“ไบเดน” สาบานตนรับตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ คนที่ 46 กล่าวสุนทรพจน์ “นี่คือวันของประชาธิปไตย” พร้อมฟื้นฟูประเทศ สั่งยกเลิก 15 คำสั่งรัฐบาลชุดก่อนทันที ร.10 ทรงส่งพระราชสาส์นแสดงความยินดี ปธน.สหรัฐฯ คนใหม่ ขณะที่ผู้นำทั่วโลกร่วมยินดียันพร้อมเดินหน้าความร่วมมือ
เมื่อวันที่ 21 มกราคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ว่านายโจไบเดน ได้เดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 46(เวลา 11.00 น.วันที่ 20 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ) โดยนางคามาลา แฮร์ริส ได้ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อน จากนั้นจึงเป็นการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่46
ทั้งนี้ บริเวณเนชั่นแนลมอลล์ซึ่งกินพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าอาคารรัฐสภาไปจนถึงอนุสาวรีย์อดีตประธานาธิบดี อับราฮัมลินคอล์นปกติจะเปิดให้ผู้คนสามารถเข้ารับชมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่ แต่ครั้งนี้ได้ปิดไม่ให้ผู้ใดเข้าไป ด้วยเหตุผลในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเพื่อรักษาความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีบรรดาอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าวอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นนายจอร์จ ดับเบิลยู.บุช และนางลอรา บุช ภริยา นายบารัค โอบามา และนางมิเชล โอบามา ภริยา รวมถึงนายบิล คลินตัน และนางฮิลลารี คลินตัน ภริยา
จากนั้นประธานาธิบดีไบเดน กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกว่านี่คือวันของประชาธิปไตย คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของวิกฤติ ความหวัง และความท้าทาย และว่าสหรัฐฯ มีอะไรต้องทำอีกมากในฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้ มีอะไรอีกมากที่ต้องฟื้นฟู พร้อมทั้งได้พูดถึงความสามัคคีและฟื้นฟูประเทศที่แตกแยกอย่างหนัก ให้หลุดพ้นจากปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังทรุดหนักและการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วมากกว่า 400,000 คน แต่หากพวกเราสามารถทำได้
นายโจไบเดน รับประกันว่าเราจะไม่ล้มเหลว เราไม่เคยล้มเหลวในสหรัฐฯ เมื่อพวกเราร่วมมือกัน เราต้องหยุดสงครามป่าเถื่อนของประชาชนที่มีความเห็นต่างในประเทศให้ได้
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่านายโจไบเดน ได้ทวีตข้อความก่อนหน้าการเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ว่า “วันนี้ถือเป็นวันใหม่ของอเมริกา”นอกจากนี้เขายังเดินทางไปยังโบสถ์เซนต์แมทธิวส์ ในกรุงวอชิตัน เพื่อประกอบพิธีมิสซา โดยมีการเชิญสมาชิกสภาคองเกรส ร่วมพิธีด้วย
มีรายงานข่าว นายโดนัลด์ทรัมป์ ที่กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯได้เดินทางออกจากทำเนียบขาว พร้อมกับนางเมลาเนียทรัมป์ ภริยา มุ่งหน้าไปยังฐานทัพอากาศที่อยู่ใกล้กัน ก่อนเดินทางไปยังรัฐฟลอริดา ไม่นานก่อนหน้าที่จะมีพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของนายไบเดน โดยไม่ได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าว ซึ่งนับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในรอบกว่า 150 ปี ที่ไม่เข้าร่วมพิธีของผู้ที่จะมารับตำแหน่งคนใหม่
พร้อมกันนั้นทรัมป์ได้ทิ้งจดหมายถึงนายไบเดน ตามธรรมเนียมปฏิบัติของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำกันเสมอมา แต่ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาแต่อย่างใด โดยนายทรัมป์ กล่าวกับเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้สนับสนุน ก่อนขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ว่าเป็นช่วงเวลา 4 ปีที่เหลือเชื่อ พร้อมประกาศว่าจะกลับมาอีกครั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ ว่าประธานาธิบดีไบเดน ได้ใช้อำนาจฝ่ายบริหารลงนาม 15 คำสั่ง ซึ่งรวมถึงการกลับเข้าเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) การสมัครเข้าเป็นภาคีความตกลงปารีส ให้สถานที่ราชการทุกแห่งมีมาตรการรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับเป้าหมาย 100 วันในการขอความร่วมมือชาวอเมริกัน สวมหน้ากากอนามัยต่อเนื่อง และควบรวบอำนาจการบริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ให้อยู่ที่ทำเนียบขาว
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ ยังสั่งยกเลิกโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน‘คีย์สโตน เอ็กซ์แอล’ที่มีการวางท่อเข้าสู่เขตอนุรักษ์หลายแห่งซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างหนักมานานนับทศวรรษให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ในสหรัฐฯ การยกเลิกมาตรการจำกัดวีซ่าการระงับเข้าประเทศอย่างเจาะจง ที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์บังคับใช้เฉพาะกับบางประเทศ และยุติโครงการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก
วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งพระราชสาส์นแสดงความยินดีไปยังนายโจไบเดน ในโอกาสสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ความว่า พณฯ นายโจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามของประชาชนชาวไทย ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะขอส่งคำอำนวยพรและความปรารถนาดีอย่างจริงใจมายังท่านประธานาธิบดี ในโอกาสที่ท่านเข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46
การเข้ารับตำแหน่งของท่านในโอกาสนี้จะเป็นที่ประจักษ์ในประวัติศาสตร์ ว่าเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่แห่การสรรค์สร้าง พื้นฟูบูรณะ ทั้งสำหรับสหรัฐฯ และประชาคมนานาชาติ หลังจากความสำเร็จในการรักษาไว้ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของระบอบประชาธิปไตยและกระบวนการความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ สหรัฐฯ ก็จะยืนหยัดได้อย่างภาคภูมิด้วยการนำของท่าน ในอันที่จะกลับมารวมพลังรวมใจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเผชิญปัญหาความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจ วิกฤติสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงสถานการณ์ความมั่นคงระหว่างประเทศ
ประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับสหรัฐมายาวนานกว่า 200 ปี เป็นมิตรประเทศของสหรัฐฯ ที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาประเทศในภูมิภาคเอเชีย จึงจะยืนหยัดอย่างมั่นคงร่วมกับสหรัฐในการเผชิญกับปัญหาความท้าทายเหล่านั้น ทั้งเรายังมั่นใจว่า ด้วยการสนับสนุนและการนำของท่าน ความร่วมมือที่มีมายาวนานระหว่างประเทศของเราทั้งสอง จะกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่เพื่อประโยชน์สุขของเราทั้งสองประเทศเท่านั้น หากยังเป็นการสร้างเสริมสันติสุขและเสถียรภาพอย่างสำคัญในภูมิภาคด้วย (พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ด้านผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะซูงะ ของญี่ปุ่นนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษประธานาธิบดีฟรังค์ วัลเตอร์ชไตน์มัยเออร์ ของเยอรมนีนางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ต่างร่วมแสดงความยินดีกับผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ และต่างยืนยันจะกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือต่างๆ กับสหรัฐฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี