ไวรัสลามตะวันออกกลาง
อิหร่านตาย8
ปิดพรมแดน-งดเที่ยวบิน
‘อิรัก-ยูเออี’พบติดเชื้อ
เกาหลีใต้ประกาศด่วน
เตือนรับมือขั้นสูงสุด
ตายแล้ว5-ป่วย602คน
ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน เพิ่มขึ้นอีกร่วม 100 คน ขณะที่สถานการณ์ในหลายประเทศทวีความรุนแรงมากขึ้น เกาหลีใต้สั่งยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด ญี่ปุ่นเตรียมตรวจผู้โดยสารเรือไดมอนด์ ปรินเซส อีกรอบ อิหร่านวิกฤติหนักที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 43 คน เสียชีวิตแล้ว 8 คน เพื่อนบ้านประกาศปิดพรมแดน ห้ามเข้าประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ว่า คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ “โควิด-19” ระหว่างเดือนธันวาคม 2562ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,442 คน เพิ่มขึ้น 97 คน ผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอีก 648 คน เป็นอย่างน้อย 76,936 คน ในจำนวนนี้อย่างน้อย 10,968 คน “ยังมีอาการวิกฤติ” แต่ได้รับการรักษาจนหายแล้ว 22,888 คน
นอกจากนั้น ยังมีผู้ป่วยอีก 69 คนในฮ่องกง เสียชีวิตแล้ว 2 คน ในมาเก๊ามีผู้ติดเชื้อสะสม 10 คน และที่ไต้หวันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คนจากจำนวนผู้ป่วยสะสม 26 คน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในต่างประเทศมีความน่าวิตกกังวลมากขึ้น โดยเกาหลีใต้มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 556 คน เสียชีวิตแล้ว 4 คน ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยสะสม 135 คน เสียชีวิตแล้ว 1 คน นอกจากนั้นยังมีผู้ป่วยนานาชาติอีกอย่างน้อย 634 คน จากเรือสำราญ “ไดมอนด์ ปรินเซส” และเสียชีวิตแล้ว 2 คนเป็นชาวญี่ปุ่นทั้งคู่ ตามด้วยสิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อสะสม 89 คน และอิตาลีมีผู้ป่วยสะสม 79 คน และเสียชีวิตแล้ว 2 คน
เกาหลีใต้ยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ว่าประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ว่าภายหลังประชุมฉุกเฉินร่วมกับคณะรัฐมนตรีและหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ทุกฝ่ายเห็นพ้องให้ยกระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุขในประเทศ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ขึ้นเป็นสีแดง ที่เป็นระดับสูงสุดจากทั้งหมด 4 ขั้น ซึ่งจะเป็นการยกระดับการดำเนินการโดยทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ในการยับยั้งการแพร่กระจายของโรคดังกล่าวให้เร็วที่สุด โดยการยกระดับเตือนภัยด้านสาธารณสุขถึงระดับสีแดงของเกาหลีใต้ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11ปี นับตั้งแต่การเตือนภัยการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ เมื่อปี 2552 ซึ่งใช้ขั้นสูงสุดเช่นกัน
ยอดติดเชื้อกว่า600เสียชีวิตแล้ว5
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้ รุนแรงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน จากจำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศอย่างน้อย 602 คน อย่างไรก็ตาม จุดวิกฤติที่สุดในตอนนี้คือความเชื่อมโยงระหว่างสถานที่ 2 แห่งกับผู้ป่วยส่วนใหญ่ ที่แรกคือโบสถ์ของลัทธิชินชอนจิ ซึ่งมีความเชื่อเกี่ยวกับวันสิ้นโลก โดยสาขาของโบสถ์ที่เมืองแดกู ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ คือสถานที่ซึ่งผู้ป่วยคนที่ 31 เป็นหญิงอายุ 61 ปี เข้าไปร่วมกิจกรรมอย่างน้อย 4 ครั้ง ตอนนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี ) กักบริเวณสมาชิกของโบสถ์ชินชอนจิในเมืองแทกูแล้วเกือบ 10,000 คน ทั้งที่บ้านของแต่ละคน และสถานที่ซึ่งทางการจัดเตรียมไว้
ส่วนสถานที่อีกแห่งคือโรงพยาบาลแดนัม ในเมืองช็องโด ใกล้กับเมืองแทกู เป็นสถานที่ซึ่งพบผู้เสียชีวิตคนที่ 1 และคนที่ 4 ตอนนี้มีการปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ชั่วคราว พร้อมทั้งกักบริเวณบุคลากรการแพทย์ และผู้ป่วยทุกคนซึ่งรักษาตัวอยู่ที่นี่ อนึ่ง รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศให้เมืองแทกูและเมืองช็องโด เป็นพื้นที่บริหารจัดการพิเศษด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาด้วย
ตรวจซ้ำผู้โดยสารเรือไดมอนด์ฯ
ทางด้าน นายคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่น ได้กล่าวขออภัยกรณีสตรีที่เป็นผู้โดยสารบนเรือ ไดมอนด์ ปริ๊นเซส ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือที่จอดอยู่ใกล้กับกรุงโตเกียว ถูกตรวจพบในเวลาต่อมาว่าติดเชื้อโควิด-19 สตรีรายนี้มีอายุ 60 กว่าปี ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากถูกกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่มาพบในเวลาต่อมาว่าเธอติดเชื้อโควิด-19 หลังจากที่เข้าตรวจร่างกายซ้ำที่บ้านของเธอในจังหวัดโตชิกิ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียวว่า ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จากความผิดพลาดของทางเจ้าหน้าที่ ทางรัฐบาลจะใช้มาตรการที่จำเป็นที่มีอยู่ อย่างเช่น การตรวจสอบซ้ำ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบซ้ำผู้โดยสาร 23 คน ที่ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือมาแล้ว ส่วนอีกด้านหนึ่ง เครื่องบินลำที่ 3 ที่มีผู้ที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง 5 คน ที่ถูกกักตัวบนเรือ ไดมอนด์ ปรินเซส นานกว่า 2 สัปดาห์ ลงจอดในฮ่องกงแล้วในวันนี้ ผู้โดยสาร 5 รายนี้ เป็นกลุ่มหนึ่งในจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 200 คนที่เดินทางกลับฮ่องกงนับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทั้งหมดจะนำตัวไปยังสถานที่สำหรับกักตัว ในเขตนิวเทอร์ริทอรีส์ เพื่อดูอาการเป็นเวลา 14 วันว่าติดเชื้อไวรัสหรือไม่
อิหร่านวิกฤติดับเพิ่มอีก2ราย
ขณะที่สถานการณ์ในอิหร่านกำลังวิกฤติที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยทางการอิหร่านประกาศเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า พบผู้ติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-1- เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 10 คน โดยมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นในอิหร่านอีก 2 รายด้วย
ตัวเลขที่ทางการประกาศใหม่นี้ทำให้ยอดผู้ติดไวรัสโควิด-19 ในอิหร่านเพิ่มขึ้นเป็น 29 คนแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอิหร่านเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 6 ราย ตัวเลขดังกล่าวยิ่งทำให้เกิดความหวั่นวิตกเกี่ยวกับการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอิหร่านเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ขณะที่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) พบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 2 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาอิหร่านและภรรยา ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในยูเออีเพิ่มขึ้นเป็น 13 คน ทั้งยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายแรกในเลบานอน โดยเป็นหญิงที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากอิหร่าน
ล่าสุดหลายประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ อิรักประกาศปิดพรมแดนที่ติดกับอิหร่านโดยสั่งห้ามบุคคลสัญชาติอิหร่านเดินทางข้ามแดนมายังอิรัก พร้อมกับระงับเที่ยวบินระหว่างกัน ส่วนคูเวตสั่งยกเที่ยวบินไปยังอิหร่านทั้งหมดแล้ว ด้านซาอุดีอาระเบียสั่งห้ามพลเรือนเดินทางไปอิหร่าน และห้ามชาวอิหร่านเดินทางเข้าประเทศ
อิตาลีเลื่อนแข่ง“กัลโช เซเรียอา”
ฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา ของอิตาลีเลื่อนการแข่งขัน 3 นัดในวันนี้ออกไปก่อนเนื่องจากหวั่นเกรงเรื่องการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางตอนเหนือของประเทศ โดยการแข่งขันของทีมอินเตอร์ มิลาน ซึ่งกำลังไล่ล่าตำแหน่งแชมป์ กับซามพ์โดเรีย เป็น 1 ใน 3 นัด ที่ถูกเลื่อนออกไป ส่วนอีก 2 นัด ได้แก่ การแข่งขันระหว่างอตาลันตากับซาสซูโอโล และเวโรนากับกายารี เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสในอิตาลีเพิ่มขึ้นเป็น 79 รายแล้วและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลี ประกาศเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ให้ยกเลิกการแข่งขันกีฬาทุกรายการในวันอาทิตย์ในแคว้นทางภาคเหนือ 2 แคว้นคือ เวเนโต และลอมบาร์ดี นอกจากนี้ ยังสั่งปิดการเดินทางเข้าออกในพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสด้วย
ยอดติดเชื้อพุ่ง79เสียชีวิต2
ส่วนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในอิตาลี ได้รับการยืนยันว่ามีจำนวน 2 ราย หลังมีการประกาศผู้เสียชีวิตรายแรกไปก่อนหน้านี้เป็นชายวัย 78 ในภูมิภาคเวเนโต้ ล่าสุดหญิงวัย 77 ปีที่ถูกพบเสียชีวิตภายในบ้านพักที่ห่างจากเมืองมิลานไปทางตอนใต้ราว 50 กิโลเมตรก็ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตเนื่องจากไวรัสโคโรนาเช่นกัน ส่วนผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 79 คนแล้ว ส่งผลให้ทางการอิตาลีต้องสั่งยกเลิกกิจกรรมในที่สาธารณะทั้งหมด ขณะที่บริษัทได้แจ้งพนักงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสให้ทำงานจากบ้านได้ โดยอิตาลีกลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รุนแรงที่สุดในยุโรป
นักท่องเที่ยวจีนหายป่วยอีก1ราย
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุขุม กาญจนพิมายปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอกาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ. อนุรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมกันแถลงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ของไทย ขณะนี้ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 14 ราย กลับบ้านแล้ว 21 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 1 ราย โดยเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 54ปี รวมสะสม 35 ราย สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม-22 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,355 ราย โดยคัดกรองจากสนามบิน 68 ราย มารับรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,287 ราย คัดกรองแล้ว 3,046,342 ราย ซึ่งอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,071 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และยังคงรักษาในโรงพยาบาล 284ราย ทั้งนี้ถานการณ์ทั่วโลกใน 30 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 78,673 ราย เสียชีวิต 2,459 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 76,932 ราย เสียชีวิต 2,441 ราย
ย้ำไทยทำตามเกณฑ์มาตรฐาน
นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า ขณะนี้พบว่าผู้ป่วยที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล มีจำนวน 14 ราย ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น โดยมีผู้ป่วยหนัก 2 ราย ซึ่งอาการยังคงที่อยู่และยังใช้เครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโรค (WHO) ยังมีข้อแนะนำในการห้วงเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด ตลอดจนยังไม่มีการกำหนดเป็นมาตรการจำเพราะสำหรับผู้ที่เดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งไทยก็ได้ทำตามตามเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าว พร้อมทั้งได้เพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังและคัดกรองระหว่างระเทศในทุกช่องทางการเข้าออกประเทศ ควบคุมทั้งด่านบก เรือ อากาศ ตลอดจนกระทั่งเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลทุกแห่งทั้งรัฐและเอกชน
ไปพื้นที่เสี่ยงต้องดูแลตัวเองให้ดี
นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนที่เดินทางจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดอย่างต่อเนื่องหรือมีการระบาดภายในประเทศ ได้แก่ จีน รวมถึงฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้รวมถึง นอกจากนี้ยังมีประเทศที่เฝ้าระวังการแพร่ระบาดคือ อิหร่าน และอิตาลี ขอให้รับผิดชอบสังคม โดยการเฝ้าระวังอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน งดไปในที่ชุมชน งดใช้ขนส่งสาธารณะ งดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น หากมีอาการสงสัยว่าป่วยให้สวมหน้ากากอนามัย วัดไข้ทุกวันถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ แจ้งประวัติการเดินทาง หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
วอนสถานศึกษาจัดมาตรการเอื้อเด็ก
นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงกรณีที่มีหลายสถานศึกษาให้นักเรียน นักศึกษา และบุคลากร ไปโรงพยาบาลเพื่อขอตรวจเชื้อและขอใบรับรองแพทย์ก่อนไปโรงเรียนนั้น ไม่แนะนำ เนื่องจาก การไปตรวจหาเชื้อในช่วงที่ไม่มีอาการ มีโอกาสพบเชื้อน้อยมาก การไปโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็นจะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล ทั้งนี้ ขอความร่วมมือนักเรียน นักศึกษา บุคลากรที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด พักอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน โดยขอวิงวอนให้สถานศึกษาจัดระบบการเรียนไม่ให้เด็กขาดการเรียน จัดให้มีมาตรการคัดกรองทุกวัน เพื่อจะได้แยกไปไว้ในสถานที่คัดกรองได้ทัน จัดให้มีเจ้าหน้าที่เพื่อประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และต้องจัดให้มีอุปกรณ์สำหรับล้างมือและแอลกอฮอล์เจลอย่างเพียงพอ
แนวทางรักษาแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการนำพลาสมาของผู้ป่วยคนไทยรายแรกที่ติดเชื้อแล้วหายดี มาช่วยรักษาผู้ป่วยอาการหนักของไทย 2 ราย ที่ใช้ทั้งเครื่องช่วยพยุงปอด (เอคโม) ว่า ทั้งคู่อาการทรงตัว ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งวิธีการรักษาใดๆจะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับอาการรุนแรงของผู้ป่วย และการจะนำตัวยาใดไปรักษาผู้ป่วยนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยทุกคนได้ ต้องมีแนวทางคัดเลือกต่างๆ เพราะบางคนอาจจะดีขึ้นบางคนอาจรุนแรง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกัน ส่วนเรื่องการใช้พลาสมาของบุคคลที่หายดี ก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้ทุกคน เพราะต้องประเมินหลายด้าน เช่น การเข้ากันของพลาสมา บุคคลนั้นมีโรคประจำตัวอื่นๆ หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ว่า ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 78,866 ราย เสียชีวิต 2,464 ราย รักษาหายแล้ว 23,334 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี