ประท้วงเคอร์ฟิวเนเปิลส์
เนเปิลส์ - ผู้ประท้วงในเมืองเนเปิลส์ทางใต้ของอิตาลี ขว้างปาข้าวของใส่ตำรวจและเผาถังขยะช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ประท้วงทางการที่ใช้มาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยผู้ประท้วงชักชวนกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ต่อต้านเคอร์ฟิวในแคว้นกัมปาเนีย ฝูงชนที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวเดินไปตามท้องถนนทั่วเมืองเนเปิลส์ เมืองเอกของแคว้น ตะโกนคำขวัญต่อต้านมาตรการเคอร์ฟิวที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 23.00 น.วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น บางคนจุดระเบิดควันไปด้วย บางคนถือป้ายกระดาษว่าหากปิด ต้องรับผิดชอบ ทางการแคว้นกัมปาเนียเรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า กำลังจะเข้าสู่หายนะแล้วจำเป็นต้องมีการปิดเมืองหรือล็อกดาวน์ระดับประเทศ เพราะช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอิตาลีมีผู้ป่วยใหม่เกือบ 20,000 ราย เฉพาะแคว้นกัมปาเนียมีผู้ป่วยใหม่มากเป็นประวัติการณ์ 2,300 คน จนถึงขณะนี้นายกรัฐมนตรีจูเซปเป กอนเต ของอิตาลี ยังคงหลีกเลี่ยงที่จะนำมาตรการล็อกดาวน์กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากใช้นานสองเดือนเมื่อต้นปีให้ประชาชนทุกคนอยู่แต่ในบ้าน และส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยเลวร้ายที่สุดนับจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง
ปะทะเดือดตายมากกว่า5พัน
มอสโก – ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่าทั้งอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,000 คน ในแต่ละฝั่งหลังทั้งสองชาติเปิดฉากสู้รบกันมาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคห์ ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ในอาณาเขตของอาเซอร์ไบจาน แต่ปกครองโดยชนกลุ่มน้อยอาร์เมเนีย ปูตินกล่าวว่า เขาได้หารือกับผู้นำของทั้งสองชาติทางโทรศัพท์หลายครั้งต่อวันเพื่อหาทางให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้เป็นคนกลางในการเจรจาการหยุดยิงระหว่างสองฝ่าย แต่ความพยายามกลับล่ม เพราะสองชาติกลับมาเปิดฉากยิงกันอีกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีกำหนดหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานในวันเสาร์ เพื่อหาทางยุติการนองเลือด แต่จะเป็นหารือแยกกับรัฐมนตรีแต่ละคน ซึ่งปูตินกล่าวว่า เขามีความหวังว่า สหรัฐจะดำเนินการสอดคล้องกับรัสเซียและช่วยกันหาทางบรรลุข้อตกลงได้
ลูกแมวน้ำเกยตื้นตาย
วินด์โฮก - หน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศนามิเบียเปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา มีลูกแมวน้ำเกยตื้นตายอย่างต่อเนื่องตามชายหาดของประเทศ ประเมินกันว่า มีลูกแมวน้ำเกยตื้นตายไปแล้วกว่า 5,000 ตัว จุดที่มีลูกแมวน้ำเกยตื้นตาย เป็นจุดที่เรียกว่าเพลิแกน พอยน์ท ตั้งอยู่ในอ่าววาลวิส ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะเดินทางมาชมอาณาจักรแมวน้ำและโลมา เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ระบุว่า ตัวเลขแมวน้ำที่ตายจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังมีลูกแมวน้ำเกิดใหม่อีก 12,000 ตัว และในเบื้องต้น เชื่อว่า ลูกแมวน้ำเกิดใหม่พวกนี้ ตายไปเนื่องจากถูกแม่ทอดทิ้งจนขาดอาหาร ระหว่างอพยพออกไปจากอ่าววาลวิส เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า แมวน้ำกำลังพยายามอพยพย้ายถิ่น เนื่องจากอ่าววาลวิส ที่เคยเป็นแหล่งอาหารที่มีปลาชุกชุม เริ่มมีจำนวนปลาลดลง จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี