ขุดหลุมศพรอ
1.5ล้านหลุมทั่วแอฟริกาใต้
รองรับเหยื่อไวรัสโควิด-19
ทั่วโลกยอดป่วยตายด้วยไวรัสโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทางการแอฟริกาใต้ หลายเมือง ตัดสินใจ ขุดหลุมศพไว้รองรับเหยื่อไวรัสมรณะแล้ว 1.5 ล้านหลุม ขณะที่อิตาลีประกาศสั่งแบนนักท่องเที่ยว13 ประเทศเข้าเมือง ผวาระบาดเพิ่ม ผู้นำบราซิลเผยอาการดีขึ้นหลังติดไวรัสโควิด-19สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อเย็นวันที่ 10 กรกฎาคม ถึงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 12,404,709 คน เสียชีวิต 557,746 คน รักษาหาย 7,235,697 คนสหรัฐอเมริกา ป่วย 3,220,500 คน เสียชีวิต 135,828 คนบราซิล ป่วย 1,759,103 คน เสียชีวิต 69,254 คน อินเดีย ป่วย 795,605 คน เสียชีวิต 21,632 คน รัสเซีย ป่วย 713,936 คน เสียชีวิต 11,017 คน เปรู ป่วย 316,448 คน เสียชีวิต 11,314 คน
แอฟริกาใต้ขุดหลุมศพรอ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขแอฟริกาใต้ เผยว่า แคว้นเกาเต็ง เป็นพื้นที่ศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 แห่งใหม่ของแอฟริกา ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เจ้าหน้าที่เตรียมหลุมฝังศพมากกว่า 1.5 ล้านหลุม พร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
นายแพทย์บันดีล มาซูกู ซึ่งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นของจังหวัดโกเต็งด้วย บอกว่า การขุดหลุม เป็นความรับผิดชอบของสาธารณชนที่จะต้องสร้างความมั่นใจว่า หลุมศพเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่ลำบาก ซึ่งนอกจากการเตรียมหลุมศพที่จังโกเต็งแล้ว ที่นครโยฮันเนสเบิร์ก กับเมืองหลวงอย่างกรุงพริโตเรีย ก็ทำแบบเดียวกัน
จังหวัดโกเต็งได้ยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อในขณะนี้ ที่มากกว่า 71,000 คน หรือ 33 % ของผู้ติดเชื้อในประเทศ ที่มีจำนวนมากกว่า 215,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็อยู่ในระดับสูง โดยติดกลุ่มประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุด
อิตาลีประกาศห้าม13ชาติปท.
ด้านประเทศ อิตาลีประกาศ ห้ามนักท่องเที่ยวจาก 13 ประเทศที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในระดับสูงเข้าประเทศ ได้แก่ อาร์เมเนีย บาห์เรน บังกลาเทศ บอสเนีย บราซิล ชิลี สาธารณรัฐโดมินิกัน คูเวต มาซิโดเนียเหนือ มอลโดวา โอมาน ปานามา และเปรู
กระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ออกคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศดังกล่าวเดินทางเข้ามาในอิตาลี
โดยนายโรแบร์โต สเปรานซา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เข้าสู่ระยะรุนแรงมากขึ้น ทางการไม่ต้องการให้ชาวอิตาลีเสียชีวิตเป็นจำนวนมากดังเช่นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาอีก
ลดโควต้าเข้าออสเตรีเลีย
เช่นเดียวกับรัฐบาลประเทศออสเตรเลีย ที่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แถลงเมื่อวันศุกร์ว่านับตั้งแต่วันจันทร์ที่13 ก.ค. นี้เป็นต้นไป โควตาการเดินทางกลับประเทศของพลเมืองออสเตรเลียจำกัดที่สูงสุด 4,000 คนต่อสัปดาห์ ลดลงจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่สัปดาห์ละ 8,000 คน และผู้ที่เดินทางกลับต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับช่วงกักตัว 14 วัน ในห้องพักของโรงแรมที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ให้
ทั้งนี้ ผู้นำออสเตรเลียให้เหตุของการลดจำนวนการรับพลเมืองซึ่งตกค้างในต่างประเทศ ว่าเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐมีพลเมืองมากเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลีย “กำลังเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด”
‘รัสเซีย’ยอดป่วยเพิ่ม6,500คน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแถลงการณ์จากศูนย์รับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 6,509 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยในประเทศรวมอยู่ที่ 707,301 ราย
แถลงการณ์ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในรัสเซีย เพิ่มขึ้น 176 ราย แตะที่ 10,843 ราย ขณะเดียวกันมีผู้ป่วยหายดีเพิ่ม 8,805 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยหายดีเพิ่มขึ้นเป็น 481,316 ราย
กรุงมอสโก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดของประเทศ รายงานการตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 568 ราย ดันยอดรวมแตะ 227,363 ราย
ด้าน หน่วยงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคและสวัสดิภาพมนุษย์ของรัสเซียออกแถลงการณ์แยกในวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) ระบุว่าขณะนี้รัสเซียยังมีประชาชนที่อยู่ระหว่างการสังเกตอาการทางการแพทย์อีก 276,213 ราย ขณะที่สถิติการทดสอบเพื่อตรวจหาโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นจนเกิน 22 ล้านครั้งทั่วประเทศ เมื่อนับถึงวันพุธ (8 ก.ค.)
‘ผู้นำโปลิเวีย’ติดเชื้อแล้ว
ด้าน ประธานาธิบดีจีไนน์ อาเนซ ชาเวซ ของโบลิเวีย เปิดเผยว่า เธอมีผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นบวก และโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า เธอยังรู้สึกดีและจะทำงานต่อไปโดยแยกกักตัว พร้อมระบุว่าเธอและโบลิเวียจะก้าวออกจากสถานการณ์นี้พร้อมกัน
รัฐบาลโบลิเวียยืนยันว่า มีรัฐมนตรีอย่างน้อย 7 คน ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีสาธารณสุขด้วย มีผลตรวจไวรัสออกมาเป็นบวก และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรักษา หรือพักฟื้นที่บ้าน ขณะที่ประธานาธิบดีอาเนซบอกว่า เธอเข้ารับการตรวจ หลังจากมีทีมงานในคณะรัฐมนตรีป่วยไปแล้วหลายคน
ความวุ่นวายทางการเมืองเข้ารุมเร้าโบลิเวียเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังเกิดความวุ่นวายจากการเลือกตั้งจนนำไปสู่การประท้วงเป็นวงกว้างขวาง และในที่สุด ก็ทำให้อดีตประธานาธิบดี อีโว โมราเลส ที่อยู่ในตำแหน่งมานาน ต้องลงจากอำนาจ ให้นางอาเนซ อดีตสมาชิกวุฒิสภาสายอนุรักษ์นิยม เข้ารักษาการณ์ในตำแหน่งประธานาธิบดี ในช่วงที่ประเทศประสบภาวะสุญญากาศทางการเมือ
ผู้นำบราซิลขอบคุณพระเจ้า
ประธานาธิบดี จาอีร์ โบวโซนารูวัย 65 ปี ซึ่งตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019หรือโควิด-19 ซึ่งดูแข็งแรงดี โพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์ ประจำสัปดาห์จากที่พักทางการเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ไม่มีรัฐมนตรีเจ้าหน้าที่ระดับสูงห้อมล้อม และไม่มีล่ามภาษามือเหมือนที่เคยเห็นตามปกติ
โดยเขาระบุว่าหลังจากรู้สึกไม่สบายเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ก็เริ่มรับประทานไฮดรอกซีคลอโรควินวันละ 1 เม็ด และได้ผล ตอนนี้รู้สึกสบายดี ขอบคุณพระเจ้า อย่างน้อยก็ช่วยให้คนที่วิจารณ์ได้มีทางเลือก พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อยาขนานนี้
ไฮดรอกซีคลอโรควินเป็นยาต้านมาลาเรีย รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคลูปัสหรือโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือเอสแอลอี (SLE) หลายประเทศผลักดันให้ใช้เป็นยารักษาโรคโควิด-19 ท้งที่ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุน ผู้นำบราซิลเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ผลตรวจโควิด-19 ล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 4 เดือนพบว่าเป็นบวก ปัจจุบันบราซิลมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ
จีนเตือนระวังโรคปอดบวม
สถานทูตจีนประจำคาซัคสถานออกประกาศเตือนพลเมืองจีนให้ระวังการแพร่ระบาดของโรคปอดบวมในคาซัคสถานที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าโรคโควิด-19 โดยพบตัวเลขผู้ป่วยโรคปอดบวมเพิ่มสูงขึ้นในเมืองอะตีราอู อักเตอเบ และไชม์เคนท์ ตั้งแต่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของสถานทูตจีนผ่านบัญชีผู้ใช้อย่างเป็นทางการในแอปพลิเคชันวีแชต ระบุว่า โรคปอดบวมในคาซัคสถานได้คร่าชีวิตผู้ป่วย 1,722 คนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ และมีผู้เสียชีวิตเฉพาะในเดือนมิถุนายนสูงถึง 628 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวจีนรวมอยู่ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี