ปักกิ่ง/ซิดนีย์ (รอยเตอร์/ซีซีทีวี) - รัฐบาลจีนประกาศระงับกิจกรรมทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงการเจรจาเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ จีน-ออสเตรเลีย (China-Australia Strategic Economic Dialogue) อย่างไม่มีกำหนด หลังออสเตรเลียยกเลิกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ตามแผนยุทธศาสตร์ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีน หรือ บีอาร์ไอ ที่รัฐวิกตอเรีย ทางใต้ของออสเตรเลีย ลงนามร่วมกับรัฐบาลปักกิ่ง
คณะกรรมาธิการด้านการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติของจีน (National Development and Reform Commission -NDRC) มีแถลงการณ์ว่า เมื่อไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลออสเตรเลียได้ใช้มาตรการหลายอย่างที่ขัดต่อข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือตามปกติระหว่างจีนกับออสเตรเลีย ด้วยแนวคิดจากยุคสงครามเย็นและทัศนคติเลือกปฏิบัติ จีนจึงตัดสินใจระงับกิจกรรมทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงการเจรจาเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ จีน-ออสเตรเลีย (China-Australia Strategic Economic Dialogue) อย่างไม่มีกำหนด ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงข่าวว่า การระงับการเจรจาการค้ากับออสเตรเลียถือเป็นการตอบสนองที่จำเป็นและถูกต้อง สืบเนื่องจากการที่ออสเตรเลียละเมิดหลักการด้านความมั่นคงแห่งชาติของจีน และว่าออสเตรเลียต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลียเริ่มส่งสัญญาณไม่ดีมาตั้งแต่ปี 2008 เมื่อออสเตรเลียเป็นประเทศแรกที่สั่งห้ามใช้เครือข่าย 5G ของบริษัทหัวเหว่ยอย่างเป็นทางการ และยิ่งย่ำแย่ลงเมื่อปีที่แล้ว เมื่อออสเตรเลียเรียกร้องให้มีการตรวจสอบต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น นำไปสู่การตอบโต้ทางการค้าจากรัฐบาลกรุงปักกิ่งด้วยการสั่งห้ามการนำเข้าไวน์และถ่านหินจากออสเตรเลีย
ขณะที่นายแดน เทฮาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ออสเตรเลีย กล่าวว่า การตัดสินใจของคณะกรรมาธิการ NDRC ของจีนเป็นเรื่องน่าผิดหวัง เพราะการเจรจาทางเศรษฐกิจนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของสองประเทศ พร้อมยืนยันว่าออสเตรเลียยังคงเปิดกว้างที่จะกลับสู่การเจรจากับจีน
การเจรจาเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ จีน-ออสเตรเลีย ครั้งสุดท้ายมีขึ้นเมื่อปี 2017ซึ่งออสเตรเลียได้ลงนามในความร่วมมือกับโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีนในฐานะประเทศที่สาม แต่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโดยตรง และเมื่อเดือนเมษายน รัฐบาลออสเตรเลียได้ยกเลิกข้อตกลงสองฉบับในโครงการนี้ในรัฐวิคตอเรีย โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลกลางออสเตรเลียต้องการทบทวน เพื่อรับประกันว่าข้อตกลงและความร่วมมือ ระหว่างออสเตรเลียกับทุกประเทศ จะต้องไม่ส่งผลกระทบ ต่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งในทางการค้าและความมั่นคง ซึ่งทางสถานทูตจีนในออสเตรเลียเตือนว่าจะนำไปสู่ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ ขณะที่รัฐธรรมนูญของออสเตรเลีย ระบุว่า นโยบายต่างประเทศและกลาโหม เป็นเรื่องที่รัฐบาลกลางในกรุงแคนเบอร์รามีอำนาจควบคุม และตัดสินใจ เหนือรัฐบาลท้องถิ่น
เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ออสเตรเลียส่งออกสินค้าไปจีนเป็นมูลค่าราว 115,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีสินค้าหลักคือ แร่เหล็กที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรม แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การระงับการเจรจาทางเศรษฐกิจครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกแร่เหล็กของออสเตรเลียไปยังจีนมากนัก แต่คาดว่าจะมีผลต่อการลงทุนของจีนในออสเตรเลียมากกว่า
ด้านผู้บริหารของบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของออสเตรเลีย ริโอ ตินโต (Rio Tinto)แสดงความมั่นใจเช่นกันว่า ทางบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากความขัดแย้งล่าสุดระหว่างจีนกับออสเตรเลีย เนื่องจากทางบริษัทยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลจีน และจีนยังต้องพึ่งพาแร่เหล็กจากออสเตรเลียอยู่มากเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี