16 พ.ค. 2563 เว็บไซต์ The Geopolitics ซึ่งนำเสนอข่าวสารประเด็นการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เผยแพร่บทความ “Why Southeast Asia Is Relatively Spared by COVID-19” เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา บทความดังกล่าวเขียนโดย สม รังสี (Sam Rainsy) อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ปัจจุบันลี้ภัยการเมืองในต่างประเทศ ตั้งสมมติฐานว่าเหตุใดผู้คนในประเทศกลุ่มอุษาคเนย์ อันประกอบด้วย เมียนมา ไทย ลาว กัมพูชาและเวียดนาม เสียชีวิตจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ บนโลก โดยอาจมาจากปัจจัย 4 ข้อ ดังนี้
1.อุณหภูมิ มีข้อสังเกตว่าไวรัสอาจแผลงฤทธิ์ได้รุนแรงในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิ 10-15 องศาเซลเซียส เห็นได้จากในช่วงแรกๆ ที่มีการระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เวลานั้นอุณหภูมิของอู่ฮั่นก็ไม่เกิน 15 องศาเซลเซียส จนกระทั่งถึงเดือน มี.ค. 2563 ขณะที่ประเทศเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 25-40 องศาเซลเซียส ไวรัสจึงไม่อาจแผลงฤทธิ์ได้เต็มที่
2.เศรษฐกิจและประชากร ประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งผู้คนโดยเฉลี่ยมีรายได้ต่อหัวสูง เช่น ในภูมิภาคยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ ล้วนมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จำนวนมาก พบความคล้ายคลึงบางอย่างในประเทศเหล่านี้ อาทิ แต่ละประเทศมีสัดส่วนประชากรวัยเกษียณค่อนข้างมาก รวมถึงผู้คนจำนวนไม่น้อยมีภาวะอ้วนเพราะกินอิ่มมีอาหารเหลือเฟือแต่ขาดการออกกำลังกาย
ซึ่งจากสถิติแล้วเห็นชัดเจนว่าผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว คือกลุ่มเสี่ยงที่หากติดเชื้อโควิด-19 จะมีโอกาสเสียชีวิตสูง เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ อาทิ ร้อยละ 80 ของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในโลกตะวันตก มีอายุมากกว่า 70 ปี รวมถึงหลายคนยังมีโรคอื่นๆ อยู่ในร่างกายอยู่ก่อนแล้ว แต่หากมองไปยังประเทศยากจน เช่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) สัดส่วนคนวัยหนุ่ม-สาว ที่มีสุขภาพดีนั้นมีจำนวนมากกว่า
3.ภูมิคุ้มกันต่อโรคไข้มาลาเรีย มีข้อสังเกตว่าผู้คนในประเทศเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อนจะได้รับผลกระทบจากมาลาเรียน้อยกว่าผู้คนในประเทศเขตหนาว มาลาเรียมีที่มาจากเชื้อปรสิต “พลาสโมเดียม (Plasmodium) เชื้อนี้มีบางส่วนคล้ายกับเชื้อตระกูลโคโรนาไวรัส (Coronavirus) เช่น จีโนมที่ทำจากกรดไรโบนิวคลีอิก (RNA) จึงอาจเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด-19 ในบรรดาผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคไข้มาลาเรีย นอกจากนี้ยังพบว่า คลอโรควิน (Chloroquine) ยารักษามาลาเรีย อาจใช้รักษาผู้ป่วยจากไวรัสโควิด-19 ได้
4.ปัจจัยพันธุกรรมของฮีโมโกลบิน อี (Hemoglobin E) ข้อสังเกตนี้มาจาก ฌอง เบอร์นาร์ด (Jean Bernard) แพทย์ชาวฝรั่งเศสที่มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 2450-2549 โดย นพ.เบอร์นาร์ด ศึกษาประวัติศาสตร์อาณาจักรเขมรโบราณซึ่งเคยเรืองอำนาจในอุษาคเนย์ ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 (ราวปี 1743-1942) มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่กัมพูชาทั้งประเทศ รวมถึงบางส่วนของเวียดนาม ลาว ไทยและเมียนมา
แล้วพบว่า ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพชนในอาณาจักรดังกล่าวมีฮีโมโกลบิน อี ในเซลล์เม็ดเลือดแดง อันเป็นลักษณะเด่นทางพันธุกรรมของผู้คนที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้ ข้อสังเกตข้างต้นนำมาสู่ข้อค้นพบที่ว่า ฮีโมโกลบิน อี มีความเชื่อมโยงกับภูมิคุ้มกันโรคไข้มาลาเรีย ทำให้ชาวเขมรในสมัยโบราณมีชีวิตรอดอยู่ได้ในพื้นที่ที่ไข้มาลาเรียระบาดอย่างรุนแรง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี