มาเลย์ผวาเตือนคุมเข้ม
โควิดกลายพันธุ์
ระบาดเร็วมากขึ้น10เท่า
ทั่วโลกติดเชื้อพุ่ง22ล้านคน
ตายสังเวยแล้ว7.7แสนศพ
ทั่วโลกวิกฤติไวรัสโควิด-19 ลามไม่หยุด ยอดติดเชื้อทะลุ 22 ล้านคน ทำสถิติใหม่อีกครั้ง หลังป่วยเกิน 1.9 แสนคนในรอบ 24 ชั่วโมง สาธารณสุขมาเลย์เตือนพลเมืองระวังหลังตรวจพบว่าเชื้อกลายพันธุ์ แพร่กระจายเร็วกว่าเดิม 10เท่าและรุนแรงถ้าคนเป็นพาหะอยู่ในที่แออัด ห่วงวัคซีนคุมไม่อยู่ ด้านเกาหลีผวารอบ2ติดเชื้อในปท.พุ่งอย่างน้อย200คนในกรุงโซล ออสซี่ห่วง99%ป่วยในที่กักตัวรัฐ เพราะจนท.หละหลวม ขณะที่ไทยเจอติดเชื้อ 3 รายมาจากรัสเซีย-อินเดีย อาการมีไข้ ถ่ายเหลว สธ.ประสานมาเลย์รีเช็คปมชายชาวกัวลาลัมเปอติดเชื้อหลังกลับจากไทย ก่อนสรุป ย้ำไทยเสี่ยงน้อย
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 สะสมต่อเนื่องว่า จำนวนผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำสถิติใหม่อีกครั้งทะลุ 22,035,263 คน หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 190,239 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกประมาณ 1,000,000 คน ในเวลาเพียงสี่วัน
โลกป่วยกว่า22ล.ตาย7.7แสน
ต่อมาเวลา 17.00 น. มีรายงานตัวเลขผู้ป่วยสะสมใน 213 ประเทศอยู่ที่ 22,073,618 ราย เสียชีวิตรวม 777,812 ราย และรักษาหาย 14,810,233 ราย โดยสหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตมาอันดับ 1 โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 5,612,027 ราย เสียชีวิตรวม 173,716 ราย อันดับ 2 บราซิล ป่วย 3,363,235 ราย เสียชีวิตสะสม 108,654 ราย อันดับ 3 อินเดีย ป่วย 2,706,450 ราย อันดับ 4 รัสเซีย ติดเชื้อสะสม 932,493 ราย เสียชีวิต 15,872 ราย และอันดับ 5 แอฟริกาใต้ ติดเชื้อ 589,886 ราย เสียชีวิต 11,982 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับ 114 ติดเชื้อสะสม 3,381 ราย เสียชีวิตคงที่ 58 รักษาหาย 3,198 ราย
มาเลย์เจอพันธุ์ใหม่แพร่เร็ว10เท่า
ขณะที่ประเทศมาเลเซียพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ทำให้แพร่กระจายได้เร็วกว่าเดิมถึง 10 เท่า โดยนายนูร์ ฮิสฮัม อับดุลเลาะห์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเตือนให้ชาวมาเลเซียระวัง เพราะพบว่าไวรัสโควิด-19 แบบ D614G ที่ติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิม 10 เท่า จากผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 3 คน จากทั้งหมด 45 คน ที่ติดเชื้อจากเจ้าของร้านอาหารรายหนึ่ง ที่เพิ่งกลับจากอินเดีย และไม่ได้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน
ดร.นูร์ระบุว่า ผู้อาศัยในชุมชนท้องถิ่นต้องระวังมากขึ้น เนื่องจากตรวจพบไวรัสโควิด -19 ที่กลายพันธุ์ D614G ในมาเลเซีย ตัวเชื้อดังกล่าวสามารถแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นง่ายกว่า 10 เท่าและทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก เมื่อกระจายโดยบุคคลที่เป็นพวก Super spreader หรือผู้มีภาวะเสี่ยงเป็นพาหะและอยู่ในพื้นที่แออัด ขณะนี้กำลังทดสอบเบื้องต้นและทดสอบติดตามผลกรณีอื่น ซึ่งการกลายพันธุ์ของ D614G ถูกค้นพบมาก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน และมีแนวโน้มส่งผลให้การศึกษาวัคซีนที่อาจไม่มีประสิทธิภาพพอต่อการกลายพันธุ์ของเชื้อ ดังนั้น สาธารณะสุขมาเลเซียจึงแนะนำให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันควบคุมด้านสาธารณสุขเข้มข้นต่อไป ทั้งการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัด
เกาหลีใต้ติดเชื้อทะลุ200คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซลของเกาหลีใต้ อ้างรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ( เคซีดีซี เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาของเกาหลีใต้ ว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 1 คน เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 306 คน รักษาหายแล้ว 13,934 คน เพิ่มขึ้น 17 คน สถิติผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15,761 คน มีการยืนยันผู้ป่วยใหม่อีก 246 คน จากจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพียง 11 คน หมายความว่าผู้ป่วย 235 คน ได้รับเชื้อจากภายในประเทศ ในจำนวนนี้ 131 คนอยู่ในกรุงโซล ตามด้วยจังหวัดคย็องกีที่อยู่ติดกัน 52 คน สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งเพิ่มความกังวลให้ทุกฝ่ายเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ระลอกสอง ซึ่งรายงานของเคซีดีซีมีคำเตือนด้วยว่า การกลับมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องในกรุงโซลและพื้นที่ใกล้เคียง “คือจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างครั้งใหม่” ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่า รัฐบาลเตรียมยกระดับมาตรการทางสังคมอีก หลังเพิ่มความเข้มงวดในกรุงโซลและพื้นที่ใกล้เคียง จาก 1 เป็น 2 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ทางการเกาหลีใต้เพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองเชิงรุกในโบสถ์หลายแห่ง เพื่อควบคุมการระบาดไม่ให้ซ้ำรอยลัทธิชินชอนจิที่เมืองแทกู คือ ที่โบสถ์ซารัง เจอิล ชากรุงโซล ซึ่งมีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 383 คน ในสัปดาห์เดียว
ออสซี่ห่วง99%ป่วยที่กักตัว
เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ผลสอบสวนโรคพบการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาใหม่เกือบทั้งหมดในรัฐวิคตอเรีย มีส่วนเชื่อมโยงกับผู้เดินทางกลับเข้าประเทศ และต้องเข้าไปอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ต้นเหตุสำคัญมาจากการที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงแรม ซึ่งใช้เป็นสถานกักกันโรคได้ให้คำแนะนำที่ไม่เหมาะสมผู้ใช้บริการ สื่อออสเตรเลียรายงานว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหน้ากากอนามัยรวมถึงอุปกรณ์ป้องกันอื่น ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ตราบใดที่รักษาระยะห่างทางสังคม 1.5 เมตร
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อนครเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิคตอเรีเผยว่ ผลจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้จนถึงปลายเดือนกรกฎาคมแสดงให้เห็นว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 99% มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่กลับมาจากต่างประเทศ ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในออสเตรเลียในวันนี้ลดลงอยู่ที่ 222คน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบเดือน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 17 ราย หลังเพิ่งทำสถิติสูงสุดของผู้เสียชีวิตในหนึ่งวันที่ 25 รายไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ไทยป่วย3กลับมาจากตปท.
สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวันว่า ตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 3 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,381 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) 444 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,198 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 125 ราย เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยสะสม 3,381 ราย พบในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนนทบุรี 1,825 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 605 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 112 ราย ภาคใต้ 744 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย กลับจากรัสเซีย 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 38 และ 49 ปี อาชีพพนักงานนวด มาถึงไทยวันที่ 2 สิงหาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ใน กทม. เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 พบเชื้อ โดยผู้ป่วยรายแรกไม่มีอาการ และอีกรายพบว่ามีไข้ 37.9 เซสเซียส ส่วนรายที่ 3 มาจากอินเดีย 1 ราย ป็นชายไทย อายุ 62 ปี อาชีพพนักงานร้านอาหาร เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เดินทางมาถึงไทย โดยเป็นเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 17 ราย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ใน กทม. เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ผลตรวจพบเชื้อ โดยมีอาการถ่ายเหลว
แนะมาเลย์ตรวจซ้ำ-ไทยเสี่ยงต่ำ
ที่สถาบันบำราศนราดูร นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคแถลงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีชายชาวมาเลเซียติดเชื้อโควิด 19 หลังกลับจากไทยว่า ชาวมาเลเซียรายนี้ไม่ได้ตรวจเจอหลังเดินทางออกจากไทย เมื่อเดินทางถึงมาเลเซียเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมตรวจหาเชื้อทันทีก็ไม่พบ แต่หลังเข้าพักในสถานที่กักกันของมาเลเซียแล้ว 10 วัน ก็ตรวจหาเชื้ออีกครั้งวันที่ 15 สิงหาคม ให้ผลเป็นบวก จุดนี้แสดงให้เห็นว่าขณะอยู่ในประเทศไทย บุคคลนี้ไม่ได้ติดเชื้อ ดังนั้น ประชาชนที่อยู่ในสถานที่พักเดียวกันหรืออยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงไม่ต้องกังวล ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานมาเลเซีย เพื่อขอให้ตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการซ้ำอีกครั้งว่า ผลเป็นบวกคือติดเชื้อจริงหรือไม่ หากผลเป็นอย่างไรจะแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันใกล้ชิด หากสมมติฐานว่าผลตรวจแล็ป ยืนยันซ้ำจากมาเลเซียว่าติดเชื้อ ประเทศไทยต้องสอบสวนหาต่อไปว่าบุคคลดังกล่าวติดจากที่ไหนในประเทศไทยได้บ้าง หากผลยืนยันซ้ำพบว่าเป็นลบ คือไม่ติดเชื้อ ไทยสอบสวนโรคเข้มข้น ในการติดตามผู้ใกล้ชิด เพื่อตรวจหาเชื้อว่าติดโควิดหรือไม่ ซึ่งจากการประเมินแล้วไทยมีความเสี่ยงต่ำ แต่ตรวจเพื่อนำข้อมูลแลกเปลี่ยนกลับไปยังมาเลเซีย เพราะถ้าผลผู้ใกล้ชิดเป็นลบไม่ติดเชื้อ ก็เป็นไปได้ที่บุคคลนั้นอาจติดระหว่างเดินทาง
ตม.เช็คประวัติพบเข้า-ออกบ่อย
ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.กล่าวในเรื่องนี้ว่า สั่งเจ้าหน้าที่บก.ตม.1 และ ชุดสืบสวน สตม.ไปติดตามตรวจสอบข้อมูลตามที่ชายชาวกัวลาลัมเปอร์ อายุ 46 ปี รายนี้ได้แจ้งการเข้าพักอาศัยไว้ เพื่อประสานเจ้าของสถานที่พักอาศัยตรวจกล้องวงจรปิด เพื่อสืบสวนทางโรค ติดตามหาตัวผู้ที่เคยใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายนี้ รวมถึงสถานที่ที่เคยเดินทางไป ก่อนดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดเพื่อความไม่ประมาท
พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม.กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลพบว่าชายชาวมาเลเซียรายนี้เดินทางเข้าออกประเทศไทยบ่อยครั้ง ล่าสุดเข้ามาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ไม่พบว่าติดเชื้อ ก่อนจะกลับมาเลเซียวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา แล้วทางการมาเลเซีย ระบุว่าติดเชื้อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ไม่ทราบว่าชายคนนี้ติดเชื้อเมื่อใด ติดในไทยหรือระหว่างเดินทางหรือไม่ กำลังประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเร่งสืบสวนต่อไป
นายกฯย้ำทยอยปลดล็อค
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19ว่า วันนี้ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ หลายประเทศใช้วิธีการรวดเร็วไป โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่เปิดประเทศ แต่ของเราตนไม่อยากใช้คำว่าเปิดประเทศ เราจะเปิดเฉพาะบางกิจกรรมที่เกิดผลดีกับเศรษฐกิจของเราระดับฐานราก เช่น เรื่องท่องเที่ยวบางแห่ง หรือการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนก็แล้วแต่ ที่เราเคยเป็นศูนย์กลางเมดิคอลฮับ( Meical Hub ) ในเรื่องแบบนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร ตรงนี้ค่อยๆปลดล็อคไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความร่วมมือของประชาชน ถ้าเราไม่เข้าใจแล้วมาขัดขวางกันทั้งหมด ก็ไปไม่ได้ด้วยกันทั้งหมด หลายอย่างวันนี้สถานการณ์วิกฤต ขอให้เข้าใจคำว่าสถานการณ์วิกฤตของประเทศไทยขณะนี้ด้วย ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลก็ต้องทำอย่างนี้
อุดรผวาหนุ่มลาวตายปริศนา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากอ.หนองหาน จ.อุดรธานีว่า เกิดเหตุเขย่าขวัญชาวบ้านในพื้นที่หลังหนุ่มใหญ่คนไทยและหนุ่มลาวเสียชีวิตปริศนาสองศพ โดยพ.ต.ต.ณัฐพงษ์ ส่องโสม สารวัตรเวร สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุที่บ้านหนองลาด ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เมื่อตรวจเข้าสอบที่บ้านเลขที่ 252 หมู่ 12 บ้านหนองลาด พบศพนายคำปุน พิมผาดี อายุ 61 ปี ชาวลาว แขวงเวียงจันทร์ เสียชีวิตบนเตียง ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันผวา เพราะนายคำปุนเดินทางเข้ามา อาจมีเชื้อโควิด-19 มาด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์เวรต้องสวมใส่ชุด PPE เข้าตรวจสอบศพ พร้อมเก็บเนื้อเยื่อบริเวณกระพุ้งแก้มผู้ตายไปตรวจหาเชื้อ และห่อด้วยผ้าฆ่าเชื้อถึง 3 ชั้นก่อนให้ญาตินำไปฌาปนกิจทันที
สอบสวนญาติทราบว่า ผู้ตายพร้อมภรรยา เป็นชาวลาว แขวงนครเวียงจันทร์ข้ามฝั่งจากลาวมาเยี่ยม ลูกสาวที่แต่งงานกับคนในหมู่บ้าน แล้วช่วงที่อยู่ในหมู่บ้านก็รับจ้างทั่วไปให้คนในหมู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมาขอนั่งเล่นบริเวณเตียงหน้าบ้านของน้องชายที่รอภรรยาที่ไปวัดในหมู่บ้าน ตนและคนตายก็นั่งคุยกันอยู่ดีๆ ผู้ตายบ่นว่าป่วยเป็นเบาหวานความดัน ก่อนจะอาเจียนเป็นเลือด และล้มฟุบ พอชาวบ้านทราบข่าวต่างหวาดผวา เพราะเป็นคนที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน และเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นายวิชัย ริมประจักษ์ อายุ 55 ปีชาวจ.อุดรธานีก็ตายปริศนาในห้องน้ำของตู้ยามตำรวจทางหลวงหนองเม็ก อ.หนองหานโดยไม่ทราบสาเหตุ ยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้ชาวบ้านมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี