ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ยังพุ่งไม่หยุด วันเดียวเกือบ 1,300 คน ถือเป็นสถิติที่มากที่สุดในรอบ 1 วัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่หลายประเทศในยุโรปเฝ้าระวังการกลับมาของไวรัสมรณะ ฮ่องกง เตือนประชาชนถึงแนวโน้มการระบาดใหญ่
จีนพบผู้ป่วยรายใหม่สูงสุดในรอบ 3 เดือน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ว่า ที่สหรัฐอเมริกา มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ เกือบ 1,300 คน ซึ่งเป็นสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยรัฐแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และเท็กซัส ซึ่งเป็น 3 รัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของสหรัฐ ทำลายสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีผู้เสียชีวิตรวมกันสูงถึง 584 คน จากผู้เสียชีวิตทั้งหมด 1,292 คน ขณะที่รัฐอาร์คันซอ มอนแทนา และออริกอน ก็มียอดผู้เสียชีวิตรายวันจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน สถิติดังกล่าวเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์ที่เพิ่มสูงขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงกว่า 1,000 คนต่อวันติดต่อถึง 4 วัน
ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในรัฐแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และเท็กซัส ในเดือนนี้ ส่งผลให้หลายโรงพยาบาลในสหรัฐรองรับผู้ป่วยไม่เพียงพอ อีกทั้งยังทำให้สหรัฐต้องตัดสินใจระงับแผนเปิดเศรษฐกิจหลังใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมาเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
ขณะนี้ สหรัฐมีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เกือบ 150,000 คนนับตั้งแต่ตรวจพบเป็นครั้งแรกในประเทศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นับเป็นประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก โดยในบรรดา 20 ประเทศที่มีการระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสโคโรนา สหรัฐจัดอยู่ในอันดับที่ 6 ที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด อยู่ที่ 4.5 คนต่อประชากร 10,000 คน ตามหลังสหราชอาณาจักร สเปน อิตาลี เปรู และชิลี
ส่วนสถานการณ์ของประเทศในยุโรป ขณะนี้กำลังเฝ้าระวังการกลับมาของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีก โดยสเปนมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในแคว้นกาตาลุญญา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ขณะที่ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อเพิ่มทะลุ 900 เมื่อวานนี้ จนอังกฤษต้องนำมาตรการกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ กลับมาใช้กับผู้ที่เดินทางมาจากสเปน ขณะที่เยอรมนีได้ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังแคว้นกาตาลุญญา และภูมิภาคอื่นๆ ของสเปน โดยไม่จำเป็น
ในเยอรมนี ไวรัสก็กำลังแพร่ระบาดเช่นกัน โดยมีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 800 คน เมื่อวันศุกร์ ซึ่งประธานสถาบันโรเบิร์ต โคช ซึ่งเป็นหน่วยงาน และสถาบันวิจัยของรัฐบาลเยอรมัน ที่รับผิดชอบในการควบคุม และป้องกันโรค ของประเทศ ได้แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากผู้คนเริ่มละเลย และได้กระตุ้นให้ประชาชนยึดมาตรการป้องกัน ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม และการล้างมือ
ส่วนฝรั่งเศส สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากกว่าวันละ 1,000 คน ถึง 2 วัน ติดกัน และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตามรอยการติดเชื้อแบบกลุ่มอยู่ 135 กลุ่ม
ด้าน นางแคร์รี่ หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเตือนว่า ฮ่องกงกำลังจะเกิดการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และได้ขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามมาตรการใหม่ที่มีผลบังคับในวันนี้ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค โดยมาตรการใหม่ห้ามการจับกลุ่มมากกว่า 2 คน ห้ามการรับประทานอาหารในร้าน และบังคับให้สวมหน้ากากตามสถานที่สาธารณะและกลางแจ้ง โดยนับเป็นมาตรการที่เข้มงวดที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในฮ่องกง ขณะเดียวกันรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกงยังเพิ่มความเข้มงวดกับการตรวจ และกักโรคลูกเรือทั้งทางทะเล และทางอากาศด้วย โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้
มาตรการใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับเป็นเวลา 7 วันเป็นอย่างน้อยประกาศออกมาเมื่อวันจันทร์ หลังจากในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮ่องกงมีการติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
ส่วนที่จีน พบว่ามียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 101 คน ซึ่งเป็นสถิติผู้ป่วยใหม่รายวันสูงสุดในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ทางการจีนสั่งปิดโรงยิม บาร์ และพิพิธภัณฑ์ในศูนย์กลางการแพร่ระบาด ในจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 101 คน มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศสูงถึง 98 คน ส่วนใหญ่ตรวจพบในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ที่เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหม่ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้ทางการจีนต้องเร่งดำเนินการตรวจหาเชื้อและประกาศใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง
ทางการจีนมุ่งเป้าไปที่การระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วภายในโรงงานแปรรูปอาหารแห่งหนึ่งในเมืองต้าเหลียนของมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยระบุว่า พนักงานของโรงงานได้นำบรรจุภัณฑ์อาหารทะเลปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนาเข้ามา ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อ 52 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยมากถึง 30 คนที่เป็นลูกจ้างของโรงงานแปรรูปอาหาร
หัวหน้าคณะกรรมาธิการสาธารณสุขท้องถิ่นแถลงวันนี้ว่า ทางการได้ตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ในพลเมืองกว่า 3 ล้านคนของเมืองต้าเหลียนและจ้าวเหลียน ตลอดจนประกาศสั่งปิดพื้นที่สาธารณะ ได้แก่ ห้องสมุด โรงยิม บาร์ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และสปา
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า นางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีของจีน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจตราสินค้านำเข้า รวมถึงผู้ที่จะเดินทางออกจากต้าเหลียนด้วย โดยในขณะนี้ จีนมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 84,060 คน ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 482 คน และผู้เสียชีวิต 4,634 คน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก นับถึงช่วงเย็นวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 มีผู้ติดเชื้อสะสม 16,917,714 ราย เสียชีวิต 663,942 ราย รักษาหาย 10,482,364 ราย สหรัฐ ติดเชื้อ 4,498,343 ราย เสียชีวิต 152,341 ราย บราซิล ติดเชื้อ 2,484,649 ราย เสียชีวิต 88,634 ราย อินเดีย ติดเชื้อ 1,535,335 ราย เสียชีวิต 34,525 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 828,990 ราย เสียชีวิต 13,673 ราย แอฟริกาใต้ ติดเชื้อ 459,761 ราย เสียชีวิต 7,257 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี