“โดนัลด์ ทรัมป์”ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่พอใจ “องค์การอนามัยโลก” ที่ยกย่องจีนว่าโปร่งใสในการแก้ปัญหาโควิด-19 ทั้งที่มีเหตุผลเชื่อได้ว่าตัวเลขความสูญเสียมีมากกว่านี้ ขู่ระงับให้เงินอุดหนุน ขณะสถานการณ์สหรัฐยังคุมการระบาดโควิด-19 ไม่อยู่ ยอดติดเชื้อ
ทะลุ4แสนราย ยอดตายพุ่งไม่หยุด มหานครนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตแซงหน้าเหตุวินาศกรรมเมื่อปี2544 ไปแล้ว หลายชาติในยุโรปเร่งใช้ทุกมาตรการหยุดยั้งการระบาดเชื้อไวรัสมรณะ ส่วนที่เมือง‘อู่ฮั่น’ผู้คนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาหลังจีนยกเลิกล็อกดาวน์
เมื่อวันที่ 8 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ว่า ที่สหรัฐอเมริกา ยังคงมียอดผู้ติด มากที่สุดในโลก ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเกิน 400,000 คนไปแล้ว และมีผู้เสียชีวิตอีกเกือบ 13,000 คน ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตส่วนใหญ่เกือบครึ่งอยู่ที่รัฐนิวยอร์ก เฉพาะที่มหานครนิวยอร์ก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ไปกว่า 4,000 คนแล้ว ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุวินาศกรรมสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ซึ่งในคร้้งนั้นมีผู้เสียชีวิตไป 2,977 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้เสียชีวิตในมหานครนิวยอร์ก 2,753 คน อย่างไรตาม จำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้ามารับการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ในมหานครนิวยอร์กมีจำนวนที่ลดลง เมื่อเทียบกับเมื่อสัปดาห์ก่อน
ทรัมป์ไม่ปลื้มอนามัยโลกอวยจีน
ขณะที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้แสดงความไม่พอใจต่อองค์การอนามัยโลก โดยระบุว่า องค์การอนามัยโลกลำเอียงที่ไปยกย่องจีนว่ามีความโปร่งใสในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งที่มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่ามีผู้คนล้มตายจากโควิด-19 มากกว่าที่ทางการจีนเปิดเผยอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งระบุด้วยว่า สหรัฐอาจระงับการให้เงินอุดหนุนองค์การอนามัยโลก แต่เมื่อถูกผู้สื่อข่าวซักถามว่าการระงับให้เงินช่วยเหลือดังกล่าวในเวลานี้เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ ทรัมป์ กลับตอบว่า สิ่งที่เขาพูดไปเป็นเพียงเรื่องที่คิดไว้เฉยๆ เท่านั้น
เตรียมส่งเครื่องช่วยหายใจช่วยรัฐต่างๆ
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า ตอนนี้รัฐบาลกลางสหรัฐมีเครื่องช่วยหายใจอยู่ในคลังแห่งชาติทั้งหมด 8,675 เครื่อง ซึ่งพร้อมจัดส่งให้กับรัฐต่างๆ ที่มีความต้องการ และในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะมีเครื่องช่วยหายใจเข้ามาเพิ่มในคลังอีก 110,000 เครื่อง
ผู้นำสหรัฐระบุว่า อังกฤษได้ร้องขอเครื่องช่วยหายใจจำนวน 200 เครื่องจากสหรัฐ ซึ่งทั้งหมดจะนำไปช่วยผู้ป่วยติดเชื้อในอังกฤษ ผู้นำสหรัฐยังส่งกำลังใจไปให้กับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ที่กำลังต่อสู้กับโรคโควิด-19 อยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลเซนต์โธมัสในกรุงลอนดอน
ส่วนการให้ความช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อม ที่มีลูกจ้าง 500 คน หรือน้อยกว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของทรัมป์ กำลังจัดหางบประมาณเพิ่มเติมอีก 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาพยุงธุรกิจเหล่านี้ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากได้จัดสรรเงินกู้กว่า 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ธุรกิจต่างๆ ราว 250,000 แห่ง
ฝรั่งเศสยอดตายพุ่งทะลุหมื่นคน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศฝรั่งเศส ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1,417 คน ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดเสียชีวิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 10,328 ราย ฝรั่งเศสจึงกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตทะลุหมื่นรายเป็นประเทศที่ 4 ต่อจากอิตาลี สเปน และสหรัฐ และมีผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสแล้วราว 100,000 คน ขณะที่ยอดผู้ป่วยใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบเพิ่มอีก 11,059 คน ยอดผู้ป่วยสะสมมีมากกว่า 1 แสนคน โดยทางรัฐบาล มีคำสั่งให้ประชาชนในกรุงปารีสอยู่ในบ้านให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ห้ามประชาชนออกกำลังกายนอกบ้านระหว่างเวลา 10.00-19.00 น. และจะอนุญาตให้ทำได้ในเวลา 19.00-10.00 น.ของวันถัดไปเท่านั้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
นายกฯอังกฤษอาการคงที่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูเป็นวันที่ 2 หลังติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยทำเนียบนายกรัฐมนตรี เผยว่า จอห์นสันมีอาการคงที่ ได้รับการบำบัดด้วยออกซิเจน แต่ยังไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแต่อย่างใด ไม่พบอาการของโรคปอดอักเสบ และแพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเขามีขวัญกำลังใจที่ดี
ด้าน นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจากโรคติดเชื้อโควิด-19 ยืนยัน รัฐบาลยังคงตั้งเป้าตรวจหาเชื้อให้กับประชาชนทั่วไปและบุคลากรทางแพทย์ให้ได้วันละ 100,000 คนภายในสิ้นเดือนนี้
ขณะที่ เซอร์ แพทริค วัลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล ระบุยังต้องใช้เวลาอีกกว่าสัปดาห์ รวมทั้งข้อมูลอีกจำนวนมากที่จะบ่งชี้ว่ามาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมมีส่วนทำให้แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษเริ่มคงที่
อิตาลีหวั่นระบาดหนักช่วงอีสเตอร์
ขณะที่ในอิตาลี จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ยังคงลดลงโดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 3,039 คน ขณะที่มาตรการปิดประเทศของรัฐบาลอิตาลีย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5ในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นบททดสอบครั้งสำคัญว่าประชาชนจะยังคงปฏิบัติตามมาตรการให้อยู่แต่ในบ้านเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้หรือไม่
โดยกรรมาธิการวิสามัญแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของอิตาลี หวั่นอาจเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงเทศกาลอีสเตอร์จากการที่ผู้คนออกจากบ้านมาร่วมฉลอง และวิงวอนประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัดต่อไป อิตาลีมีผู้ติดเชื้อแล้วราว 135,000 คน เสียชีวิตราว 17,000 คน
แรงงานใน‘อู่ฮั่น’ทยอยกลับบ้าน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า แรงงานจากเมืองอื่นๆ ของจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ในวันแรกหลังจากรัฐบาลจีนยกเลิกคำสั่ง “ล็อกดาวน์ (Lockdown)” ห้ามประชาชนออกจากบ้านและออกจากเมือง เนื่องจากอู่ฮั่นเป็นพื้นที่ต้นตอการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนจะลุกลามเป็นวิกฤติระดับโลกในเวลาต่อมา โดยคำสั่งดังกล่าวเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 23 มกราคม และสิ้นสุดลงเมื่อเวลาของวันที่ 7 เมษาย ทางหลวงที่ถูกปิดกั้นก็เปิดให้รถยนต์สัญจรได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับรถไฟขบวนแรกที่ออกจากเมืองในเวลา 00.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ยอดจองตั๋วรถไฟเกิน5หมื่นใบ
เว็บไซต์เว่ยป๋อ (Weibo) ชุมชนออนไลน์ยอดนิยมของชาวจีน มีการพูดถึงการยกเลิกคำสั่งปิดเมืองอู่ฮั่นอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาเดินเข้าสู่วันใหม่ หลายคนโพสต์ข้อความ welcome back Wuhan (ยินดีต้อนรับกลับนะอู่ฮั่น) ขณะที่รายงานจากสำนักข่าว CCTV สื่อท้องถิ่นของจีน ระบุว่า มียอดขายตั๋วรถไฟออกจากเมืองอู่ฮั่นถึง 55,000 ใบ ในวันที่ 8 เมษายน
รายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ที่เริ่มมีรายงานการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ในเมืองอู่ฮั่นมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะนี้ถึง 2,571 ศพ คิดเป็นร้อยละ 80 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดในจีน จนรัฐบาลแดนมังกรต้องมีคำสั่งให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน อู่ฮั่นในฐานะเมืองอุตสาหกรรมอีกทั้งเป็นชุมทางการเดินทางและขนส่งสินค้าก็มีสภาพไม่ต่างจากเมืองร้าง มีเพียงรถสายตรวจและรถพยาบาลเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้สัญจรไป-มา
กระทั่งในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุด ในอู่ฮั่นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 2 ครั้ง และเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ทางการจีนแถลงยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก ซึ่งทางการจีนพยายามทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับมาดำเนินการ พร้อมกับการเฝ้าระวังการระบาดครั้งใหม่ โดยเฉพาะจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมถึงผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการแต่สามารถแพร่เชื้อได้ ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 137 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่อาศัยในอู่ฮั่นต้องได้รับการรับรองว่ามีสุขภาพดี หรือมีเอกสารแสดงถึงเหตุผลจำเป็นเท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านได้
ติดเชื้อทั่วโลก1.4ล้าน ดับ8.3หมื่นราย
สถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของ ไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในช่วงเย็นวันที่ 8 เมษายน 2563 ตามเวลาประเทศไทย มีดังนี้ ผู้ติดเชื้อรวม 1,446,896 ราย เสียชีวิตรวม 83,087 ราย รักษาหายรวม 308,644 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี