วอชิงตัน (เอพี) - นักวิจัยชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งเผยผลการศึกษาที่อาจบ่งชี้ได้ว่า แมลงสาบกับน้ำตาลเป็นของไม่ถูกกัน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับข้อสงสัยที่ว่า เพราะเหตุใดแมลงสาบจึงไม่ค่อยเข้ามาติดกับดักแมลง

ดร.โคบี ชาล ผู้เชี่ยวชาญด้านกีฏวิทยาของมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาสเตท หนึ่งในผู้มีส่วนร่วมในงานวิจัยดังกล่าว ที่ได้รับการเผยแพร่ผ่านวารสาร “Science” กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการศึกษาที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อราว 2 ทศวรรษก่อน และพบว่า พนักงานกำจัดแมลงบางรายไม่สามารถกำจัดแมลงสาบออกจากบ้านได้ เนื่องจากพวกมันปฏิเสธที่จะกินอาหารที่ใช้เป็นเหยื่อล่อ

ดร.ชาลและทีมงานจึงจับแมลงสาบมาจำนวนหนึ่งมาขังไว้ให้อดอยาก ก่อนจะเสนออาหารให้พวกมันเลือก 2 อย่าง ซึ่งมีลักษณะข้นและเหนียวคล้ายกาวบนกับดัก คือเนยถั่วและแยม ผลปรากฏว่า แมลงสาบเข้าไปชิมแยมเพียงนิดเดียวและถอยหนี แต่กลับพุ่งเข้าใส่เนยถั่วแล้วกินจนหมดอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากนั้น ทีมงานจึงใช้อิเล็กโตรดจี้เข้าไปที่หนวดและส่วนปากของแมลงสาบ ซึ่งเป็นจุดรวมทั้งเส้นประสาทและต่อมรับรสชาติ พบการเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรงที่ต่อมรับรสขมเมื่อแมลงสาบกินแยม ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลมากกว่าเนยถั่ว

ผลที่ออกมาทำให้ทีมงานอนุมานได้ว่า แมลงสาบเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบความหวาน เป็นสาเหตุว่า ทำไมพวกมันจึงไม่ย่างกรายเข้ามาใกล้กับดักแมลงสาบเลย  เนื่องจากได้กลิ่นความหวานที่ออกมาจากกาวดัก หรืออาหารหวานที่มักนำถูกนำมาวางเป็นเหยื่อล่อพวกมันนั่นเอง

ทั้งนี้ เซลล์ที่ตามปกติแล้วจะตอบสนองต่อรสขม กลับตอบสนองต่อกลูโคสในแมลงสาบที่กลายพันธุ์ ทำให้พวกมันรับกลูโคสที่แปรเปลี่ยนเป็นรสขม ขณะที่เซลล์ที่ตอบสนองต่อรสหวานก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทำให้ท้ายสุด รสขมก็กลบรสหวานไปจนหมดสิ้น อย่างไรก็ตาม ดร.ชาลชี้ว่า ผลการทดลองดังกล่าวเป็นการทดลองกับแมลงสาบบ้านทั่วไปเท่านั้น ขณะที่ทั่วโลกมีแมลงสาบมากกว่า 4,600 ชนิด ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้อาจชอบรสชาติหวานก็เป็นได้ และทีมนักวิจัยจำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป และถือว่าการทดลองครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าแมลงสาบเองก็มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเช่นเดียวกับมนุษย์