เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 สำนักข่าว Deutsche Welle ของเยอรมนี เสนอข่าว Blood clot risk higher for COVID than vaccines — Oxford ระบุว่า มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เผยแพร่ผลการศึกษาที่พบว่า ภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาถึง 8 เท่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ วัคซีนโควิด-19 ดังกล่าวที่ร่วมพัฒนาโดย ม.ออกซ์ฟอร์ด กลายเป็นหัวข้อถกเถียงเรื่องความปลอดภัย จนหลายประเทศสั่งระงับการใช้เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
งานวิจัยยังบ่งชี้อีกว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสเกิดภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวได้มากกว่าคนปกติถึง 100 เท่า ทั้งนี้ อัตราส่วนการพบผู้มีภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวหลังได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาโดสแรก อยู่ที่ 5 คนต่อ 1 ล้านคน นอกจากนี้ ยังศึกษาความเสี่ยงกับวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA อย่างไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา พบว่า แม้จะมีความเสี่ยงเกิดภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวเช่เนกัน แต่ก็ยังน้อยกว่าสาเหตุจากการติดเชื้อโควิด-19 ถึง 10 เท่า
ศ.พอล แฮร์ริสัน (Prof.Paul Harrison) ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชศาสตร์ และหัวหน้ากลุ่มประสาทวิทยาแปล (Translational Neurobiology Group) ม.ออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า ความเสี่ยงข้างต้นยังพบได้แม้กระทั่งประชากรที่อายุต่ำกว่า 30 ปี ข้อค้นพบนี้จึงควรนำมาพิจารณาสมดุลระหว่างผลข้างเคียงกับประโยชน์ที่ได้รับจากวัคซีน อย่างไรก็ตาม แม็กซิม ทาเกต์ (Maxime Taquet) นักวิชาการภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ม.ออกซ์ฟอร์ด ให้คำเตือนว่า ผลการศึกษานี้มุ่งเน้นกลุ่มตัวอย่างในสหราชอาณาจักร แต่ความเชื่อมโยงระหว่างภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวกับไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับภาวะหลอดเลือดดำอุดตันซึ่งเป็นความผิดปกติของการแข็งตัวของตับ ก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า แอสตราเซนากา เป็นวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี Vector ซึ่งเมื่อมีรายงานภาวะลิ่มเลือดแข็งตัวก็ทำให้เกิดความกังวลขึ้นจากวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีนี้ เพราะวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ก็พบรายงานผลข้างเคียงในลักษณะเดียวกัน ด้านหน่วยงานกำกับดูแลยาของสหภาพยุโรป (EMA) ยังคงยืนยันว่า แม้หลายประเทศจะกังวลเรื่องภาวะลิ่มเลือดแข็งตัว แต่วัคซีนแอสตราเซเนกาก็ยังมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง
ทั้งนี้ ข้อมูลของ EMA พบผู้มีภาวะลิ่มเลือดแข็งตัว 169 ราย หลังมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาไปแล้ว 34 ล้านโดส แต่บางประเทศก็เลือกที่ใช้อย่างระมัดระวัง เช่น เยอรมนี ไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาในผู้มีอายุน้อยกว่า 60 ปี ในขณะที่เดนมาร์กประกาศเลิกใช้วัคซีนดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี