วอชิงตัน/ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 50-52 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า ภายในปี 2030 ในการประชุมสุดยอดผู้นำในวาระการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ด้านประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน ก็ย้ำท่าทีจีนจะเริ่มลดการใช้ถ่านหินตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในการประชุมเสมือนจริงที่มีผู้นำจาก 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้นำจีน รัสเซีย และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งนครรัฐวาติกันที่เป็นปรปักษ์กับสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ จะตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มเป็นร้อยละ 50-52 ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2005 เพื่อทำให้สหรัฐกลับมายืนอยู่ในแถวหน้าอีกครั้ง ความเสียหายจากการนิ่งเฉยยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่สหรัฐจะไม่รีรออีกต่อไป
ขณะเดียวกัน นายจอห์น แคร์รี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่รับตำแหน่งทูตด้านสภาพภูมิอากาศในรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างถาวร เนื่องจากเป็นกลไกตลาด แม้ผลการเลือกตั้งในครั้งหน้าจะเปลี่ยนไปก็ตาม เขายังระบุว่า ประเทศเศรษฐกิจมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกมุ่งมั่นที่จะดำเนินการรักษาระดับอุณหภูมิทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นให้ใกล้เคียงกับระดับ 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่น้อยกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมและเป็นปณิธานที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีนกล่าวผ่านทางวีดีโอลิงก์ประชุมทางไกลของการประชุมสุดยอดผู้นำโลกเรื่องสภาพบรรยากาศของโลก ที่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพ โดยนายสี กล่าวว่า จีนมุ่งมั่นในการพัฒนาที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมและปรับปรุงระบบการพึ่งพาพลังงานที่ได้จากถ่านหิน ซึ่งเป็นแหล่งที่มาที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซที่ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก นายสีกล่าวว่า จีนจะจำกัดมิให้มีการเพิ่มการใช้ถ่านหินอย่างเข้มงวดในแผนระยะเวลา 5 ปี ฉบับที่ 14 ที่เป็นแผนงานระหว่างปี 2021-2025 และจะค่อยๆ ลดการใช้ถ่านหินในแผน 5 ปี ฉบับที่ 15 ระหว่างปี 2026-2030 คำประกาศของนายสี หมายความว่า การใช้ถ่านหินของจีน ซึ่งขณะนี้สูงที่สุดในโลกอยู่แล้ว จะถึงจุดที่มีการใช้ถ่านหินมากที่สุดในปี 2025 และหลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดลง ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว นายสี กล่าวให้คำมั่นว่าจะปล่อยก๊าซคาร์บอนในระดับสูงสุดภายในปี 2030 และเดินหน้าปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2060 อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมรู้สึกผิดหวังกับเป้าหมายของจีน หลังจากที่หวังไว้ก่อนหน้านี้ว่า จีนจะดำเนินการมากกว่านี้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี