ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกจ่อแตะ 100 ล้านคน ปธน.เม็กซิโก วัย 67 ปี ติดโควิด ขณะที่ประธานาธิบดี ไบเดน จะฟื้นคำสั่ง ห้ามต่างชาติจากยุโรป-บราซิลเข้าสหรัฐ สกัดการแพร่ระบาด เร่งหาสาเหตุชาวแคลิฟอร์เนียดับ 1 ราย หลังฉีดวัคซีน ด้านออสเตรเลีย อนุมัติใช้วัคซีน“ไฟเซอร์/ไบออนเทค”ฉีดเป็นวงกว้าง อียิปต์เริ่มฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรก ตั้งเป้าซื้อ 100 ล้านโดส ฉีดให้ครอบคลุมทั้งประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า5.7 แสนคนต่อวัน ทำให้ผู้ติเชื้อทั่วโลกใกล้แตะ100 ล้านคน ตัวเลขอยู่ที่กว่า 99.8 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 2.1ล้านรายโดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 25 ล้านคน เสียชีวิตกว่า4แสนราย
โดย นายแพทย์ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(WHO) กล่าวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะแตะระดับ100ล้านคนภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้แต่คาดว่าวัคซีนจะช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้ซึ่งการพัฒนาและการอนุมัติวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพภายในเวลาไม่ถึง1 ปีหลังการอุบัติของไวรัสใหม่นี้ ถือเป็นความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่งและเป็นความหวังที่โลกกำลังต้องการ
ขณะที่ ประธานาธิบดีเม็กซิโก อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ (Andres Manuel Lopez Obrador) วัย 67 ปี เปิดเผยโดยการส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่าพบผลตรวจเป็นบวก ตอนนี้แสดงอาการเล็กน้อยและอยู่ระหว่างการรับการรักษาจากทีมแพทย์ โดยเม็กซิโก เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดรอบสองโควิด-19 คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในเม็กซิโกจะแตะ 150,000 รายในอีกไม่กี่วัน
ด้าน ประธานาธิบดี นายโจ ไบเดน ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อน เข้มงวดเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยและสั่งกักโรคผู้เดินทางเข้าสหรัฐ โดยระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐจะเพิ่ม จาก4.2แสนคนในขณะนี้จะเป็นครึ่งล้านคนในเดือนหน้า จึงต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินระดับชาติ
โดย เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่าประธานาธิบดีไบเดน จะฟื้นคำสั่ง ห้ามผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกันเดินทางจากประเทศส่วนใหญ่ของยุโรป อังกฤษ ไอร์แลนด์ และบราซิล เดินทางเข้าสหรัฐ ล้มล้างคำสั่งของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ที่ให้เข้าได้ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม เจ้าหน้าที่ยืนยันรายงานข่าวเรื่องประธานาธิบดีไบเดน จะขยายคำสั่งห้าม ผู้ที่อยู่ในแอฟริกาใต้ เดินทางเข้าสหรัฐด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าชาวอเมริกันที่พำนักอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียรายหนึ่ง เพิ่งถูกตรวจสอบพบว่าติดเชื้อโควิด-19เมื่อปลายเดือนธันวาคม และเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่21ม.ค.นี้ได้เสียชีวิตลง หลังได้รับการฉีดวัคซีนเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยสำนักงานนายอำเภอระบุว่าตอนนี้หน่วยงานต่างๆทั้งระดับท้องถิ่น,รัฐและหน่วยงานของรัฐบาลกลาง กำลังสืบสวนหาข้อเท็จจริงของการเสียชีวิตครั้งนี้ซึ่งยังไม่มีการยืนยันใดๆว่าอะไรคือสาเหตุ อนึ่ง เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยด้วยว่าคนไข้รายนี้ได้รับวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา
ทั้งนี้ สหรัฐฯแจกจ่ายวัคซีนไปทั่วประเทศแล้วจำนวน 41,411,550 โดสและฉีดให้ประชาชนไปแล้ว 20,537,990 โดสโดยในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีการกระจายวัคซีนเกือบ 5 ล้านโดส และฉีดไปแล้ว 2,008,220 โดส
ที่กรุงแคนเบอร์รา นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่าสำนักงานผลิตภัณฑ์รักษาโรคแห่งออสเตรเลียหรือทีจีเอ ได้ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ของ ไฟเซอร์/ไบออนเทคในชาวออสเตรเลีย ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป การอนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าว ไม่ใช่การอนุมัติใช้ เป็นกรณีฉุกเฉินอย่างที่หลายประเทศทั่วโลกทำกัน แต่เป็นการที่ ทีจีเออนุมัติให้ใช้เป็นวงกว้างอย่างเป็นทางการ
นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย เผยว่ารัฐบาลจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้แก่กลุ่มที่มีความสำคัญก่อนในช่วงปลายเดือนหน้า โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้สัปดาห์ละ80,000 โดส แถลงการณ์ของรัฐบาลออสเตรเลียระบุว่าชาวออสเตรเลียจะได้รับวัคซีนจำนวน2โดส โดยจะฉีดวัคซีนโดสที่2ให้แก่ประชาชน หลังได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้วอย่างน้อย 21 วัน
ขณะที่อียิปต์เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรกให้แก่บุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ด่านหน้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ม.ค.โดยใช้วัคซีนที่พัฒนา โดยบริษัทเภสัชกรรมแห่งชาติจีน(ซิโนฟาร์ม)ซึ่งเป็นวัคซีนตัวแรกที่รัฐบาลอียิปต์อนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉินเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
พญ.ฮาลา ซาเยด รมว.สาธารณสุขของอียิปต์กล่าวว่า นอกจากวัคซีนของจีนแล้ว ทางการกำลังเจรจากับผู้ผลิตอีกหลายแห่ง ทั้งในสหราชอาณาจักร รัสเซียและจีนเพื่อจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมให้ได้รวมกันประมาณ100ล้านโด๊ส ครอบคลุมประชากรครึ่งหนึ่งของอียิปต์ปัจจุบันอียิปต์ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา คือ ประมาณ100 ล้านคน
25 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงาน สหรัฐฯ ลดธงชาติลงครึ่งเสาที่อนุสาวรีย์วอชิงตันและทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศ เพื่อ
25 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน จ้าวลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงข่าวว่าจีนไม่เคยเรียกร้องคณะนักการทูตสหรัฐฯ ในจีน เข้ารับกา
25 ก.พ. 2564 สำนักข่าว Vietnam Plus ในเครือ Vietnam News Agency (VNA) ของรัฐบาลเวียดนาม เสนอข่าว
25 ก.พ. 2564 เว็บไซต์ นสพ.The Independent ของอังกฤษ เสนอข่าว
25 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กัมพูชาระบุว่าชาวต่างชาติทุกคนที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในประเทศสามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
25 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงาน ผู้คนที่สัญจรผ่านบาร์จีเนียร์ บริเวณจัตุรัสไดเซ็นกอฟฟ์ เมืองเทลอาวีฟของอิสราเอล ต่างงุนงงสงสัยกับภาพการรับวัคซี
25 ก.พ.64 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่ม 1,557 ราย ส่งผลให้
25 ก.พ.64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของฮังการี เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ โดยใช้วัคซีน "BBIBP-CorV&q
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี