เจ้าชายเบลเยียมติดเชื้อโควิด
ทั่วโลกดับ3.7แสน
ป่วยสะสม6.17ล้านคน
สหรัฐฯยังครองแชมป์
บราซิลระบาดต่อเนื่อง
หมอคาดป่วยเพิ่ม15เท่า
ยอดตายจากไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกพุ่ง ทำสถิติทะลุ 3.7 แสนศพ ติดเชื้อ 6.17 ล้านคน วันเดียวเพิ่ม 1.22 แสน สหรัฐฯ ครองแชมป์ ขณะที่หมอบราซิล คาดมีผู้ติดเชื้ออีก 15 เท่า ส่วน “โคลอมเบีย” ออกมาตรการใหม่ใน 3 เมืองระบาดหนัก ด้าน “เจ้าชายเบลเยียม” ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังไปร่วมงานปาร์ตี้ที่สเปน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานถึงจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ว่า เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 371,286 ศพ
หลังจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4,051 ราย ในรอบ 24ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยประเทศสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากที่สุด อยู่ที่ 994ราย ทำให้ยอดรวมของผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ อยู่ที่ 105,536 ราย ส่วนประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับที่2 ยังคงเป็นประเทศอังกฤษ อยู่ที่ 38,376 ราย อิตาลี 33,340 ราย บราซิล แซงฝรั่งเศสและสเปนขึ้นรั้งอันดับที่4 อยู่ที่ 28,834 ราย ฝรั่งเศส 28,771 ราย และสเปน 27,125 ราย
ส่วนผู้ติดเชื้อทั่วโลก อยู่ที่ 6,176,486 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดถึง 122,197ราย ซึ่งบราซิล ได้แซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อใน 1 วัน มากที่สุด อยู่ที่ 30,102 ราย ขณะที่สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 22,232 ราย รัสเซีย 8,952 ราย อินเดีย 8,336 ราย เปรู 7,386 ราย ชิลี 4,220 ราย เม็กซิโก 3,227 ราย ปากีสถาน 2,429 ราย กาตาร์ 2,355 ราย และอิหร่าน 2,292 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 1,815,762 ราย บราซิล 498,440 ราย รัสเซีย 396,575 ราย สเปน 286,308 ราย อังกฤษ 272,826 ราย อิตาลี 232,664 ราย ฝรั่งเศส 188,625 ราย เยอรมนี 183,294 ราย อินเดีย 181,827 ราย ตุรกี 163,103 ราย เปรู 155,671 ราย และอิหร่าน 148,950 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว อยู่ที่ 2,727,690 คน
รายงานข่าวจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ วันเดียวกัน ระบุว่าทางศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รัฐแมรีแลนด์ รายงานสถานการณ์โลกเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว และเสียชีวิตด้วยโรคนี้ ว่านับตั้งแต่มีการยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 สถิติผู้ติดเชื้อทั่วโลก ได้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 6 ล้านราย และรักษาหายแล้ว 2.5 ล้านราย แต่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 370,000 ราย โดยสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตสะสมมากที่สุดคือมากกว่า 103,000 ราย จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 1.7 ล้านราย รองลงมาคือบราซิล มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 498,444 ราย เพิ่มขึ้น 33,274 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือเป็นสถิติผู้ป่วยรายวันสูงสุดครั้งใหม่ ขณะที่ผู้เสียชีวิตสะสม 28,834 ราย เพิ่มขึ้น 956 ราย
สำหรับสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบราซิล เป็นที่น่าวิตกกังวลของทั้งในและต่างประเทศ เพราะรัฐบาลกลางขัดแย้งอย่างหนักกับรัฐบาลท้องถิ่น เรื่องมาตรการล็อกดาวน์ และความเห็นที่ไม่ลงรอยกันอย่างสิ้นเชิง ระหว่างประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร กับแพทย์ในประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าจำนวนจริงของผู้ติดเชื้อในบราซิล อาจมากกว่าที่ปรากฏในรายงานถึง 15 เท่า เนื่องจากไม่มีการตรวจคัดกรองและการสอบสวนโรค
อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลโคลัมเบีย ได้ประกาศมาตรการใหม่สำหรับ 3 เมือง ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุด ได้แก่ กรุงโบโกตา เมืองหลวงของโคลัมเบีย เมืองคาลี และเมืองคาร์ตาเจนา ส่วนที่เมืองต่างๆ ทั่วประเทศ กำลังเตรียมยกเลิกมาตรการกักตัว เพื่อป้องกันเชื้อแพร่ระบาด ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ดี ประเทศโคลัมเบีย มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมมากกว่า 28,200 ราย และเสียชีวิตสะสม 890 ราย มาตรการใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากการกักตัวที่ไม่ยกเลิกเหมือนเมืองอื่นๆ แล้ว ยังมีการเพิ่มการเฝ้าระวังและตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างเข้มข้นอีกด้วย รวมทั้งจะเพิ่มความเข้มงวดในการปิดย่านเคนเนดีของกรุงโบโกตา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อถึง 2,400 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในกรุงโบโกตา 9,600 ราย
ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ประเทศเปรู ออกประกาศเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในวันเดียวถึง 7,386 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 155,671 ราย มากเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคลาตินอเมริกา รองจากประเทศบราซิล และมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 141 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 4,731 ราย ซึ่งประธานาธิบดีมาร์ติน วิซคารา กล่าวว่า ตัวเลขนี้ไม่น่าตกใจ เพราะเป็นผลมาจากการตรวจหาผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยนายวิซคารา ย้ำอีกว่าแม้จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 ก็เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยหายป่วยและกลับบ้านได้มากถึง 42% ของผู้ป่วยทั้งหมด
วันเดียวกัน เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เจ้าชายโยอาคิม แห่งเบลเยี่ยม พระชนมายุ 28 พรรษา ได้ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากพระองค์ เดินทางไปยังประเทศสเปน เพื่อทรงฝึกงาน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า พระองค์เสด็จฯ ร่วมงานปาร์ตี้ในเมืองคอร์โดบา ประเทศสเปน ก่อนที่จะถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ซึ่งสื่อในประเทศสเปน รายงานว่าพระราชนัดดาของสมเด็จพระราชาธิบดี ฟิลิปเป แห่งเบลเยี่ยม เป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานปาร์ตี้ รวมทั้งหมด 27 ราย ซึ่งนับเป็นการละเมิดมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลสเปน ที่ห้ามไม่ให้มีการรวมตัวกันมากกว่า 15 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนการจัดปาร์ตี้ดังกล่าวแล้ว ซึ่งผู้ที่ละเมิดมาตรการอาจมีโทษปรับเป็นเงิน 10,000 ยูโร หรือราว 353,000 บาท
รายงานข่าวระบุอีกว่า ทุกคนที่เข้าร่วมงานปาร์ตี้ ได้เข้าสู่กระบวนการกักกันโรค ขณะที่เจ้าชายโยอาคิม พระโอรสของเจ้าหญิงแอสทริด และรัชทายาทลำดับที่ 10 แห่งราชวงศ์เบลเยี่ยม มีอาการเพียงเล็กน้อย
ส่วนราฟาเอลลา วาเลนซุเอลา ตัวแทนรัฐบาลสเปนประจำเมืองคอร์โดบา ได้ออกมาประณามการจัดปาร์ตี้ดังกล่าว และระบุว่าผู้ร่วมงานปาร์ตี้ครั้งนี้ ไร้ความรับผิดชอบ
สำหรับงานปาร์ตี้ที่ถูกจัดขึ้นดังกล่าวนั้น ได้ถูกรายงานข่าวผ่านสื่อในประเทศสเปน อย่างหนังสือพิมพ์เอลกอนฟิเดนซิอัล อ้างเอกสารจากทางการถึงงานปาร์ตี้ที่เกิดขึ้นแต่ไม่ได้ระบุถึงเจ้าชายแห่ง
เบลเยียม ขณะเดียวกัน สื่อประเทศเบลเยี่ยม ได้รับการยืนยันกับสำนักพระราชวังแล้วว่า เจ้าชายโยอาคิม ประทับอยู่ในสเปนนับจนถึงเวลานี้ โดยเจ้าชายโยอาคิม ก็มีรายงานก่อนหน้านี้ด้วยว่าทรงมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวชาวสเปนที่มีชื่อว่า วิกตอเตรีย ออร์ทิซ
ทั้งนี้ ประเทศสเปนกำลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยมีการเปิดเผยมาตรการผ่อนคลาย 4 เฟสด้วยกัน โดยล่าสุดมีการประกาศว่าจะเข้าสู่เฟส 2 ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ขณะที่รายงานระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตนับจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม อยู่ที่ 27,125 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 239,228 ราย
ขณะที่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอินเดีย ก็ยังน่ากังวลเช่นเดียวกัน โดยในรอบวันที่ผ่านมา มีการยืนยันผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,964 ราย เพิ่มจำนวนผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 176,978 ราย และเสียชีวิตอย่างน้อย 5,164 ราย เพิ่มขึ้น 265 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 2.84%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี