30 กันยายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทั่วโลกได้จับตาการโต้วาทีหรือดีเบตครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน กับ นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เปิดฉากอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างขัดจังหวะและใช้ถ้อยคำปรามาสกัน
ดีเบตนัดแรก 1 ชั่วโมง 30 นาที เริ่มเมื่อเวลา 21.00 น.วันอังคารตามเวลาเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไอโอ สถานที่จัดการดีเบต ตรงกับเวลา 08.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย มีนายคริส วอลเลซ ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ยืนที่แท่นซ้ายมือของคนดู ส่วนไบเดน ยืนที่แท่นด้านขวา ทั้งคู่ไม่ได้จับมือกันตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ภริยาของทั้งสองฝ่าย และผู้ชมจำนวนหนึ่งมานั่งชมด้วย แต่น่าสังเกตว่า หลายคนในครอบครัวทรัมป์ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดแต่อย่างใด
หลังจากนั้นไม่กี่นาที บรรยากาศการดีเบตก็ดุเดือดทันที เมื่อนายวอลเลซ เปิดฉากด้วยการถามเรื่องการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาแทนคนที่เสียชีวิตเป็นคำถามแรก ไบเดนโยงไปเรื่องทรัมป์ต้องการเลือกผู้พิพากษาเพื่อยกเลิกการประกันสุขภาพโอบามาแคร์ของพรรคเดโมแครต ส่วนทรัมป์ ตอบโต้ว่า หากไบเดนเป็นรัฐบาลในขณะนี้คงมีชาวอเมริกันตายเพราะโรคโควิด-19 ไปแล้วกว่า 200 ล้านคน ทำให้นายวอลเลซต้องห้ามว่าโรคโควิด-19 จะเป็นหัวข้อถัดไป
หลังจากปะทะคารมกับทรัมป์อยู่พักหนึ่ง ไบเดนวัย 77 ปีแสดงความหงุดหงิดเมื่อถูกทรัมป์วัย 74 ปี ถามซ้ำ ๆ ว่า จะกำจัดผู้พิพากษาศาลฎีกาสายอนุรักษ์นิยมหรือไม่ด้วยการบอกให้ทรัมป์หุบปาก ทรัมป์ ตอกกลับว่า ตลอด 47 ปีในวงการเมืองไบเดนไม่เคยทำอะไรเลย
หลังจากนั้นทรัมป์ และไบเดนก็ขัดจังหวะกันไปมา จนคนดูทวีตขอให้ผู้ดำเนินรายการปิดไมโครโฟนฝ่ายหนึ่งระหว่างที่อีกฝ่ายตอบคำถาม โดยไบเดนปรามาสทรัมป์ว่า จะมีคนตายเพราะโควิด-19 มากขึ้นจนกว่าทรัมป์จะฉลาดกว่านี้ ทรัมป์ ย้อนว่า ไบเดนจำชื่อมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ที่เรียนจบมาไม่ได้ ซ้ำยังได้คะแนนต่ำที่สุดในชั้นด้วย
หลังจากนั้นผู้ดำเนินรายการถามหัวข้อเศรษฐกิจ การประท้วงด้วยความรุนแรง และเพิ่มเรื่องการเปลี่ยนแปงสภาพภูมิอากาศเข้ามาเป็นหัวข้อใหม่ก่อนจบการดีเบต
ทั้งนี้ นายวอลเลซ ถามทรัมป์ว่าจริงหรือไม่ว่าเขาจ่ายภาษีรายได้ปีละ 750 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 23,750 บาท) ทรัมป์ตอบว่า เขาจ่ายภาษีหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นพูดตัวเลขลอย ๆ ว่าจ่ายปีละ 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,203 ล้านบาท) ปีละ 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 855 ล้านบาท) และเมื่อถูกไบเดนท้าให้พิสูจน์ ทรัมป์ตอบว่า จะได้เห็นหลังทำบัญชีภาษีเสร็จแล้ว
ผู้ดำเนินรายการถามย้ำอีกครั้งว่า บอกได้หรือไม่ว่าจ่ายภาษีรายได้ในปี 2559 และ 2560 ปีละเท่าไหร่ ทรัมป์ ปัดว่า หลายล้านดอลลาร์สหรัฐ จะได้เห็นในภายหลัง เขาได้เครดิตภาษีตามกฎหมายภาษี พร้อมกับกล่าวหาไบเดนว่า ผ่านร่างกฎหมายภาษีที่ให้สิทธิประโยชน์แบบนี้กับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเขา
ก่อนหน้านี้หนังสือนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ทรัมป์จ่ายภาษีรายได้ปีละ 750 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 23,750 บาท) เท่านั้นในปี 2559 และ 2560 เพราะนำค่าเครื่องบินส่วนตัวและค่าทำผมจากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาลดหย่อนภาษี อีกทั้งยังไม่ได้จ่ายภาษีรายได้เลยเป็นเวลา 10 ปี ในช่วง 15 ปีก่อนหน้านั้น ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขการจ่ายภาษีตั้งแต่เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2558 โดยอ้างว่ายังจัดทำบัญชีภาษีไม่เสร็จ
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) วิเคราะห์การดีเบตนัดดังกล่าว โดยนายคริส ซิลลิซซา บรรณาธิการอำนวยการซีเอ็นเอ็น ถึงกับใช้คำว่า น่าสยดสยอง เป็นดีเบตที่แย่ที่สุดเท่าที่เขาทำข่าวดีเบตมาตลอด 20 ปี ซ้ำยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ชาวอเมริกันกว่า 200,000 คนเสียชีวิตเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในสิ้นปีนี้
โดยซิลลิซซา ระบุว่า ทรัมป์ต้องใช้การดีเบตปรับทิศทางการแข่งขัน ไม่เช่นนั้นจะพ่ายให้แก่ไบเดนอย่างยับเยิน แต่การดีเบตตลอด 90 นาทีไม่เห็นสิ่งนี้ ทรัมป์ครองเวทีเพราะใช้การข่มเหง พูดแทรก หลอกล่อทั้งไบเดนและวอลเลซตลอดเวลา วิธีนี้อาจได้ใจผู้สนับสนุน แต่ทำให้การดีเบตไม่น่าดู
ขณะที่วอลเลซ ผู้ดำเนินรายการที่เขาเคยชมว่า เป็นนักสัมภาษณ์การเมืองที่ดีที่สุดคนหนึ่งกลับไม่สามารถควบคุมเวทีได้ ปล่อยให้ผู้สมัครทั้งสองคนตะโกนและขัดจังหวะกัน ไม่สามารถจี้ให้ทั้งคู่พูดเรื่องนโยบายที่คนอยากฟัง
ส่วนไบเดนทั้งที่รู้ล่วงหน้าว่า จะมีคำถามเรื่องเหตุใดไม่ควรแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาก่อนมีประธานาธิบดีคนใหม่ กลับตอบวกไปเวียนมา ที่น่าผิดหวังคือไบเดนบอกให้ทรัมป์หุบปากที่พูดแทรกและเรียกทรัมป์ว่าเป็นตัวตลก ไม่สอดคล้องกับที่ไบเดนย้ำว่าจะทำให้ทำเนียบขาวมีมารยาทและมีความเป็นผู้นำอีกครั้ง บรรณาธิการผู้อำนวยการซีเอ็นเอ็นเตือนว่า ต้องคุยกันอย่างจริงจังแล้วว่าการจัดดีเบตที่เหลืออีกสองครั้งจะเป็นภัยแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ดีเบตครั้งนี้ไม่ได้ทำเขาโกรธ แต่ทำให้เศร้าใจ เพราะการเมืองควรจะดีกว่านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี