28 พ.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) กรุงปักกิ่งที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ของจีน ซึ่งประชุมกันมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว โดยมีตัวแทนเกือบ 3,000 คน จากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม ได้มีมติในวันนี้ด้วยเสียงข้างมาก 2,878 เสียง คัดค้าน 1 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียงเห็นชอบหลักการเกี่ยวกับ"กฏหมายความมั่นคง"ที่จะทำให้จีนสามารถเข้าไปบังคับใช้กลไกเพื่อพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติ ภายในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้
สำหรับร่างกฎหมายดังกล่าว มีสาระสำคัญรวมถึง การห้ามมิให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดจัดกิจกรรมที่ถือเป็นการท้าทายอย่างร้ายแรงต่อหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ การทำลายหลักนิติธรรมแห่งรัฐ การเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและการพัฒนาผลประโยชน์นั้น รวมทั้งมีมาตรการในการป้องกัน หยุดยั้งและลงโทษการกระทำที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติอย่างรุนแรง เช่น ความพยายามที่จะแยกประเทศหรือล้มล้างอำนาจรัฐรวมถึงกิจกรรมของกองกำลังต่างชาติ ในการแทรกแซงกิจการของฮ่องกง
ทั้งนี้ การผ่านร่างกฏหมายดังกล่าว สร้างความหวั่นวิตกว่า จะทำให้การประท้วงภายในฮ่องกงขยายวงมากขึ้น โดยเมื่อวานนี้ ( 27 พ.ค.)มีชาวฮ่องกงออกไปประท้วงร่างกฏหมายธงชาติจีน ก่อนที่จะถูกสลายการชุมนุมและถูกจับไปกว่า 300 คน
ขณะที่เมื่อก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่า เขากำลังเตรียมการที่จะตอบโต้จีน ภายในสัปดาห์นี้ กรณีที่จีนพยายามออกกฎหมายความมั่นคงเกี่ยวกับฮ่องกง ซึ่งมีการเสนอเรื่องนี้ในการประชุมสภาประชาชนจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวทำเนียบขาว สอบถามทรัมป์ว่าจะเป็นการลงโทษจีนใช่หรือไม่ แต่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด โดยบอกเพียงว่า เวลานี้กำลังดำเนินการบางอย่าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี