10 ก.พ. 2564 เว็บไซต์ นสพ.Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น เสนอรายงานพิเศษ Thai hotel tycoon wants priority COVID vaccines for tour staff ว่าด้วยกรณี วิลเลียม ไฮเน็ค (William Heinecke) ประธานบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ครอบครองกิจการโรงแรมและร้านอาหารจำนวนมาก เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (Prayuth Chan-ocha) นายกรัฐมนตรีของไทย เรียกร้องให้พนักงานภาคบริการและการท่องเที่ยว ได้เป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เพราะคนกลุ่มนี้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ไฮเน็ค ยกตัวอย่าง นักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน รวมถึงพนักงานโรงแรม ว่า คนเหล่านี้ทำงานเป็นด่านหน้าในการพบปะกับชาวต่างชาติ จึงมีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสเชื้อและกลายเป็นผู้แพร่เชื้อต่อ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบุคลากรสาธารณสุข และมีความจำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องตระหนักถึงความสำคัญของคนทำงานภาคบริการต่อเศรษฐกิจของประเทศและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะไม่มีการตอบสนองจาก พล.อ.ประยุทธ์ โดย อนุชา บูรพชัยศรี (Anucha Burapachaisri) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของ ไฮเน็ค สะท้อนความกังวลของนักธุรกิจที่มีประสบการณ์กับภาคบริการและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่ผู้ประกอบการหลายรายถูกบังคับให้ต้องปิดตัวจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-49 ทั้ง 2 ระลอก
ข้อมูลจากสมาคมโรงแรมไทย ระบุว่า โรงแรมระดับ 3 ดาว และ 4 ดาว หลายร้อยแห่งทั่วประเทศต้องปิดตัวลงเพราะไม่อาจแบกรับค่าใช้จ่ายในสภาวะที่ไร้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ ในจำนวนนี้หลายรายตัดสินใจเลิกกิจการ และนั่นทำให้พนักงานภาคบริการกว่า 1 ล้านคนต้องตกงาน ทั้งนี้ ไฮเน็ค ซึ่งปัจจุบันอายุ 72 ปี เกิดที่สหรัฐอเมริกา แต่มาใช้ชีวิตวัยเด็กในประเทศไทย กระทั่งสามารถสร้างอาณาจักรทางธุรกิจที่มีโรงแรมและรีสอร์ทกว่า 500 แห่ง ร้านอาหารกว่า 2,200 แห่ง และร้านค้าปลีกเกือบ 500 แห่ง ใน 62 ประเทศ
นิตยสารฟอร์บส์ จัดอันดับให้ ไฮเน็ค เป็นผู้ที่มีความมั่นคั่งเป็นอันดับที่ 20 ของประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 5 หมื่นล้านบาท กระทั่งการมาของวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ บ.ไมเนอร์ฯ โดย 9 เดือนแรกของปี 2563 ผลประกอบการขาดทุน 530 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.58 หมื่นล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่บริษั๋ทฯ ได้กำไรสุทธิถึง 6.9 พันล้านบาท และรายได้ 4.46 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยจะเริ่มจัดหาวัคซีนโควิด-19 ตามแผนภายใต้ช่วงปลายเดือน ก.พ. 2564 โดยเริ่มจากวัคซีนที่พัฒนาโดยซิโนเแวค บริษัทสัญชาติจีน จำนวน 2 ล้านโดส จากนั้นในเดือน พ.ค. 2564 วัคซีนที่พัฒนาโดยแอสตราเซเนกา บริษัทสัญชาติอังกฤษ 26 ล้านโดสจะถูกส่งไปถึงประเทศไทย และรัฐบาลยังสั่งเพิ่ม 35 ล้านโดสที่จะมาเพิ่มในภายหลัง ซึ่งบุคลากรสาธารณสุขจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีน
ไฮเน็ค ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเพิ่มทางเลือกให้หลากหลายในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดกิจการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงพิจารณยกเว้นมาตรการกักกันโรคสำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วซึ่งประสงค์จะเข้ามาในประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูธุรกิจภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเผชิญสถานการณ์อันเลวร้าย 2 ปีติดต่อกัน และย้ำถึงความสำคัญของการมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะนั่นคือ 2 ใน 3 ของรายได้ 3 ล้านล้านบาท ที่ไทยเคยได้รับจากภาคการท่องเที่ยวในปี 2562 อันเป็นปีสุดท้ายก่อนเกิดโรคระบาด
รายงานข่าวยังกล่าวด้วยว่า คำวิงวอนของ ไฮเน็ค เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังล้าหลังเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน อาทิ สิงคโปร์ เริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2563 จากนั้น อินโดนีเซีย กีบ เมียนมา เริ่มฉีดในเดือน ม.ค. 2564 ไฮเน็ค ย้ำว่า วัคซีนคือกุญแจสำคัญในการทำให้การเดินทางกลับสู่ความเป็นปกติ ดังนั้นจึงต้องการความช่วยเหลือและพยายามเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวในระยะต่อไปนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี