17 ก.ย. 2563 สำนักข่าว Radio Free Asia ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติตั้งขึ้นเพื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึง เสนอข่าว Cambodia Slams US Sanctions on Chinese Developer as Attack on Sovereignty ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาประณามกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา หลังประกาศขึ้นบัญชีดำ Union Development Group (UDG) บริษัทสัญชาติจีนที่ได้สัมปทานโครงการพัฒนาพื้นที่เกาะกง โดยอ้างเรื่องการทุจริตและละเมิดสิทธิมนุษยชน ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเท็จและโครงการจะดำเนินต่อไป
รัฐบาลสหรัฐฯ โดยกระทรวงการคลัง อาศัยอำนาจตามกฎหมาย Global Magnitsky Human Rights Accountability Act ในการดำเนินการกับบุคคลหรือองค์กรใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ทั้งปัจจุบันและในอดีตที่ถูกระบุว่าพัวพันกับการทุจริต ในกรณีนี้หมายถึงบริษัทสัญชาติจีนที่ดำเนินการในนามรัฐบาลจีน โดยกล่าว UDG ว่ามีการปลอมแปลงรายชื่อเจ้าของกิจการในตอนแรกเป็นชาวกัมพูชาก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นชาวจีน รวมถึงสนับสนุนให้มีการขับไล่ชาวบ้านในท้องถิ่นออกจากที่ดินที่ได้รับสัมปทาน
สำหรับบุคคลหรือองค์กรที่ถูกทางการสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำตามกฎหมายดังกล่าว จะไม่สามารถทำธุรกิจกับบุคคลหรือองค์กรสัญชาติอเมริกันได้ ซึ่ง Phay Siphan โฆษกรัฐบาลกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งข้อกล่าวหาเกินจริง เช่นเดียวกับ Sok Ey San โฆษกพรรค CPP ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน เซน (Hun Sen) ยืนยันว่า มาตรการคว่ำบาตรจะไม่มีผลต่อโครงการพัฒนาในกัมพูชา และไม่คาดหวังว่าการตัดสินใจของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า โครงการ “ดาราสาคร (Dara Sakor)” ที่ UDG ได้รับสัมปทานนั้น UDG ได้สิทธิเช่าที่ดินเป็นเวลา 99 ปี นับตั้งแต่ปี 2551 ตั้งอยู่บนพื้นที่ริมชายฝั่งเนื้อที่ 9 หมื่นเอเคอร์ หรือกว่า 2.2 แสนไร่ มีเป้าหมายพัฒนาให้เป็นรีสอร์ทสุดหรูที่รวบรวมไว้ทั้งบ่อนการพนัน สนามกอล์ฟ ที่พักอาศัย สนามบินและท่าเรือสำราญ สัญญาเช่าถูกส่งมอบให้กับ Tianjin Wanlong โดยไม่มีการประมูล จากนั้นมีการแผ้วถางพื้นที่ป่าและขับไล่ชาวบ้านออกซึ่งบางครอบครัวก็ยังไม่ได้รับค่าชดเชยทั้งที่ผ่านมาแล้วถึง 12 ปี
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโครงการยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จทั้งหมด ส่วนที่เสร็จแล้วเช่นคาสิโนและโรงแรมก็มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก รวมถึงมีนักลงทุนไม่กี่รายสนใจเข้าร่วม Thorng Chandara ผู้ประสานการกลุ่มสิทธิของชาวเกาะกง เปิดเผยว่า โครงการนี้ส่งผลกระทบต่อผู้คนถึง 2 อำเภอ หรือกว่า 1,000 ครัวเรือน ที่ยังไม่ได้รับค่าชดเชยจากการสูญเสียที่อยู่อาศัยเดิม รวมถึงชาวบ้านไม่เคยได้รับโอกาสในการมีส่วนร่วมหารือเกี่ยวกับโครงการพัฒนานี้
อเลฮานโดร กอนซาเลซ-เดวิดสัน (Alejandro Gonzalez-Davidson) ผู้ก่อตั้งองค์กร Mother Nature ซึ่งเฝ้าระวังด้านสิ่งแวดล้อม สนับสนุนท่าทีของสหรัฐฯ ที่ออกมาเตือน ฮุน เซน และรัฐบาลกัมพูชา ว่าหากยังไม่หยุดทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติและละเมิดสิทธิมนุษยชน และโดยเฉพาะการอนุญาตให้จีนมาตั้งฐานทัพในประเทศ หากทำจริง ฮุน เซน และครอบครัวจะต้องถูกรัฐบาลสหรัฐฯ คว่ำบาตรด้วยอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สหรัฐฯ กังวลเรื่องจีนจะออกไปตั้งฐานทัพนอกประเทศ มาตั้งแต่ปี 2561 โดยกัมพูชาคือหนึ่งในเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวัง
อีกด้านหนึ่ง หวัง เหวินปิน (Wang Wenbin) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงตอบโต้ท่าทีของทางการสหรัฐฯ ที่ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนดังกล่าว รวมถึงการกล่าวหาจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรื่องความพยายามซุกซ่อนแผนการตั้งฐานทัพไว้ในโครงการพัฒนาที่จีนไปทำกับประเทศต่างๆ ว่า รัฐบาลจีนกำชับให้บริษัทสัญชาติจีนต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศที่ไปลงทุน และข้อตกลงที่รัฐบาลจีนทำกับรัฐบาลกัมพูชานั้นโปร่งใสและตั้งอยู่บนผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นธรรม
ในทางกลับกัน สหรัฐฯ เองต่างหากที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างไม่ถูกต้องเพียงเพื่อต้องการกดปราบจีน แต่รัฐบาลจีนก็พร้อมใช้มาตรการที่จำเป็นในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนซึ่งได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังย้อนถามกลับไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วยว่า สหรัฐฯ เองก็มีฐานทัพตั้งอยู่ใน 150 ประเทศทั่วโลกด้วยไม่ใช่หรือ?
ที่มา rfa
ข่าวที่เกี่ยวข้อง 'สหรัฐ’ขึ้นบัญชีดำบริษัท'จีน'ได้สัมปทานลงทุนใน'กัมพูชา' อ้างไล่ชาวเขมรออกจากที่ดิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี