เมียนมาอ่วมโควิด
ตายรายที่7/ป่วยเกิน1พัน
ยกระดับป้องกันเนปิดอว์
บราซิลติดเชื้อทะลุ4ล้าน
เมียนมาพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 คนที่ 7 ผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 22 คน ยอดป่วยสะสมมากกว่า 1 พันคนแล้ว รัฐบาลยกระดับมาตรการป้องกันกรุงเนปิดอว์ตรวจเข้มจีนเปิดเที่ยวบินตรง 8 ปท. มีไทยเป็นหนึ่งในรายชื่อ รัฐสภาเกาหลีใต้ปิดทำความสะอาดใหญ่ หลังฝ่ายค้านติดเชื้อ ส่วนบราซิลวิกฤตหนักยอดป่วยทะลุ4ล้านคน
เมื่อวันที่ 4 กันยายน กระทรวงสาธารณสุขของเมียนมาออกแถลงการณ์ว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 คือ ผู้ป่วยคนที่ 1,023 เป็นหญิงอายุ 46 ปี ชาวเมืองย่างกุ้ง ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อเมื่อวันที่ 3 ก.ย.และเสียชีวิตในคืนวันเดียวกัน โดยมีภาวะแทรกซ้อนที่รวมถึงระบบการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ และไตวายเฉียบพลัน ผู้เสียชีวิตรายนี้มีโรคประจำตัวคือ ข้ออักเสบ สะเก็ดเงิน แต่ไม่มีประวัติเดินทางออกนอกประเทศนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ และไม่ได้เดินทางเข้าออกรัฐยะไข่ หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าด้วย
ทั้งนี้ หญิงคนดังกล่าวถือเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 คนที่ 7 ของเมียนมา และมีอายุน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นผู้เสียชีวิตคนแรกในรอบ 4 เดือน ห่างจากผู้เสียชีวิตคนที่ 6 คือ ผู้ป่วยคนที่ 110 ที่เป็นชายอายุ 63 ปี ชาวเมืองย่างกุ้ง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ผ่านมา หลังได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ10วัน
แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขเมียนมายืนยันผู้ป่วยใหม่อีก22คนจากผลยืนยันที่ออกมาเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ เพิ่มสถิติผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19ในประเทศเป็น 1,133 คน พบมากที่สุดในรัฐยะไข่ 481คน ตามด้วยเมืองย่างกุ้ง 189 คน ส่วนผู้ได้รับการรักษาหายยังคงมีจำนวนสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 359 คน
ทั้งนี้ รัฐยะไข่ ถือเป็นพื้นที่วิกฤติที่สุด ยังอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 สค. ตามด้วยเมืองย่างกุ้ง และเขตใกล้เคียงตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.และล่าสุดคือ กรุงเนปิดอว์ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมทางสังคมโดยบุคคลสัญชาติใดก็ตามที่ประสงค์เดินทางมายังเมืองหลวงของเมียนมา โดยต้องมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานในกรุงเนปิดอว์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชน ต่อจากนั้นจะต้องเข้าสู่สถานกักตัวของรัฐเป็นเวลา14 วัน ระหว่างนี้ต้องเข้ารับการตรวจ 2 ครั้ง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองด้วย รวมทั้งสิ้น 600,000 จ๊าด ( ราว 14,128.13 บาท ) ยกเว้นบุคคลซึ่งได้รับเชิญจากหน่วยงานของรัฐบาล ที่ภาครัฐจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้
แม้ผลตรวจยืนยันเป็นลบทั้งสองครั้ง แต่เมื่อกักตัวในสถานที่ของรัฐครบ 14 วัน บุคคลนั้นต้องกักตัวเองต่อที่บ้านอีก 7 วัน ส่วนนักการทูตและเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศสามารถใช้บริการสถานกักตัวทางเลือก หรือกักตัวอยู่ภายในสถานเอกอัครราชทูตได้ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน และต้องเข้ารับการตรวจ 2 ครั้งพร้อมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองเช่นกัน
ขณะที่ กรุงปักกิ่งของจีน ได้เปิดให้บริการเที่ยวบินตรงจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา กรีซ เดนมาร์ก ออสเตรีย และ แคนาดา เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน เป็นต้นไป โดย สวี เหอเจี้ยน โฆษกรัฐบาลเทศบาลนครปักกิ่ง แถลงว่า จีนได้ให้ความสำคัญกับเที่ยวบินจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ข้ามพรมแดนในระดับต่ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้ดำเนินการทดสอบกรดนิวคลีอิก นอกจากนี้ การผ่อนปรนมาตรการดังกล่าว จะเอื้ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเพื่อธุรกิจเป็นกลุ่มแรก
ทางด้านนายปาร์ค บยอง-ซอง ประธานสภาแห่งชาติของเกาหลีใต้ สั่งปิดพื้นที่ทั้งหมดของรัฐสภา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตธุรกิจของกรุงโซล ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังได้รับรายงานว่า เลขานุการของ นายอี จอง-แบ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชาชน ( พีพีพี ) ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เมื่อวันพุธ และผลยืนยันเป็นบวก
ทั้งนี้ สภาแห่งชาติของเกาหลีใต้เพิ่งกลับมาเปิดทำการได้เพียง 4 วัน หลังปิดเพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม หลังมีการยืนยันว่าช่างภาพข่าวคนหนึ่งมีผลตรวจคัดกรองเป็นบวก
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ( เคซีดีซี ) รายงานเมื่อวันศุกร์ ว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อีก 2 คน ทำให้สถิติผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคดังกล่าวภายในประเทศเพิ่มเป็นอย่างน้อย 331 คน ส่วนสถิติผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 20,842 คน
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยืนยันผู้ป่วยใหม่ 43,773 คน เพิ่มสถิติผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 4,041,638 คน โดยในวันเดียวกันมีการยืนยันผู้เสียชีวิตอีก 834 คน เพิ่มสถิติผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคโควิด-19 เป็นอย่างน้อย 124,614 คน ปัจจุบัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อดูเหมือนจะผ่อนคลายลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศยักษ์ใหญ่ในลาตินอเมริกาแห่งนี้มีแนวโน้มดีขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 มายาวนาน ซึ่งอัตราการเสียชีวิตรายวัน ต่ำกว่า 900 รายต่อวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง และต่ำกว่าทั้งในสหรัฐและอินเดีย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก จนถึงช่วงเย็นวันที่4ก.ย.มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 26,490,203ราย ผู้เสียชีวิตรวม 873,560 ราย รักษาหายรวม 18,677,069ราย สหรัฐ ติดเชื้อ 6,335,244ราย เสียชีวิต 191,058ราย บราซิล ติดเชื้อ 4,046,150 ราย เสียชีวิต 124,729ราย อินเดีย ติดเชื้อ 3,936,747ราย เสียชีวิต 68,596ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 1,015,105ราย เสียชีวิต 17,649ราย เปรูติดเชื้อ 670,145 ราย เสียชีวิต 29,405 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี