถานแล้ว แต่มีเงื่อนไขว่า สหรัฐจะลงนามในข้อตกลงสันติภาพ ก็ต่อเมื่อตาลิบันจะต้องแสดงให้เห็นว่า ได้ลดความรุนแรงในอัฟกานิสถาน ติดต่อกัน 7-10 วันภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้โดยขณะนี้ สหรัฐกับตาลิบันกำลังเจรจาสันติภาพกันที่กรุงโดฮาร์ของกาตาร์ และการเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก ทั้ง 2 ฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลงสันติภาพ และข้อเสนอลดความรุนแรงนาน 7 วัน เป็นข้อเสนอที่มาจากฝ่ายตาลิบัน หากสหรัฐบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับตาลิบัน หลังจากการเจรจาอย่างยาวนานตั้งแต่ปีที่แล้ว จะเปิดทางให้สหรัฐสามารถยุติสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานในอัฟกานิสถาน และสหรัฐจะสามารถเริ่มถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานได้ ขณะนี้ สหรัฐมีทหารอยู่ในอัฟกานิสถานราว 12,000 – 13,000 นาย และนายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เพิ่งระบุเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานประมาณ 4,000 นาย ให้ลดเหลือเพียงประมาณ 8,600 นาย
สหรัฐจะขึ้นภาษีแอร์บัส
วอชิงตัน - สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐประกาศว่า เครื่องบินแอร์บัสนำเข้าจากยุโรปจะถูกขึ้นภาษีจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 15 ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม หลังสหรัฐเก็บภาษีเครื่องบินแอร์บัสของยุโรปที่ร้อยละ 10ตั้งแต่เมื่อครั้งประกาศเก็บภาษีลงโทษสินค้ายุโรปมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 234,035 ล้านบาท) เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ตามที่องค์การการค้าโลกอนุญาตให้สหรัฐดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่ออียูที่ให้การอุดหนุนแอร์บัส ครั้งนั้นสินค้าอื่นๆ ของยุโรป เช่น ไวน์ ชีสกาแฟ มะกอก ถูกสหรัฐเก็บภาษีลงโทษร้อยละ 25 สภาสุรากลั่นแห่งสหรัฐเรียกร้องให้อียูยกเลิกการเก็บภาษีวิสกี้อเมริกันที่ร้อยละ 25 และสหรัฐยกเลิกการเก็บภาษีสุราจาก 5 ประเทศยุโรปที่ร้อยละ 25 เช่นเดียวกัน เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐประกาศ การลงนามข้อตกลงการค้าระยะหรือเฟสหนึ่งกับจีนคือก้าวสำคัญในการแก้ไขความผิดพลาดในอดีต ขณะนี้เขาหันมาใช้วิธีการเดียวกันนี้กับอียู เพราะต้องการให้อียูเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
เงินเฟ้อเวเนซุเอลาพุ่ง
การากัส – ธนาคารกลางเวเนซุเอลาระบุว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศในปี 2019 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 9,585% สูงกว่าตัวเลข 7,374% ที่ทางรัฐสภาซึ่งฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้แต่ยังถือว่าต่ำกว่า 20,000% ที่ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศประมาณการเอาไว้ เวเนซุเอลาประสบกับภาวะถดถอยมานานกว่า 5 ปีและวิกฤติเศรษฐกิจได้ทำลายมูลค่าเงินเดือนและเงินออมของประชาชน ส่งผลให้ตัวเลขคนยากจนพุ่งสูงขึ้นและประชาชนมากกว่า 4 ล้านคน ตัดสินใจหลบหนีความขัดสนอพยพออกนอกประเทศ ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร กล่าวโทษวิกฤตทางเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ไปที่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ กระทบต่อรายได้จากน้ำมันคิดเป็นแหล่งรายได้ราว 96% ของเวเนซุเอลา อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามมาดูโรกล่าวโทษรัฐบาลต่อกำลังผลิตน้ำมันที่ลดลงของเวเนซุเอลาว่าบริหารจัดการผิดพลาด เช่นเดียวกับใช้นโยบายกดขี่และล้มเหลวในการทะนุบำรุงโครงสร้างพื้นฐานของประะเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี