บาร์เบโดสจ่อปลดควีน
ลอนดอน - บาร์เบโดสซึ่งเป็นประเทศเกาะในทะเลแคริบเบียน เตรียมปลดสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษออกจากตำแหน่งประมุข และเปลี่ยนไปสู่ระบอบสาธารณรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า โดยนางซานดรา เมสัน ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ประจำบาร์เบโดส กล่าวสุนทรพจน์ในนามของนายกรัฐมนตรีมีอา ม็อตต์ลีย์ ว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศจะต้องทิ้งอดีตความเป็นอาณานิคมเอาไว้เบื้องหลัง ชาวบาร์เบโดสต้องการมีประมุขที่เป็นชาวบาร์เบโดส ดังนั้น บาร์เบโดสจึงเตรียมที่จะก้าวไปสู่การมีอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ และเปลี่ยนระบอบเป็นสาธารณรัฐในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปีที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ ด้านพระราชวังบักกิ้งแฮมแถลงว่า เรื่องนี้ถือเป็นกิจการภายในของชาวบาร์เบโดส ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษก็ยืนยันในทำนองเดียวกันว่าเป็นสิทธิ์ของบาร์เบโดสที่จะตัดสินใจเอง ทั้งนี้ ตรินิแดดและโตเบโก ดอมินีกา และ กายอานา ซึ่งล้วนเป็นอดีตอาณานิคมของอังกฤษ ได้เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐไปแล้วก่อนหน้านี้แต่ยังคงสถานะความเป็นสมาชิกในเครือจักรภพซึ่งประกอบด้วย 54 ประเทศเอาไว้ ซึ่งคาดว่าบาร์เบโดสก็จะยังคงอยู่ในเครือจักรภพต่อไปเช่นกัน
โอเปกพลัสเรื่องราคาน้ำมันดิบ
ดูไบ – องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกนำโดยซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรนำโดยรัสเซีย เตรียมจัดการประชุมออนไลน์ในวันพฤหัสบดี เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังผลิตน้ำมันและแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันท่ามกลางวิกฤติราคาน้ำมันตกต่ำและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังสะดุดเป็นที่คาดว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น ซาอุดีอาระเบีย และรัสเซียที่เป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัส จะยังคงเป้าหมายในการลดกำลังผลิตน้ำมันไว้ที่ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 8 ของความต้องการทั่วโลก และกดดันให้สมาชิกบางประเทศ เช่น อิรัก ไนจีเรีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลดกำลังการผลิตลงอีกเพื่อชดเชยการผลิตที่เกินกำหนดก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกพลัสได้ปรับลดกำลังผลิตน้ำมันมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันและลดปริมาณน้ำมันในคลังทั่วโลก ต่อมาได้เพิ่มการปรับลดกำลังผลิตมาเป็น 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังความต้องการน้ำมันทั่วโลกลดลงจากการระบาดของโรคโควิด-19
บินชมวิวสู้โควิด-19
ซิดนีย์ - แควนตัส สายการบินแห่งชาติของออสเตรเลีย เตรียมนำเครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 787 ที่ปฏิบัติการเที่ยวบินระหว่างประเทศในเส้นทางระยะยาว มาปฏิบัติการในเที่ยวบินจากนครซิดนีย์เพื่อแวะชมทิวทัศน์ของโขดหินอุลูรุในตอนกลางของออสเตรเลีย แนวหินปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ก่อนจะกลับมาที่ชมวิวซิดนีย์ฮาร์เบอร์ และลงจอดในนครซิดนีย์ ค่าบัตรโดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวมีราคาตั้งแต่ 787 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (17,857 บาท) จนถึง 3,787 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (85,929 บาท) ก่อนหน้านี้ หลายสายการบินในทวีปเอเชีย เช่น สายการบินอีวีเอแอร์ของไต้หวัน และสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ของญี่ปุ่น เคยเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษเพื่อชมทิวทัศน์มาแล้วอีวีเอแอร์นำเครื่องบินลายเฮลโลคิตตี้มาปฏิบัติการเที่ยวบินชมทิวทัศน์ในวันพ่อเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ออลนิปปอนแอร์เวย์ นำเครื่องบินรุ่นแอร์บัส 380 ที่ใช้ปฏิบัติการบินไปยังรัฐฮาวาย มาปฏิบัติการเที่ยวบินชมทิวทัศน์ระยะเวลา 90 นาทีพร้อมบริการบนเครื่องในบรรยากาศแบบฮาวาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี