รมต.อินเดียดับ
สังเวยไวรัสโควิด-19
เมียนมา-อินโดฯยังหนัก
ยอดป่วย-ตายพุ่งต่อเนื่อง
รัฐมนตรีอินเดียติดโควิดเสียชีวิตรายแรก ยอดป่วยทะลุ 5.8 ล้านรายยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดในเมียนมาพุ่งขึ้นที่ 3 อาเซียน ด้าน “จีน” เตรียมรับชาวต่างชาติถือใบอนุญาตพำนัก 3 แบบ เข้าประเทศ 28 กันยายนนี้ขณะที่เมียนมายืนยันผู้เสียชีวิตสะสมจากไวรัสโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 155 คน
แซงมาเลเซียขึ้นเป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซีย ป่วย4.6พันคน เสียชีวิตเพิ่ม128ราย ในวันเดียว ส่วนยอดดับเกิน1หมื่นคนไปแล้ว อังกฤษออกมาตรการระลอกสองช่วยแรงงาน สหรัฐป่วยโควิดทะลุ 7 ล้านคน
เมื่อวันที่ 25 กันยายน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน ประกาศว่าจีนจะเปิดให้พลเมืองชาวต่างชาติผู้ถือใบอนุญาตพำนักอาศัยของจีนที่ยังไม่หมดอายุ 3 ประเภท เดินทางเข้าประเทศอีกครั้ง โดยได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนประกาศว่าด้วยการระงับการเดินทางเข้าประเทศชั่วคราวของชาวต่างชาติผู้ถือวีซ่าหรือใบอนุญาตพำนักอาศัยของจีน ซึ่งออกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 โดยพิจารณาจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในปัจจุบัน และความจำเป็นของการป้องกันและควบคุมโรคระบาด
คำประกาศจากทั้งสองหน่วยงานระบุว่าตั้งแต่ 00.00 น. ของวันที่ 28 กันยายน 2563 ตามเวลาท้องถิ่น ชาวต่างชาติผู้ถือใบอนุญาตพำนักอาศัยของจีนที่ยังไม่หมดอายุ สำหรับการทำงาน กิจธุระส่วนบุคคล และการเยี่ยมครอบครัว จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าจีนโดยไม่จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าใหม่
ส่วนผู้ถือใบอนุญาตพำนักอาศัย 3 ประเภทข้างต้น ซึ่งหมดอายุหลัง 00.00 น. ของวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา อาจยื่นขอวีซ่าที่เกี่ยวข้องได้ โดยแสดงใบอนุญาตพำนักอาศัยที่หมดอายุและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลจีนภายใต้เงื่อนไขว่าวัตถุประสงค์การเดินทางเยือนจีนยังต้องคงเดิม อย่างไรก็ดี กลุ่มบุคคลข้างต้นจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการป้องกันและควบคุมโรคระบาดของจีนอย่างเคร่งครัด ขณะที่มาตรการอื่นๆ ในประกาศที่ออกเมื่อเดือนมีนาคมจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายสุเรศ อังกาดี รัฐมนตรีประจำสภาสหภาพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการรถไฟแห่งประเทศอินเดีย เสียชีวิตแล้วเมื่อวันพุธที่ 23 กันยายน เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยนายอังกาดี ประกาศผ่านทวิตเตอร์เมื่อ 11 กันยายน ว่า เขาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และขอให้ใครก็ตามที่ติดต่อใกล้ชิดกับเขาไปตรวจร่างกาย อย่างไรก็ตาม อาการป่วยของเขาไม่ดีขึ้น กระทั่งเสียชีวิตในเวลาประมาณ 20:00 น. วันพุธ ที่โรงพยาบาลของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งอินเดีย (AIIMS)
ก่อนหน้านี้ โรคโควิด-19 ได้คร่าชีวิตสมาชิกสภานิติบัญญัติของอินเดียไป 6 คน ส.ส.อีก 3 คน ขณะที่นายประนาบ มุขเคอร์จี อดีตประธานาธิบดีอินเดียที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก็ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของเมียนมารายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ภายในประเทศ ว่าสถิติผู้ติดเชื้อสะสมมีจำนวนอย่างน้อย 8,515 คน เพิ่มขึ้น 688 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รักษาหายแล้ว 2,381 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 155 คน เพิ่มขึ้น 22 คน ปัจจุบันเมียนมามีผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับที่ 5 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตสะสมแซงมาเลเซียขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของภูมิภาค รองจากอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ รัฐกะยาซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเป็นพื้นที่แห่งเดียวในเมียนมา ที่ไม่มีการรายงานการพบผู้ติดเชื้อ ขณะที่เมืองย่างกุ้งกำลังเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ โดยพบผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 400 คน นับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดระลอกสองเกิดขึ้นที่รัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางด้าน กระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม 4,634 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 128 ราย ในรอบวันที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมและผู้ป่วยเสียชีวิตในประเทศรวมอยู่ที่ 262,022 ราย และ 10,105 ราย ตามลำดับกระทรวงฯ เผยว่ามีผู้ป่วยได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเพิ่ม 3,895 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยหายดีรวมอยู่ที่ 191,853 ราย โดยปัจจุบันโรคโควิด-19 ได้แพร่ระบาดทั่วทั้ง 34 จังหวัดของอินโดนีเซียแล้วนับเฉพาะช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่านายริชี ซูนัค รมว.กระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร แถลงต่อสภาสามัญ เมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับมาตรการชุดใหม่เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างซึ่ง “ทำงานได้ไม่เต็มเวลา” เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินเยียวยาในอัตรา 22% ของค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 2,500 ปอนด์ (ราว 100,535.61 บาท) มาตรการดังกล่าวจะมีผลอย่างน้อย 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ แต่ลดลงมากเมื่อเทียบกับอัตราการช่วยเหลือปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 80% และจะหมดอายุในวันที่ 31 ตุลาคม โดยตอนนี้แรงงานเกือบ 3 ล้านคน หรือประมาณ 12% ของผู้ใช้แรงงานในระบบของสหราชอาณาจักร ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทะลุ 7 ล้านคนแล้ว ขณะที่หลายรัฐในเขตมิดเวสต์มีผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในเดือนนี้ โดยรัฐต่างๆ ในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ ยกเว้นรัฐโอไฮโอ ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน รัฐเซาท์ดาโคตามียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงสุด 8,129 คน คิดเป็นร้อยละ 166 ตามมาด้วยรัฐนอร์ทดาโคตาที่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 8,752 คน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของเดือนก่อนที่มี 4,243 คน จากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์พบว่า กว่าครึ่งจาก 50 รัฐของสหรัฐมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น และมีถึง 10 รัฐที่ทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุดในเดือนกันยายน สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังมีตัวเลขผู้ป่วยลดลงติดต่อกันถึง 8 สัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเชื่อว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากคำสั่งเปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมถึงการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในช่วงวันแรงงาน ขณะนี้สหรัฐมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่โดยเฉลี่ย 40,000 คนต่อวัน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก นับจนถึงช่วงเย็นวันที่ 25 กันยายน 2563 มีผู้ติดเชื้อสะสม 32,447,315 ราย เสียชีวิตรวม 988,230 ราย รักษาหายรวม 23,949,161 ราย สหรัฐ ติดเชื้อ 7,185,915 ราย เสียชีวิต 207,540 ราย อินเดีย ติดเชื้อ 5,823,060 ราย เสียชีวิต 92,347 ราย บราซิล ติดเชื้อ 4,659,909 ราย เสียชีวิต 139,883 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 1,136,048 ราย เสียชีวิต 20,056 ราย โคลอมเบีย ติดเชื้อ 790,823 ราย เสียชีวิต 24,924 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี