ฟิลิปปินส์ผวา
วันเดียวติดเชื้อ2.5พันราย
ยกเลิกเปิดเศรษฐกิจ100%
ยอดติดเชื้อโควิดทั่วโลกพุ่ง วันเดียวกว่า 2 แสนราย ยอดสะสมเกิน 12 ล้านราย เสียชีวิต 5.5 แสนราย สมาชิกในคณะรัฐมนตรีของบราซิล ทยอยเข้ารับการตรวจ หลังประธานาธิบดีประกาศว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้านสมาคมสื่อบราซิลเตรียมฟ้องผู้นำประเทศฐานไม่รับผิดชอบต่อสังคม ขณะที่“ฟิลิปปินส์”ไม่สามารถเปิดเศรษฐกิจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หลังพบยอดผู้ติดเชื้อวันเดียว 2,539 ราย ส่วนที่กรุงโตเกียวพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะรายใหม่อีก 224 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกพุ่งขึ้นทั้งหมด 213,211คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกขยับขึ้นไปอยู่ที่ 12,155,534 คน
สหรัฐมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหนึ่งวันมากที่สุดที่ 61,779 ตามด้วยบราซิล 41,541 อินเดีย 25,571 แอฟริกาใต้ 8,810 รัสเซีย 6,562 เม็กซิโก 6,258 และโคลอมเบีย 4,144
ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือสหรัฐที่ 3,158,863 บราซิลทำสถิติติดเชื้อเกิน 1.7 ล้านที่ 1,716,196 อินเดีย 769,052 รัสเซียก็มีผู้ป่วยเกิน 7 แสนที่ 700,792 เปรู 312,911 ชิลี 303,083 สเปน 299,593 อังกฤษ 286,979 เม็กซิโก 268,008 อิหร่าน 242,149 ปากีสถาน 237,489 แอฟริกาใต้ 224,665 ซาอุดีอาระเบีย 220,144 ตุรกี 208,938 เยอรมนี 198,765 บังกลาเทศ 172,134 ฝรั่งเศส 169,473 โคลอมเบีย 128,638
ขณะที่ผู้เสียชีวิตทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเป็น 551,190 รายหลังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5,516 รายในหนึ่งวันที่ผ่านมา ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดยังคงเป็นสหรัฐที่ 134,860 ตามด้วยบราซิล ซึ่งประเทศเดียวที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าพันรายที่ 68,055 อังกฤษ 44,517 อิตาลี 34,914 เม็กซิโก 32,014 ฝรั่งเศส 29,965 สเปน 28,396 อินเดีย 21,144 อิหร่าน 12,084 เปรู 11,133 และรัสเซีย 10,664 ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อที่หายดีแล้วอยู่ที่ 7,025,200 คน
ยืนยันอเมริกันติดเชื้อกว่า3ล้านราย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายจุดทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น เท็กซัส ฟลอริดา ลุยเซียนาและแอริโซนา แต่จุดที่เคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดอย่างนิวยอร์กและตะวันออกเฉียงเหนือกลับลดลงมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ รายงานตัวเลขการติดเชื้อในประเทศสหรัฐอเมริกาว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมแล้ว 3,009,611ราย รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐแถลงที่กระทรวงศึกษาธิการในกรุงวอชิงตันว่า ได้ทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อแล้วจากชาวอเมริกันกว่า 39 ล้านคน พบว่าติดเชื้อกว่า 3 ล้านคน แต่ก็มีรักษาหายแล้ว 1.3 ล้านคน
ครม.บราซิลทยอยตรวจหาเชื้อโควิด
ส่วนความคืบหน้าหลังจากที่ ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำบราซิล เปิดเผยว่า ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีของบราซิลก็ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโรคดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการตรวจของหลายคนบ่งชี้ว่าเป็นลบหมายถึงไม่ติดเชื้อ รวมถึงนายเออร์เนสโต อาเราโฮ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และนายลูอิซ เอดูอาร์โด รามอส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ทุกคนยืนยันจะกักตัวเองจนครบ 14 วันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย เช่นเดียวกับนายทอดด์ แชปแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงบราซิเลีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับผู้นำบราซิลและเจ้าหน้าที่อีกหลายคน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยืนยันผลตรวจของตัวเองเป็นลบ แต่จะกักตัวเองให้ครบ 2 สัปดาห์ แต่หลายฝ่ายยังคงวิจารณ์อย่างหนัก ต่อการที่ผู้เข้าร่วมงานที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในวันนั้น แทบไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
สมาคมสื่อบราซิลเตรียมฟ้องปธน.
ด้านสมาคมสื่อมวลชนบราซิล (เอบีไอ) ประกาศเตรียมฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีกับโบลโซนาโร ฐานไม่เคารพมาตรการปฏิบัติด้านสาธารณสุข ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงติดโรคให้กับบุคคลรอบข้าง จากการที่ผู้นำบราซิลถอดหน้ากากผ้าออก และยืนห่างออกไปไม่ถึง 1 เมตร ระหว่างประกาศกับผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่งที่ทำเนียบ ว่าตัวเองมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ด้านซีเอ็นเอ็นบราซิล เรคคอร์ดทีวี และบีบีซีซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลบราซิล ต่างประกาศว่าผู้สื่อข่าวและช่างภาพที่อยู่ใกล้กับโบลโซนาโรในวันนั้น เข้ารับการตรวจโรคและกำลังรอผล โดยในระหว่างนี้ให้กักตัวเองอยู่ที่บ้านไปก่อน
ฟิลิปปินส์ยกเลิกเปิดเศรษฐกิจ100%
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่าประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตร์เต แถลงเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ ที่มีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 50,000 คน และเสียชีวิตแล้วประมาณ 1,300 คน ว่าวิกฤติสาธารณสุขดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น สถานการณ์ในฟิลิปปินส์ไม่สามารถเปรียบเทียบกับประเทศอื่นได้ ฟิลิปปินส์ยังเป็นประเทศยากจน และไม่สามารถเดิมพันทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ไปกับวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ได้ แต่ในเวลาเดียวกัน ฟิลิปปินส์ไม่สามารถเป็นฝ่ายแบกรับความสูญเสีย และผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาโดยไม่ทำอะไรมากกว่านี้
ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมทางสังคมและเศรษฐกิจมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนกลไกทางสังคมและเศรษฐกิจ แต่ยังคงต้องอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังด้านสาธารณสุขในระดับสูง เนื่องจากการเปิดเศรษฐกิจ 100% มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการติดเชื้อมากขึ้น
สำหรับประเทศฟิลิปปินส์ ประมีการประกาศล็อกดาวน์ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เริ่มจากกรุงมะนิลาแล้วค่อยขยายออกไปทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในฟิลิปปินส์เมื่อวันพุธจำนวน 2,539 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุด ส่งผลให้ยอดสะสมอยู่ที่ 50,359 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,314 ราย
โตเกียวพบผู้ป่วยใหม่244คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า สำนักงานสาธารณสุขกรุงโตเกียวออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในท้องที่กรุงโตเกียว 224 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในญี่ปุ่นเมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยทำลายสถิติการพบผู้ป่วย 206 คนในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา โดยพื้นที่ซึ่งมีการพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในกรุงโตเกียว คือย่านธุรกิจและสถานบันเทิงยามราตรีในย่านอิเคะบุคุโระของแขวงโทชิมะ และย่านคาบูกิโจในแขวงชินจุกุ
ปัจจุบันกรุงโตเกียวมีผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ประมาณ 7,000 คน คิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งประเทศ และเสียชีวิตอย่างน้อย 325 คนจากจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทั่วประเทศประมาณ 970 คน
ทั่วโลกติดเชื้อทะลุ12ล้านราย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของ ไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก นับถึงช่วงเย็นวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 มีผู้ติดเชื้อรวม 12,196,923 ราย เสียชีวิตรวม 552,771 ราย รักษาหายรวม 7,093,765 ราย สหรัฐ ติดเชื้อ 3,159,514 ราย เสียชีวิต 134,873 ราย บราซิล ติดเชื้อ 1,716,196 ราย เสียชีวิต ราย 68,055 อินเดีย ติดเชื้อ 771,833 ราย เสียชีวิต 21,174 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 707,301 ราย เสียชีวิต 10,843 ราย เปรู ติดเชื้อ 321,911 ราย เสียชีวิต 11,133 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี