วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
‘ไบเดน’ขึ้นบัญชีดำ ห้ามลงทุน 60 บริษัทจีนรวมหัวเว่ย

‘ไบเดน’ขึ้นบัญชีดำ ห้ามลงทุน 60 บริษัทจีนรวมหัวเว่ย

วันเสาร์ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag : ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ
  •  

 

วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์) - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ สั่งขึ้นบัญชีดำเกือบ 60 บริษัทจีน ที่เกี่ยวข้องกับกองทัพจีนหรืออยู่ในภาคเทคโนโลยีสอดแนม รวมถึงหัวเว่ย ต่อยอดการแบนการลงทุนในบริษัทจีนตั้งแต่ยุคอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามออกคำสั่งฝ่ายบริหาร ห้ามองค์กรของสหรัฐ เข้าลงทุนในบริษัทของจีนทั้งหมด 59 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับกองทัพจีนหรืออยู่ในภาคเทคโนโลยีการทหารและการสอดแนม รวมถึงบริษัทหัวเว่ย ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน และบริษัท SMIC ผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของจีน ก็ถูกขึ้นบัญชีดำในครั้งนี้ด้วย คำสั่งแบนการลงทุนในบริษัทจีนล่าสุดของไบเดนครั้งนี้ เป็นการต่อยอดนโยบายเดียวกันนี้ ที่เริ่มขึ้นในยุคอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เริ่มขึ้นบัญชีดำห้ามสหรัฐ เข้าลงทุนในบริษัทจีน 31 แห่ง ส่วนคำสั่งของไบเดนล่าสุดนี้ เพิ่มจำนวนบริษัทจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำเป็น 59 แห่ง เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากยุคทรัมป์

บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนที่ติดร่างแหในครั้งนี้ รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างประเทศ หรือ SMIC, บริษัทอุตสาหกรรมการบินจีน หรือ AVIC, บริษัทผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งแห่งชาติจีนหรือ CNOOC และบริษัทหางโจว ฮิควิชั่น ดิจิตอล เทคโนโลยีด้วย ทั้งนี้ บริษัท SMIC เป็นบริษัทหัวหอกที่ผลักดันการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตชิปแห่งชาติของจีน

รายละเอียดคำสั่งของประธานาธิบดีไบเดนคือ ห้ามองค์กรและนักลงทุนในสหรัฐฯ เข้าลงทุนซื้อ หรือ ขาย หลักทรัพย์ต่างๆ ของบริษัทจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ที่นำออกขายต่อสาธารณะ, ห้ามสนับสนุนบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมทางทหาร, ห้ามสนับสนุนโครงการพัฒนาและวิจัยทางทหาร ข่าวกรอง และความมั่นคงของจีน รวมไปถึงห้ามสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีสอดแนมของจีน ส่วนนักลงทุนในสหรัฐฯ ที่ถือหลักทรัพย์ของบริษัทจีนอยู่แล้ว จะต้องขายทิ้งหุ้นและตราสารหนี้ที่ลงทุนในบริษัทจีนที่ถูกแบนเหล่านั้น ทำเนียบขาวระบุว่า คำสั่งแบนการลงทุนในบริษัทจีนดังกล่าว จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมนี้

หลายบริษัทที่ถูกแบน เช่น หัวเว่ยยังไม่ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่ไชน่าเทเลคอม ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ขณะที่นิวยอร์ก ไทมส์ มองว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้การต่อสู้ทางการค้าและอุดมการณ์ระหว่างจีนและสหรัฐรุนแรงขึ้น ซึ่งไบเดนเรียกว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างระบอบเผด็จการและประชาธิปไตย อีกทั้งคำสั่งเหล่านี้มีขึ้นในช่วงที่ทั้งจีนกำลังเพิ่มความสามารถในการสอดแนมผู้คนเกือบ 1,400 ล้านคน โดยใช้กล้องและซอฟต์แวร์จดจำใบหน้า สแกนเนอร์โทรศัพท์ และเครื่องมืออื่นๆ ที่หลากหลาย ด้วยการส่งออกเทคโนโลยีดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจอุปกรณ์สื่อสารที่บริษัทต่างๆ จัดหาให้ หรือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายความสัมพันธ์ทางการค้าของประเทศ

ด้าน อิริค เซเยอร์ส ผู้เชี่ยวชาญจากAmerican Enterprise Institute สถาบันวิจัยนโยบายสาธารณะของสหรัฐ มองว่า ความเคลื่อนไหวของไบเดนครั้งนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นโยบายของสหรัฐที่มีต่อจีนยังคงแข็งกร้าวไม่ต่างไปจากยุคทรัมป์ นอกจากจะแบนบริษัทจีนเพิ่มแล้ว สหรัฐก็ยังไม่ได้ยกเลิกกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่ทรัมป์ตั้งไว้ และนโยบายไบเดนจะมาในรูปแบบที่เพิ่มความเข้มงวดและขยายขอบเขตการบังคับมากขึ้น

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เรตติ้งตก! โพลเผยชาวมะกันเริ่มไม่ปลื้ม‘ทรัมป์’วอนอย่าลงชิงเก้าอี้ปธน.สมัยที่3 เรตติ้งตก! โพลเผยชาวมะกันเริ่มไม่ปลื้ม‘ทรัมป์’วอนอย่าลงชิงเก้าอี้ปธน.สมัยที่3
  • สร้างรอยยิ้ม! สตรีหมายเลข 1 แต่งชุดแพนด้า จัดงานฮาโลวีนที่ทำเนียบขาว สร้างรอยยิ้ม! สตรีหมายเลข 1 แต่งชุดแพนด้า จัดงานฮาโลวีนที่ทำเนียบขาว
  • ไบเดน-สตาร์เมอร์คิดไม่ตก  เรื่องให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกล ไบเดน-สตาร์เมอร์คิดไม่ตก เรื่องให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกล
  • ไบเดนเมินเสียงต้าน ยืนยันลงเลือกตั้ง ไบเดนเมินเสียงต้าน ยืนยันลงเลือกตั้ง
  • ‘ไบเดน’ ย้ำลงเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ  แม้เหวอหนักเรียกชื่อ ‘เซเลนสกี’ เป็น ‘ปูติน’ ‘ไบเดน’ ย้ำลงเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ แม้เหวอหนักเรียกชื่อ ‘เซเลนสกี’ เป็น ‘ปูติน’
  • ‘ไบเดน’ถูกกดดันหนักขึ้นให้ถอนตัว ‘ไบเดน’ถูกกดดันหนักขึ้นให้ถอนตัว
  •  

Breaking News

'อินโดนีเซีย'ผวา! ภูเขาไฟปะทุรุนแรง พ่นเถ้าถ่านสูง 18 กม.

(คลิป) เปิดภาพ! รั้วกั้นปราสาทตาเมือนธม ถูกรื้อทิ้งสมัย 'ยิ่งลักษณ์' เป็นนายกฯ

ฟังเหตุผลชัดๆ 'เจิมศักดิ์' เสนอศาลฎีกาเรียกแพทองธารเป็นพยานปมชั้น 14

'ไทย'ผนึกกำลัง'ตร.สากล' ลุยกวาดล้างแก๊งคอลฯในกัมพูชา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved