เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 เว็บไซต์ นสพ.The Moscow Times ของรัสเซีย เสนอข่าว “Moscow’s Small Businesses Feel the Pinch Under Coronavirus Lockdown” ระบุว่า หลังจาก เซอร์เก โซบยานิน (Sergey Sobyanin) นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ประกาศมาตรการ “ล็อกดาวน์ (Lockdown)” ปิดกิจการต่างๆ ในเมืองหลวงของรัสเซีย โดยเหลือไว้แต่เพียงเท่าที่จำเป็น พร้อมกับให้ประชาชนราว 12 ล้านอยู่แต่ในบ้าน เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อมในเมืองกังวลว่าจะไม่สามารถกลับมาเปิดกิจการได้อีกหลังวิกฤติโรคระบาดผ่านพ้นไปแล้ว
ตัวแทนผู้ประกอบการเล่าว่า 9 ใน 10 ของธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟและบาร์ อาจไม่รอดจากวิกฤติครั้งนี้ อาทิ เวรา (Vera) ผู้ร่วมก่อตั้งร้านกาแฟ KofeMOLKA กล่าวว่า ในขณะที่รัฐบาลกำหนดมาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่นั่นเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวสำหรับปัญหาระยะยาวที่จะเกิดขึ้น วันนี้ตนยอมรับว่าต้องนำเงินออมของร้านมาจ่ายภาษีและจ่ายค่าจ้างให้พนักงานตราบเท่าที่ยังทำได้ ในขณะที่รัฐมีมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการยังจ่ายค่าจ้างต่อไป แต่ตนก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ธุรกิจหลายแห่งอาจต้องปิดตัวอย่างสมบูรณ์
เช่นเดียวกับ อเล็กซานเดอร์ (Alexander) เจ้าของร้านขายอะไหล่รถยนต์ กล่าวว่า คำสั่งปิดกรุงมอสโกทำลายธุรกิจของตน และมันอาจทำทลายธุรกิจขนาดเล็กในเมืองในท้ายที่สุด ตนเห็นหลายคนมีเงินเหลือน้อยในช่วงถูกกักตัว ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อการกักกันสิ้นสุดลง แต่วันนั้นกำลังซื้อของผู้คนจะเหลือศูนย์ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าหากรัฐบาลกลางประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็น่าจะทำให้บรรดาเจ้าของทรัพย์สินที่ยังเก็บค่าเช่าจากผู้ประกอบการที่กำลังเผชิญวิกฤติหยุดมือได้บ้าง และรัฐบาลเองก็ควรหยุดเก็บค่าน้ำประปา-ไฟฟ้าด้วย
รวมถึง แอนนา (Anna) ผู้ก่อตั้งบริษัทนำเที่ยว Mir Puteshestviy เปิดเผยว่า บริษัทของตนลดการพาลูกค้าไปต่างประเทศมาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 และหลังจากรัสเซียหยุดเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตอนแรกตั้งใจจะหันมาทำธุรกิจนำเที่ยวภายในประเทศ แต่ก็ต้องหยุดไปเรื่อยๆ เมื่อ วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศให้หยุดการทำงานทั่วประเทศตลอดทั้งสัปดาห์ ตนได้รับความล่าช้าเรื่องภาษี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายและหนี้เงินกู้หรือไม่หลังการกักกันสิ้นสุดหรือไม่ จะดีกว่าหากบรรเทาผลกระทบผู้จ่ายภาษีทั้งหมด
แต่นั่นยังไม่เท่าข้อกังวลว่าธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจะมีโอกาสฟื้นกลับมาหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 ได้จริงหรือ เดิมทีชาวรัสเซียจำนวนมากก็ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้บ่อยๆ ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติแล้ว และเมื่อวิกฤติสิ้นสุดลง ผู้คนน่าจะเก็บออมเงินสำหรับไว้ใช้กับสิ่งที่จำเป็นมากกว่าการไปพักผ่อนในต่างประเทศ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าตนอาจเลือกปิดกิจการอย่างถาวร
เซอร์เก บาบานิน (Sergei Babanin) เจ้าของโรงเรียนสอนว่ายน้ำ เล่าว่า จำนวนนักเรียนเริ่มลดลงตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 เมื่อเริ่มมีข่าวการระบาดของไวรัสโควิด-19 และในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนก็หยุดเรียนไปเพราะเริ่มทำงานที่บ้าน โรงเรียนจึงอยู่ในสภาพปิดไปเรื่อยๆ เพราะครูฝึกเองก็ไม่สามารถสอนทางไกลได้ เนื่องจากไม่มีทางที่จะพัฒนาทักษะการว่ายน้ำที่ดีกว่าบนช่องทางออนไลน์ และแม้วิกฤติจะผ่านไปแต่การฟื้นตัวคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่สามารถลงทะเบียนเรียนแบบส่วนตัว เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมากที่ต้องเก็บไว้ใช้ก่อน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อีกด้านหนึ่ง ยังมีบางธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากปรับเปลี่ยนการให้บริการไปเป็นทางออนไลน์ อาทิ ยีกอร์ (Yegor) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทรับออกแบบสถาปัตยกรรม กล่าวว่า บริษัทของตนให้บริการแก่ผู้มีรายได้ดี แม้จะเผชิญกับอุปสรรค เช่น เข้าไม่ถึงการวัดพื้นที่ในสถานที่ที่ลูกค้ากักกันตนเอง ประกอบกับบริษัทที่ผลิตวัสดุส่งให้ก็ปิดตัวลง โครงการที่ต้องส่งมอบจึงล่าช้าไปด้วย แต่ก็เป็นความท้าทายที่ทีมงานของตนจะให้ความสนใจกับงานของพวกเขาจากที่บ้าน ถึงกระนั้นธุรกิจก็ยังพออยู่ได้
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.themoscowtimes.com/2020/04/02/moscows-small-businesses-feel-the-pinch-under-coronavirus-lockdown-a69810
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี