ทรัมป์โล่งไม่ติดโควิด
หลังตรวจพบทหารรับใช้ป่วย
ยุโรปคลายล็อกดาวน์ต่อเนื่อง
รัสเซียป่วยเกินหมื่น6วันรวด
เกาหลีใต้เตือนเลี่ยง‘ไนท์คลับ’
ยูเอ็นวอนหยุดความเกลียดชัง
ทำเนียบขาวยืนยันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หลังเจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐนายหนึ่ง ผู้ทำหน้าที่บริการในทำเนียบขาวรวมทั้งจอดรถส่วนตัวให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัส ขณะที่หลายประเทศในยุโรปเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ส่วนเกาหลีใต้เครียด จับตาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไนท์คลับย่าน
อิแทวอน กรุงโซล
นางเคลลีแอน คอนเวย์ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เข้ารับการตรวจทดสอบการติดเชื้อแล้ว และผลยืนยันว่าทรัมป์ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า ตัวเขาและรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ได้รับการตรวจทดสอบการติดเชื้อมาตลอด และยังคงมีสุขภาพแข็งแรงด้วยกันทั้งคู่
ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐนายหนึ่ง ผู้ทำหน้าที่บริการในทำเนียบขาว รวมทั้งจอดรถส่วนตัวให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จริงหลังมีอาหารป่วยตั้งแต่วันพุธ สร้างความวุ่นวายไม่น้อยในทำเนียบขาวในช่วง2-3 วันที่ผ่านมา สำหรับตำแหน่งคนรับใช้หรือเจ้าหน้าที่บริการในทำเนียบขาว จะต้องช่วยเหลือประธานาธิบดีและครอบครัวในหลายโอกาส นอกจากช่วยนำรถยนต์ประจำตำแหน่งไปเก็บแล้ว ยังมีหน้าที่ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งเดินทางทางรถยนต์ไปกับประธานาธิบดีและครอบครัวเมื่อไปเยือนสถานที่ต่างๆ ด้วย
หลายรัฐกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน รัฐต่างๆ ในสหรัฐเริ่มกลับมาเปิดเมือง ผ่อนคลายการคุมเข้มโรคโควิด-19 อย่างที่รัฐเนวาดา ประกาศให้ร้านอาหาร ร้านตัดผม และธุรกิจอีกหลายประเภทเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันเสาร์นี้ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่รัฐมอนแทนา โรงเรียนบางแห่งเริ่มเปิดเรียนอีกครั้ง โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายนักเรียนทุกคน รวมทั้งจัดโต๊ะเรียนให้ห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร นางแนนซี เปโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ระบุสหรัฐควรมีมาตรฐานกลางเพื่อให้รัฐต่างๆ ใช้เป็นแนวทางผ่อนคลายการล็อกดาวน์อย่างปลอดภัย ความเห็นของนางเปโรซีมีขึ้น หลังรัฐบาลสหรัฐไม่ยอมใช้แนวทางผ่อนปรนการล็อกดาวน์ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี เสนอ
ยุโรปผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด
ส่วนสถานการณ์ในยุโรป หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดที่ประกาศใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เตือนการเร่งรีบผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ มากเกินไปเสี่ยงต่อการกลับมาแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด-19 ขณะที่ในวันอาทิตย์นี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ จะประกาศมาตรการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นต่อไป จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอังกฤษแล้วกว่า 30,000 คน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 200,000 คน
ส่วนที่ฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีเอดัวร์ ฟิลิป เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังประสบความคืบหน้าในการหยุดยั้งการแพร่ระบาด แต่สำหรับบางแคว้น รวมถึงกรุงปารีส ที่ถูกจัดเป็นพื้นที่สีแดง ยังต้องคงมาตรการคุมเข้มต่อไป ชาวกรุงปารีสที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะในชั่วโมงเร่งด่วนต้องแสดงใบรับรองจากที่ทำงาน และต้องสวมหน้ากากอนามัย ผู้นำฝรั่งเศสเผยว่า โรงเรียนมัธยม ร้านกาแฟ และร้านอาหารอาจเปิดตามปกติได้ในราวต้นเดือนมิถุนายน ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เกือบ 26,000 คน
ที่นอร์เวย์ รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้สถานที่ราชการและบริษัทเอกชนส่วนใหญ่กลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ราวกลางเดือนมิถุนายนนี้ รัฐบาลนอร์เวย์ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่เริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดบางอย่างตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนหลังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดภายใต้แผนการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ร้านเหล้าและสวนสนุกสามารถเปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 มิถุนายน ผู้คนสามารถชุมนุมกันได้ไม่เกิน 20 คน นอร์เวย์พบผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 คน เสียชีวิตเกือบ 220 คน
รัสเซียติดเชื้อเกินหมื่นเป็นวันที่6
ขณะที่รัสเซียสถานการณ์การแพร่ระบาดยังวิกฤติ หลังช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจนถึงวันศุกร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 10,699 คน เป็นการพบผู้ติดเชื้อเกินหลักหมื่นวันที่ 6 ติดต่อกัน เพิ่มจำนวนผู้ป่วยสะสมในประเทศเป็น 187,859 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตพบเพิ่มอีก 98 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,723 คน
ส่วนภาพรวมในเอเชีย ฮ่องกงเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัด โดยมีการเปิดบาร์ โรงยิม ร้านเสริมสวย และโรงภาพยนตร์อีกครั้ง หลังจากที่ฮ่องกงสามารถควบคุมการระบาด โดยบาร์ได้รับอนุญาตให้เปิดได้ครึ่งความจุ และต้องเว้นระยะ 1.5 เมตรระหว่างโต๊ะ แต่ยังไม่อนุญาตให้แสดงดนตรีสด และเต้นรำ ส่วนโรงยิม โรงภาพยนตร์ และสถานเสริมความงามจะต้องเว้นระยะห่างทางสังคม เช่น ต้องเว้นช่องว่างระหว่างเสื่อโยคะ รวมถึงต้องวัดอุณหภูมิ และทำความสะอาดมือก่อนเข้าใช้บริการ นอกจากนี้ทางการยังคลายข้อจำกัดให้สามารถจับกลุ่มกันได้ถึง 8 คน จากเดิมที่อนุญาตให้จับกลุ่มได้ไม่เกิน 4 คน ขณะที่ร้านอาหารก็ได้รับอนุญาตให้รับจองเป็นกลุ่มได้มากถึง 8 คนเช่นกัน ส่วนธุรกิจไนท์คลับ และคาราโอเกะ ยังคงปิดให้บริการ
เกาหลีใต้หวั่นยอดติดเชื้อพุ่ง
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้หรือเคซีดีซี รายงานในวันศุกร์ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ได้รับการยืนยันแล้วอย่างน้อย 15 คนเกี่ยวข้องกับการไปไนท์คลับในย่านอิแทวอน ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวเกาหลีและชาวต่างชาติ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเกาหลีใต้เพิ่งรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงไม่กี่คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่า การติดเชื้อในไนท์คลับจะเพิ่มขึ้นและยังเป็นช่วงที่เกาหลีใต้กำลังผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม
ผู้อำนวยการเคซีดีซีกล่าวว่า ไนท์คลับเป็นสถานที่ที่น่าวิตกมากที่สุด เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากและอาจไม่มีระบบการระบายอากาศที่ดีพอ จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ยูเอ็นวอนร่วมมือหยุดความเกลียดชัง
นายอันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิแห่งความเกลียดชัง และหวาดกลัวคนชาติอื่น นายกูเตียร์เรส ไม่ได้เอ่ยถึงประเทศใดเป็นการจำเพาะ ระบุเพียงว่าการระบาดของโควิด-19 ได้สร้างความเกลียดกลัว เกลียดชัง และมีการสร้างข่าวลือให้หวาดกลัวคนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งตามท้องถนน และบนโลกออนไลน์ ด้วยเหตุนี้ทุกประเทศ รวมทั้งสื่อ และบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ต้องร่วมมือกันหยุดยั้งการพูดที่สร้างความเกลียดชังทั่วโลก
ติดเชื้อทั่วโลก3.9ล้านคน
สถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของ ไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในช่วงเย็นวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 มีผู้ติดเชื้อรวม 3,923,595 ราย เสียชีวิตรวม 271,011 รายรักษาหายรวม 1,348,978 ราย โดยสหรัฐยังเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก 1,292,879 ราย เสียชีวิต 76,942 ราย สเปน ติดเชื้อ 256,855 ราย เสียชีวิต 26,060 ราย อิตาลี ติดเชื้อ 215,858 ราย เสียชีวิต 29,958 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี