30 เมษายน 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน รอน เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเขากังวลเกี่ยวกับการล็อคดาวน์ของสหรัฐฯ เพื่อชะลออัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
“ถ้าคำสั่งล็อคดาวน์ยังดำเนินต่อไป ผู้คนจะไม่มีเงินใช้แม้แต่แดงเดียว” รอนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว
เขาเสริมว่าหากผู้คนถังแตก ย่อมมีอาชญากรรมเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้งานของเขายากและอันตรายยิ่งขึ้น
ไม่ใช่เพียงรอนคนเดียวที่กังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ ในสถานการณ์ที่ชาวอเมริกันนับล้านถูกสั่งพักงานหรือเลิกจ้าง หลังประเทศแห่งนี้ประกาศล็อคดาวน์เพื่อยับยั้งไวรัสโคโรนา
หลายคนในกลุ่มนี้คือผู้ใช้แรงงาน ที่สามารถทำงานได้ด้วยการลงแรง ซึ่งรวมถึงคนงานในโรงงาน ช่างทำผม บริกร และบาร์เทนเดอร์ ตรงกันข้ามกับพนักงานออฟฟิศ หรือผู้ทำงานด้วยทักษะความรู้ ที่ส่วนใหญ่ทำงานได้จากที่บ้าน
แน่นอนว่าทัศนคติของคนสองกลุ่มต่อการล็อคดาวน์ครั้งนี้แตกต่างกันอย่างชัดเจน ขณะที่พนักงานชาวอเมริกันหลายคนไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องนี้ ทว่าผู้ใช้แรงงานจำนวนมากต้องการให้เศรษฐกิจกลับมาเปิดดำเนินการโดยทันที
บรรดาทนายความและพนักงานในบริษัทใหญ่ๆ ชื่นชอบคำสั่งล็อกดาวน์ เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ยังมีงานทำปกติ ทั้งยังสามารถทำงานที่บ้านได้ หลายคนกล่าวว่าพวกเขาสะดวกสบายกับการทำงานที่บ้าน แถมมีโอกาสได้สูดอากาศบริสุทธิ์และออกกำลังกายมากกว่าปกติ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงสนับสนุนนโยบายอยู่บ้านของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม อนิตา หมอจัดกระดูกที่ตอนนี้ทำได้แค่รับงานบางเวลา เพราะโดนลูกค้าส่วนใหญ่ยกเลิกนัด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า ถ้าเป็นคนที่แข็งแรงและไม่ใช่ผู้สูงอายุก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องกลัวไวรัส
เธอกล่าวว่าคนหนุ่มสาวและคนที่มีสุขภาพดีควรกลับไปทำงาน พร้อมอ้างอิงคำแถลงของศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯ ว่าผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ขณะนี้ รัฐหลายแห่งกำลังพยายามกลับมาเปิดใหม่ แม้จะดำเนินการได้ช้าลง เนื่องจากมีแนวทางที่กำหนดให้ธุรกิจต่างๆ เช่นร้านอาหาร ต้องลดความหนาแน่นของผู้คนในสถานที่ลงร้อยละ 50 และปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระบบ (CSSE) ของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) ประกาศสถิติเมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 30 เม.ย. ว่ามีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดโควิด-19 จำนวน 1,040,488 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 60,999 รายทั่วประเทศ
รัฐนิวยอร์กได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดโดยมีผู้ป่วย 299,691 รายและผู้เสียชีวิต 23,477 ราย รองลงมาคือรัฐนิวเจอร์ซีย์ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 6,771 ราย, รัฐมิชิแกนมีผู้เสียชีวิต 3,670 รายและรัฐแมสซาชูเซตส์ที่เสียชีวิต 3,405 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี