เกาหลีใต้ปูพรม
ติดตามกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด
หลังพบผู้ป่วยโยงผับดัง120คน
‘WHO’ย้ำไวรัสยังอยู่อีกนาน
ชี้รีบเปิดเมืองอาจเกิดหายนะ
ทั่วโลกดับเซ่นเฉียด3แสนราย
ทั่วโลกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กว่า 4.4 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 3 แสนคน ส่วนที่เกาหลีใต้ กลุ่มผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในย่านอีแทวอน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 120 คน ขณะที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันตามหากลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ด้านองค์การอนามัยโลกยืนยัน เชื้อไวรัสร้ายจะยังอยู่กับมนุษยโลกไปอีกนานพร้อมเตือนหากเร่งรีบเปิดเมืองโดยไม่มีระบบตรวจจับการระบาด อาจนำไปสู่หายนะทั้งทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 นับจนถึงช่วงเย็นวันที่ 14 พฤษภาคม ตามเวลาในประเทศไทย พบว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อจำนวน 4,442,919 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 298,327 ราย รักษาหายแล้ว 1,668,364 รายโดยสหรัฐ มีผู้ติดเชื้อ 1,430,348 ราย เสียชีวิต 85,197 ราย สเปน ติดเชื้อ 271,095 ราย เสียชีวิต 27,104 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 252,245 ราย เสียชีวิต 2,305 ราย สหราชอาณาจักร ติดเชื้อ 229,705 ราย เสียชีวิต 33,186 ราย อิตาลี ติดเชื้อ 222,104 ราย เสียชีวิต 31,106 ราย
วิจัยพบเสียงพูดแพร่ไวรัส12นาที
ผลการศึกษาของนักวิจัยที่สถาบันโรคเบาหวาน โรคทางเดินอาหาร และโรคไต แห่งชาติของสหรัฐ (NIDDK) ซึ่งมีการตีพิมพ์ลงในวารสาร PNAS เมื่อวานนี้ ระบุว่า ละอองน้ำลายขนาดเล็กจากการพูด สามารถคงอยู่ในอากาศในพื้นที่ปิด ได้นานกว่าสิบนาที และแสดงให้เห็นถึงบทบาทของมันในการแพร่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
คณะนักวิจัยได้ให้ผู้ทดลอง พูดคำว่า “รักษาสุขภาพ” ซ้ำๆ กัน เป็นเวลา 25 วินาที ในกล่องปิด และฉายแสงเลเซอร์ ทำให้มองเห็นละอองน้ำลายจากนั้นก็นับจำนวน และพบว่า ละอองน้ำลายสามารถอยู่ในอากาศ ได้เป็นเวลาเฉลี่ยถึง12นาที นอกจากนี้ในผลงานของทีมนักวิจัยชุดเดียวกัน ซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ เมื่อเดือนเมษายน ก็ได้เคยตั้งข้อสังเกตไว้แล้วว่า ยิ่งพูดค่อยลง ก็จะยิ่งทำให้เกิดละอองน้ำลายน้อยลง หากสามารถยืนยันได้ว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สามารถแพร่ได้โดยการพูด ก็จะถือเป็นข้อสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ต่อคำแนะนำของหลายๆ ประเทศ ที่ให้สวมหน้ากากอนามัย และช่วยอธิบายถึงสาเหตุที่ไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
จนท.ขายตั๋วถูกถ่มน้ำลายสิ้นใจแล้ว
ที่ประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่หญิง วัย 47 ปีคนหนึ่ง ที่ทำงานประจำช่องจำหน่ายตั๋วของสถานีวิคตอเรีย ใจกลางกรุงลอนดอน ได้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หลังจากถูกชายที่อ้างว่าติดเชื้อไวรัสถ่มน้ำลายใส่ โดยรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตถูกชายคนดังกล่าว ซึ่งไอถ่มน้ำลายใส่เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับเจ้าหน้าที่หญิงรายนี้ มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ และเสียชีวิต ในสองสัปดาห์ถัดมา และขณะนี้ตำรวจอังกฤษ ได้เริ่มการสอบสวนเพื่อติดตามผู้ต้องสงสัยแล้ว ขณะที่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้หยิบยกเหตุการณ์ถ่มน้ำลายดังกล่าว ขึ้นมาประณามระหว่างการประชุมรัฐสภาในวันพุธโดยระบุว่า เป็นเรื่องน่าเกลียดอย่างยิ่ง
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่หญิงที่เสียชีวิตไม่ได้รับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และถูกนายจ้างสั่งให้ทำงานต่อหลังเกิดเหตุ ขณะที่สหภาพแรงงานของผู้เสียชีวิตได้เรียกร้องให้ออกมาตรการปกป้องแรงงานที่อยู่แถวหน้า โดยระบุว่าการเสียชีวิตของเธอเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้
แอฟริกาพบผู้ป่วยทั้งทวีป
ส่วนสถานการณ์ในแอฟริกา ราชอาณาจักรเลโซโธ เพิ่งพบผู้ป่วยโควิด-19 เป็นรายแรกของประเทศเมื่อวันพุธ ทำให้เลโซโธ ซึ่งเป็นประเทศเดียวในแอฟริกา ที่รอดจากโควิด-19 มานานหลายเดือน กลายเป็นประเทศสุดท้ายในแอฟริกาใต้ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด19 และทำให้ทวีปแอฟริกาติดเชื้อโควิด-19 ทั้งทวีป ซึ่งมีทั้งหมด 54 ประเทศ สำหรับผู้ติดเชื้อรายแรกของเลโซโธ เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และตรวจพบเชื้อโควิด19 เป็นบวก โดยไม่แสดงอาการป่วย
เกาหลีใต้ป่วยเพิ่ม91คนใน1วัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ว่า ศุนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศ ว่าผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 260 คน หลังมีการยืนยันเพิ่มอีก 1 คน และผู้ได้รับการรักษาหายมีจำนวนเพิ่มเป็นอย่างน้อย 9,762 คน เพิ่มขึ้น 67 คน และคงเหลือผู้ป่วยอยู่ในระบบอย่างน้อย 969 คน แต่ในจำนวนนี้ 55 คนยังมีอาการวิกฤติ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 10,991 คน หลังมีการยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 91 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเกาหลีใต้ตรวจคัดกรองประชาชนไปแล้ว 711,484 คน โดยในรอบวันที่ผ่านมามีผู้เข้ารับการตรวจอีก 15,564 คน
กลุ่มติดเชื้อโยงอีแทวอนพุ่ง120คน
อนึ่ง เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ป่วยใหม่พบว่า 26 คนมีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในย่านอีแทวอนของกรุงโซล ทำให้จำนวนผู้ป่วยกลุ่มนี้สะสมเป็นอย่างน้อย 120 คนแล้ว ในจำนวนนี้ 72 คนอยู่ในกรุงโซล ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยยืนยันคนแรกจากสถานที่แห่งนี้ เป็นชายอายุ 29 ปี ใช้บริการสถานบันเทิง 5 แห่ง ระหว่างคืนวันที่ 1 ถึงช่วงรุ่งสางของวันที่ 2 พฤษภาคม แล้วไปพบแพทย์ในวันเดียวกัน และผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ปัจจุบันทุกฝ่ายกำลังร่วมมือกันเร่งติดตามตัวประชาชนซึ่งเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงติดโรคโควิด-19 จากสถานบันเทิงในย่านแทวอน ท่ามกลางความกังวลว่าสถานการณ์จะลุกลามเป็นวงกว้าง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบการติดเชื้อแบบทุติยภูมิ และอาจมีแบบตติยภูมิด้วย เนื่องจากสอบสวนโรคพบผู้ป่วยชายวัย 25 ปีคนหนึ่ง ใช้บริการสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในย่านอีแทวอน แล้วแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่นอีก 14 คน รวมถึงนักเรียนอย่างน้อย 2 คนในเมืองอินชอน ที่ผู้ป่วยคนนี้เป็นครูสอนพิเศษ
อนามัยโลกย้ำโควิดยังระบาดอีกนาน
นายไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารของโครงการสุขภาพฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเตือนว่า หนทางยังอีกยาวไกลกว่าที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะอยู่ภายใต้การควบคุม โดยการแถลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ประเทศต่างๆ กำลังทยอยลดข้อจำกัดในการควบคุมการระบาดของไวรัส บางประเทศแม้ไวรัสจะหวนกลับมาระบาดเพียงเล็กน้อย แต่ก็สร้างปัญหาใหญ่ด้านสาธารณสุข พร้อมระบุว่า ไวรัสโคโรนา 2019 อาจเป็นไวรัสอีกชนิดที่จะวนเวียนอยู่ในชุมชนของเราไปตลอด โดยไม่หายไปไหน และได้เน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการพัฒนาวัคซีน อย่างไรก็ตาม เอชไอวี (HIV) ก็ไม่ได้หายไปไหนเช่นกัน แต่เมื่อพบวิธีการรักษา และการป้องกัน ผู้คนก็ไม่รู้สึกกลัวเหมือนอย่างที่เคยเป็น
นายไรอัน ยังได้เตือนว่า หลายพื้นที่ของโลกยังมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ หากคลายการปิดเมืองโดยไม่มีระบบตรวจจับการระบาด การระบาดก็จะเร่งตัวขึ้นอีก และทำให้ต้องใช้มาตรการปิดเมืองอีก และจะนำไปสู่วัฏจักรแห่งความหายนะด้านสุขภาพ ตามมาด้วยหายนะทางเศรษฐกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี