หมอสหรัฐฆ่าตัวตาย!
เครียดไวรัสโควิดระบาดหนัก
นักโทษเปรูจลาจลถูกยิงดับ9
สุดสลด!แพทย์หญิงชาวอเมริกัน ด่านหน้าในการต่อสู้กับ “ไวรัสโควิด-19” ฆ่าตัวตายที่บ้านพักในรัฐเวอร์จิเนีย หลังจิตใจได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักจากการทำหน้าที่ ต้องเห็นคนป่วย-เสียชีวิตมากขึ้นทุกวัน ส่วนที่เปรู นักโทษถูกยิงเสียชีวิต 9 ราย หลังก่อเหตุจลาจลสาเหตุเกิดจากสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดทำให้มีผู้ติดไวรัสมรณะในเรือนจำเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 29 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ทั่วโลกก็ควรจะเดินหน้าตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ให้ได้มากที่สุด ขณะที่สหรัฐ เองก็ยังคงเดินหน้าตรวจอย่างเต็มที่และว่าสหรัฐ เป็นประเทศที่มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก และเร็วๆ นี้จะทำการตรวจได้มากกว่าวันละ 5 ล้านคน
ด้านนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า เวลานี้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตในรัฐนิวยอร์กต่างก็ลดลงแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเพียง 335 คนซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์และเป็นตัวเลขต่ำกว่า 400 ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่ยอดรวมผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่เกือบ 18,000 คน
ประชาชนหลายรัฐยังต้านล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อรายใหม่ลดลง แต่เมื่อวานนี้ พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งที่ 2,207 คน ซึ่งมากกว่าเมื่อวันก่อนที่มีผู้เสียชีวิตราว 1,300 คน ขณะที่ยอดรวมทั้งประเทศสูงเกือบ 60,000 คนแล้ว และมีผู้ติดเชื้อสะสมราว 1,040,000 ล้านคน
ขณะนี้หลายรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และอนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มเปิดทำการได้อีกครั้ง แต่รัฐส่วนใหญ่ยังคงมีมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคต่อไปท่ามกลางการประท้วงของประชาชน ตัวอย่างเช่น ในรัฐมินนิโซตาที่ผู้คนพากันต่อต้านคำสั่งให้อยู่กับบ้าน ซึ่งครั้งนี้เป็นการประท้วงครั้งที่ 3 แล้วในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
สุดเศร้า!แพทย์หญิงฆ่าตัวตาย
นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า ดร.ลอร์นา บรีน อายุ 49 ปี ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล นิวยอร์ก เพรสไบทีเรียน ในเขตแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ขณะที่อยู่บ้านกับครอบครัวที่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย โดยคาดว่าสาเหตุเนื่องมาจากสภาวะทางจิตใจที่ย่ำแย่ กับการต้องเจอกับวิกฤติคนป่วยและคนเสียชีวิตจำนวนมากจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับ ดร.ลอร์นา เป็นหัวหน้าฝ่ายคนไข้ฉุกเฉินของโรงพยาบาล ถือเป็นบุคลากรแนวหน้าในการรับมือกับ โควิด-19 ในนิวยอร์ก หนึ่งในรัฐที่มีการระบาดหนักที่สุดในสหรัฐฯ เธอเคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อหายแล้วจึงกลับเข้าไปทำงานต่อได้ราวหนึ่งสัปดาห์ครึ่ง แต่ทางโรงพยาบาลส่งตัวกลับบ้านเพราะอาการไม่ค่อยดี จากนั้นครอบครัวจึงพาไปอยู่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ก่อนที่เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยเธอถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้
ยกย่องให้เป็นแบบอย่างหมอที่ดี
ทางด้าน ดร.ฟิลิป บรีน ผู้เป็นพ่อของ ดร.ลอร์นา เปิดใจว่า ดร.ลอร์นา พยายามจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และนั่นเป็นสิ่งที่ฆ่าเธอ
“ลูกสาวผมทำงานอยู่ด่านหน้า แน่นอนว่าเธอจะได้รับยกย่องให้เป็นฮีโร่ เพราะเธอเป็นจริงๆ” ดร.บรีน กล่าว และว่า ดร.ลอร์นา ไม่มีประวัติป่วยทางจิต จากการพูดคุยกันครั้งสุดท้าย ลูกสาวเล่าถึงรายละเอียดที่เห็นภาพเจ็บปวดใจ มีผู้ป่วยโควิด-19 สิ้นใจก่อนเจ้าหน้าที่จะพาออกจากรถฉุกเฉินด้วยซ้ำ
ขณะที่โรงพยาบาล นิวยอร์ก เพรสไบทีเรียน อัลเลนออกแถลงการณ์ยกย่อง ดร.ลอร์นาเป็นฮีโร่ เป็นแบบอย่างหมอที่ดี เป็นที่รักของเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน
โดย ดร.ลอว์เรนซ์ เอ. เมลไนเกอร์ รองประธานแผนคุณภาพของโรงพยาบาล กล่าวว่า ดร.ลอร์นาเป็นผู้ได้รับความเคารพว่า คนที่มีตำแหน่งเท่ากับหมอลอร์นาแสดงว่าต้องเก่งมาก อย่างไรก็ตาม การทำงานเป็นหมอแผนกฉุกเฉินในนิวยอร์ก ต้องเผชิญกับสถานการณ์บีบคั้นทางสุขภาพจิตที่ไม่ธรรมดา ในฐานะที่นิวยอร์กเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา
ฝรั่งเศส-สเปนจ่อเปิดธุรกิจ-โรงเรียน
นายกรัฐมนตรี เอดัวร์ ฟีลิป แถลงต่อสภาฝรั่งเศสในวันอังคารว่า จะค่อยๆ ทยอยเปิดโรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยจำกัดจำนวนนักเรียนห้องเรียนละไม่เกิน 15 คน ขณะเดียวกัน ก็ยังจะอนุญาตให้กลับมาเปิดธุรกิจได้อีกครั้ง แต่ห้างร้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากกว่า 40,000 ตารางเมตร รวมถึงคาเฟ่และร้านอาหารจะยังคงปิด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนรักษาระยะห่างทางสังคม
ส่วนที่สเปน ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรป นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ แถลงว่า จะอนุญาตให้ร้านค้า และร้านอาหาร ทยอยกลับมาเปิดธุรกิจได้อีกครั้งเป็นระยะๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามการเดินทางระหว่าง 50 จังหวัดในประเทศจะยังคงถูกจำกัด
‘ปูติน’สั่งขยายล็อกดาวน์ ถึง11พ.ค.
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แถลงเมื่อวันอังคาร เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยืนยันรัฐบาลยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม วิกฤติด้านสาธารณสุขในรัสเซียจากเชื้อโรคดังกล่าวยังอยู่ในภาวะซับซ้อน และ”ยังไม่ผ่านพ้นจุดวิกฤติ”
ทั้งนี้ ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนที่ผ่านมา จนล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 93,558 ราย สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก มีผู้เสียชีวิต 867 ศพ ราวครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยกว่า 20,000 รายอยู่ในเมืองหลวงกรุงมอสโก
บราซิลยอดตายแซงจีนแล้ว
กระทรวงสาธารณสุขบราซิลแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อยู่ที่ 5,107 คน มากกว่าจีนที่พบการระบาดเป็นแห่งแรกของโลกและมีผู้เสียชีวิต 4,643 คน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา บราซิลมีผู้เสียชีวิต 474 คน และมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 71,886 คน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นอีกเพราะมีผู้เสียชีวิต 1,156 คนที่อยู่ระหว่างการตรวจหาสาเหตุ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตในบราซิลอาจสูงกว่าตัวเลขทางการ 12-15 เท่า เพราะขาดแคลนชุดตรวจขณะที่มีประชากรมากถึง 210 ล้านคน และสถานการณ์รุนแรงที่สุดในอเมริกาใต้
นักโทษเปรูก่อจลาจล ถูกยิงดับ9คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุจลาจลขึ้นที่เรือนจำแห่งหนึ่ง กลางกรุงลิมา เมืองหลวงของเปรู โดยมีการปะทะกันระหว่างผู้ต้องขังกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ต้องขัง 9 คน ถูกยิงเสียชีวิต ชนวนเหตุสืบเนื่องมาจากการที่ผู้ต้องขังตามเรือนจำต่างๆ ในเปรูต้องอยู่อย่างแออัด ทำให้ผู้ต้องขังอย่างน้อย 13 คน เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และผู้ต้องขังอีกกว่า 500 คน ติดเชื้อ ขณะที่บางกระแสระบุว่า มีผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่เรือนจำติดเชื้อแล้วเกือบ 1,400 คน
ทั้งนี้ เปรูพบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศแล้ว เกือบ 30,000 ราย นับว่าสูงเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค รองจากบราซิล และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 782 ศพ
จีนพบติดเชื้อรายใหม่22คน
ส่วนที่จีน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 21 คน ส่วนผู้ติดเชื้อในประเทศเพียงคนเดียวอยู่ที่มณฑลกวางตุ้ง ขณะที่เมื่อวานนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จนถึงขณะนี้ จีนพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วถึง 1,660 คน แต่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศเสียชีวิต ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดอยู่ที่กว่า 82,000 คน คนเสียชีวิตกว่า 4,600 คน ขณะเดียวกัน จีนเตรียม
ติดเชื้อทั่วโลก3.1ล้านดับ2.1แสน
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับจนถึงเย็นวันที่ 29 เมษายน 2563 ตามเวลาในประเทศไทย พบว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อ 3,149,233 ราย เสียชีวิต 218,385 ราย รักษาจนหายป่วยแล้ว 962,763 ราย ประเทศสหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ 1,035,765 ราย เสียชีวิต 59,266 ราย สเปน ติดเชื้อ 232,128ราย เสียชีวิต 23,822 ราย อิตาลี ติดเชื้อ 201,505 ราย เสียชีวิต 27,359 ราย ฝรั่งเศส ติดเชื้อ 165,911 ราย เสียชีวิต 23,660 ราย อังกฤษ ติดเชื้อ 161,145 ราย เสียชีวิต 21,678 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี