วอชิงตัน (เอเอฟพี/รอยเตอร์/ซีเอ็นเอ็น) - นางแนนซี เปโลซ่ี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเผยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะพ้นวาระในวันที่ 20 มกราคม หากวิธีอื่นๆ ไม่ได้ผลด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ไม่ตัดความเป็นไปได้ในความพยายามใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 (25th Amendment) ไว้เป็นทางเลือกในกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ อารมณ์แปรปรวนเอาแน่เอานอนไม่ได้
นางเปโลซี วัย 80 ปี ส่งหนังสือถึง สส.พรรคเดโมแครตว่า สส.สเตนี ฮอยเออร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจะหาทางยื่นญัตติในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ เรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ประกาศว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป สส.ฮอยเออร์จะต้องได้เสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ในการยื่นญัตติดังกล่าว หากไม่ได้ สส.คนอื่นจะนำเรื่องนี้ไปลงมติในที่ประชุมวันอังคารแทน นางเปโลซีเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีเพนซ์ดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้น สส.จะเปิดลงมติร่างกฎหมายฟ้องร้องเพื่อถอดถอนทรัมป์อย่างเร่งด่วน เพราะเป็นภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่ามีความกังวลภายในคณะทำงานของเพนซ์ ว่า มีความเสี่ยงที่อาจต้องใช้บัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 หรือแม้กระทั่งใช้กระบวนการถอดถอน ในขณะที่ ทรัมป์ อาจเคลื่อนไหวหุนหันพลันแล่นบางอย่าง ที่นำให้ประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง ทั้งนี้ จนถึงช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 9 ม.ค. ทรัมป์และเพนซ์ ยังคงไม่พูดคุยกัน นับตั้งแต่เกิดเหตุจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ หนึ่งในนั้นรวมถึงตำรวจประจำรัฐสภา แหล่งข่าวอีกคนบอกกับซีเอ็นเอ็น นอกจากนี้แล้ว ประธานาธิบดียังไม่ได้ออกมาประณามต่อสาธารณะใดๆ ต่อคำขู่เอาชีวิต เพนซ์ ที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันวุฒิสมาชิก แพทริก ทูมี พรรครีพับลิกัน และสมาชิกพรรคกลุ่มหนึ่งได้ร่วมกันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลาออก และเห็นว่ารัฐสภาไม่มีเวลามากพอที่จะฟ้องร้องเพื่อถอดถอนทรัมป์ก่อนพ้นตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม แต่ สส.จิม ไคลเบิร์น วิปเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตชี้ว่า สภาผู้แทนราษฎรยังมีเวลาถอดถอนทรัมป์และชะลอการส่งเรื่องต่อไปยังวุฒิสภาจนกระทั่ง โจ ไบเดน รับตำแหน่งไปแล้ว 100 วัน สส.พรรคเดโมแครตอีกคนชี้ว่า การถอดถอนจะทำให้ทรัมป์ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีได้อีก
ขณะเดียวกัน นายไรอัน แมคคาร์ธี รัฐมนตรีว่าการทบวงกองทัพบกสหรัฐ ได้หารือกับนายเจสัน โครว สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของสภาผู้แทนราษฎร ว่า มีการเปิดพิจารณาคดีก่อการร้ายในประเทศแล้วอย่างน้อย 25 คดี หลังจากที่เกิดจลาจลอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีทั้งการใช้ปืนยาว, ระเบิดเพลิง, วัตถุระเบิด ตลอดจนสายรัด ในระหว่างการเกิดจลาจล ทั้งนี้ ประเด็นด้านการก่อการร้ายในประเทศได้ถูกนำเข้ามาพิจารณา หลังผู้ประท้วงฝ่าสิ่งกีดขวางเพื่อบุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา จนเกิดเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ นายแมคคาร์ธีย้ำว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐกำลังทำงานกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทั้งระดับท้องถิ่นและระดับรัฐบาลกลาง ในการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย มีความเป็นไปได้ว่าจะมีภัยคุกคามจากว่าที่ผู้ก่อการร้าย ในช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนจะถึงพิธีสาบานตนของนายไบเดนในวันที่ 20 มกราคม รวมถึงกำลังพิจารณาในการระดมกองทัพเข้ามาเพื่อคุ้มกันพิธีสาบานตน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี