สหรัฐฯประกาศ
ฉีดวัคซีนไม่ต้องใส่แมส
ทั่วโลกโควิดทะลุ161ล้าน
อินเดียติดแตะ24ล้านคน
ทั่วโลกติดเชื้อโควิดทะลุ 161 ล้านคนตายกว่า 3.35 ล้านศพ อินเดียป่วยพุ่ง24 ล้านคน จ่อทดลองวัคซีน “โควาซิน”ในผู้ที่อายุ 2-18 ปี ด้านสหรัฐฯอ้างชัยชนะ ให้ผู้ฉีดวัคซีน ไม่ต้องสวมแมสก์ ส่วนญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพิ่มเติมอีก3จังหวัด หลังโควิดยังระบาดหนัก แม้ใกล้แข่งขันโอลิมปิก
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ว่ามีผู้ติดเชื้อรวม 161,816,560คน ผู้เสียชีวิตรวม 3,358,144คน รักษาหายรวม 39,616,348 คน
ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน 1 วันที่ผ่านมา ว่ามีจำนวน 343,144 คน ทำให้ผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24,046,809 คน รักษาหายสะสมอย่างน้อย 20,079,599 คน และยังต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอย่างน้อย 3,704,893 คน ส่วนผู้เสียชีวิตในรอบวันยืนยันอีก 4,000 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย262,317คน
ทั้งนี้ รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์บี.1.617 ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดีย แพร่กระจายไปแล้วอย่างน้อย 44 ประเทศ ทั้ง 6 ภูมิภาค และยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของสายพันธุ์นี้ นอกจากความรวดเร็วในการแพร่ระบาดและเกิดอาการป่วยหนัก โดย WHO ประกาศให้เชื้อดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การควบคุมยาแห่งอินเดีย (DCGI) อนุมัติการทดลองทางคลินิกระยะ 2 และ 3 แก่วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ‘โควาซิน’ (Covaxin) สำหรับการใช้ในผู้ที่อายุตั้งแต่ 2-18 ปีโดยแถลงการณ์กระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด ทาง DCGI ยอมรับคำแนะนำของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและอนุญาตให้มีการทดลองทางคลินิกระยะ 2 และ 3 ของวัคซีนดังกล่าว ในกลุ่มผู้มีอายุตั้งแต่ 2-18 ปี แก่ภารัต ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตวัคซีนนี้
อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย เปิดเผยว่า ภารัต ไบโอเทคได้ยื่นเสนอทำการทดลองทางคลินิกกับวัควีนโควาซินสำหรับกลุ่มผู้มีอายุ 2-18 ปี โดยจะทดลองฉีดวัคซีน 2โดส เข้าทางกล้ามเนื้อของอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี 525 คน โดยเว้นระยะฉีดห่างกัน 28 วัน
ส่วนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แถลงยกระดับมาตรการผ่อนปรนทางสังคมสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบเข็มเดียวหรือสองเข็ม โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งและภายในอาคารอีกต่อไป แต่ยังคงแนะนำให้คนที่อยู่ในสถานที่ซึ่งมีคนหนาแน่ เช่น รถโดยสาร เครื่องบิน โรงพยาบาล เรือนจำ สวมใส่หน้ากากอนามัย ขณะที่คนที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว เมื่ออยู่ในสถานที่ทำงาน โรงเรียน หรือสถานที่ต้องพบปะผู้คน ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างอีก
ประธานาธิบดีโจไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวยินดีกับความคืบหน้านี้ว่าเป็นวันที่สุดยอดมากสำหรับอเมริกา ขณะที่ พญ.วาเลนสกียืนยันว่า การปรับเปลี่ยนทุกมาตรการของซีดีซี อ้างอิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นการที่สหรัฐฯ พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตรายวันลดลง รายงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีนหลายยี่ห้อ และการขยายช่วงอายุการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ ว่าศูนย์ให้บริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นของภาครัฐหรือเอกชน เริ่มให้บริการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ให้แก่ผู้มีอายุระหว่าง 12-15 ปี ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยวัคซีนดังกล่าวเป็นรายการแรกที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเพื่อใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว รวมทั้งเป็นวัคซีนยี่ห้อแรกของประเทศ ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานกับวัยรุ่นตอนต้นและตอนกลาง โดยคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ออกเอกสารรับรองให้เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา
อีกด้านหนึ่ง นายยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดมาก่อนและสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้น โดยจังหวัดฮอกไกโด โอกายามาและฮิโรชิมาเป็นอีก 3 จังหวัดเพิ่มเติม ที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป พร้อมๆ กับกรุงโตเกียว โอซากา และอีก 4 จังหวัด ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
นายนิชิมูระกล่าวอีกว่า จากเดิมที่รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอประกาศใช้สถานการณ์กึ่งฉุกเฉินในจังหวัดฮอกไกโด โอกายามา และฮิโรชิมา ภายหลังการหารือกับผู้เชี่ยวชาญแล้วลงความเห็นว่าจะประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินแทนและได้รับความเห็นชอบจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
ทั้งนี้ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังรับมือกับการระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะที่เหลืออีกเพียง 10 สัปดาห์ ก็จะถึงกำหนดการแข่งขันโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญ ต่างระบุว่าทรัพยากรทางการแพทย์ของญี่ปุ่นกำลังเข้าใกล้วิกฤติแล้ว ในขณะที่การระดมฉีดวัคซีนป้องกันดำเนินไปอย่างเชื่องช้าโดยฉีดให้ประชากรได้เพียงร้อยละ 3
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี