ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐ เพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 2 เดือน คาดเป็นเพราะผ่อนคลายล็อกดาวน์ และผู้คนไม่ยอมสวมหน้ากาก ขณะที่ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนคทิคัต ร่วมกันบังคับใช้มาตรการกักตัว 14 วัน กับประชาชนที่เดินทางมาจาก 8 รัฐซึ่งกำลังเป็นพื้นที่วิกฤติของโรคไวรัสมรณะ ด้านองค์การอนามัยโลกคาดยอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุ 10 ล้านคน ในสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 163,062 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดรวมของผู้ติดเชื้อทั่วโลกขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9,510,161 คน ประเทศที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือบราซิลที่ 37,152 ตามด้วยสหรัฐ 36,646 อินเดีย 16,870 รัสเซีย 7,176 เม็กซิโก 6,288 แอฟริกาใต้ 5,688 ขณะที่เปรู ชิลี ปากีสถาน บังกลาเทศ และโคลอมเบียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000 คนในหนึ่งวัน
สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดที่ 2,460,814 ตามด้วยบราซิล 1,188,631 รัสเซียซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ทะลุ 6 แสนที่ 606,881 อินเดีย 472,985 อังกฤษ 306,862 สเปน 294,166 เปรู 264,689 ชิลี 254,416 อิตาลี 239,410 อิหร่าน 212,501 เยอรมนี 193,217
ขณะที่ผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4,933 รายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมในช่วงเช้าวันนี้อยู่ที่ 483,821 ราย โดยบราซิลเป็นเพียงประเทศเดียวที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 ราย สำหรับประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดยังคงเป็นสหรัฐที่ 124,235 บราซิล 53,830 อังกฤษ 42,081 อิตาลี 34,644 ฝรั่งเศส 29,731 สเปน 28,327 ส่วนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 5,162,600 คน
คาดป่วยทะลุ10ล้านสัปดาห์หน้า
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกออกมาระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกน่าจะพุ่งทะลุ 10,000,000 คนภายในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้มีประเทศจำนวนมากที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนออกซิเจนที่จะใช้กับผู้ป่วย เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ความต้องการมากกว่าความสามารถในการผลิตและจัดหา ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกยังอยู่ที่ 9.3 ล้านคน ขณะที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 480,000 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยราว 1 ล้านคนต่อสัปดาห์ ทำให้ความต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้นเป็น 88,000 ถังขนาดใหญ่ต่อวัน หรือคิดเป็นปริมาณออกซิเจนราว 620,000 คิวบิกเมตร
ซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนให้120ปท.
นายกีบรีเยซุสกล่าวว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลกได้เร่งซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนจากบริษัทผู้ผลิต และวางแผนที่จะส่งมอบให้กับประเทศต่างๆ ราว 120 ประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ ขณะที่จะมีการส่งมอบเครื่องผลิตออกซิเจนอีกราว 170,000 เครื่องให้กับประเทศที่ต้องการได้เพิ่มเติมในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ออกซิเจนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือด้วยเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการหายใจลำบาก
ยอดป่วยสหรัฐสูงสุด2เดือน
หลายพื้นที่ของสหรัฐยังคงมีการแพร่ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 34,700 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 2 เดือน ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีประชากรมากที่สุด มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากเป็นประวัติการณ์กว่า 7,100 ราย ขณะที่รัฐฟลอริดา พบผู้ติดเชื้อภายในวันเดียวถึง 5,500 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนที่รัฐเท็กซัส ซึ่งยกเลิกมาตรการปิดเมืองมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในช่วง 2 สัปดาห์
ที่รัฐแอริโซนา แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เตือนว่า จำนวนผู้ป่วยอาจล้นโรงพยาบาลในไม่ช้า ซึ่งเชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น เป็นเพราะการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และผู้คนไม่ยอมสวมหน้ากาก ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐ ขณะนี้เกินกว่า 2.46 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 124,000 ราย
กักตัวผู้มาจาก8รัฐกลุ่มเสี่ยง
ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก นายฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์และนายเน็ต ลามอนต์ ผู้ว่าการรัฐคอนเนตทิคัต เผยแพร่แถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการบังคับใช้มาตรการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน กับบุคคลซึ่งเดินทางมาจาก 8 รัฐที่ถือเป็นพื้นที่สีแดงของโรคโควิด-19 ซึ่งผู้ฝ่าฝืนต้องรับโทษตามกฎหมายของแต่ละรัฐ สำหรับรัฐทั้ง 8แห่งที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นรัฐทางตอนใต้ ประกอบด้วย แอละบามา อาร์คันซอ แอริโซนา ฟลอริดา นอร์ทแคโรไลนา เซาท์แคโรไลนา เท็กซัสและยูทาห์ โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับทั้งประชาชนซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในกลุ่มรัฐดังกล่าว และประชาชนจากทั้งในรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์และคอนเนตทิคัต ที่เดินทางไปยัง 8รัฐกลุ่มเสี่ยงแล้วเดินทางกลับเข้าพื้นที่ด้วย
“ทรัมป์”ไม่อยู่ใต้มาตรการกักตัว
อีกด้านหนึ่ง นายจัดด์ เดียร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวถึงมาตรการบังคับกักตัวของรัฐนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์และรัฐคอนเนตทิคัต ว่าไม่น่ามีผลบังคับใช้กับประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ ซึ่งเพิ่งลงพื้นที่รัฐแอริโซนา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และมีกำหนดลงพื้นที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพราะมาตรการที่ทั้ง 3 รัฐกำหนดนั้น มีผลเฉพาะกับ “พลเรือน” แต่ผู้นำสหรัฐอยู่ในฐานะพิเศษ
รัฐวิกตอเรียขยายคัดกรองครั้งใหญ่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ว่า นายแดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีพลเมืองมากเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 33 คน เป็นวันที่ 9 ติดต่อกันแล้วซึ่งรัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อยืนยันไม่ต่ำกว่า 10 คน และเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 2 เดือน
ทั้งนี้ จากจำนวนผู้ป่วยกลุ่มใหม่ทั้งหมดนั้น แบ่งออกเป็น 7 คน ในสถานที่กักตัวของรัฐ 9 คนมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ส่วนอีก 11 คนยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวนโรค ด้านกองทัพออสเตรเลียตอบรับการเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ 1,000 นายมายังรัฐวิกตอเรีย เพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น โดยจะเน้นสถานที่กักตัวของรัฐเป็นหลัก
ไต้หวันเฝ้าระวังปชช.กว่า100คน
นายเฉิน ซื่อ-จง รมว.กระทรวงสาธารณสุขของไต้หวัน แถลงเรื่องการได้รับแจ้งจากกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในไต้หวัน ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เดินทางกลับญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 20มิถุนายน ที่ผ่านมาและผลการตรวจโรคบ่งชี้ว่าเธอติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ยังไม่แสดงอาการป่วยของโรค
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไต้หวันกักตัวบุคคลมากกว่า 100 คน ซึ่งมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนดังกล่าว ตั้งแต่วันพุธ เพื่อสอบสวนโรคอย่างละเอียด
ปักกิ่งประกาศคุมโควิด-19ได้แล้ว
ทางการกรุงปักกิ่ง ยืนยันสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กรุงปักกิ่งไว้ได้แล้ว แต่ยอมรับว่ายังเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดตามชุมชนและตามสถานที่ทำงาน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่างๆ อย่างเคร่งครัดต่อไป โดยการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในกรุงปักกิ่งตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ มีผู้ติดเชื้อจำนวน 256 คน เกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนที่ตลาดซินฟาตี้ ตลาดสดใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ต้องปิดพื้นที่บางส่วนในกรุงปักกิ่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงปักกิ่งจำนวน 7 คน ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์
ทั่วโลกติดเชื้อ9.5ล้านดับ4.8แสน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก นับถึงเย็นวันที่ 25 มิถุนายน 2563 มีผู้ติดเชื้อ 9,551,987 ราย เสียชีวิต 485,433 ราย รักษาหายแล้ว 5,192,379 ราย สหรัฐ มีผู้ติดเชื้อ 2,462,713 ราย เสียชีวิต 124,282 ราย บราซิล มีผู้ติดเชื้อ 1,192,474 ราย เสียชีวิต 53,874 ราย รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 613,994 ราย เสียชีวิต 8,605 ราย อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ 474,272 ราย เสียชีวิต 14,914 ราย อังกฤษ มีผู้ติดเชื้อ 306,862 ราย เสียชีวิต 43,081ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี