22 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กระทรวงสาธารณสุขกลางของอินเดียปฏิเสธข่าวลือวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อการสืบพันธุ์ของมนุษย์ บ่งชี้ว่าเป็นข่าวเท็จที่ไร้มูล เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างนี้
“ไม่มีวัคซีนตัวใดส่งผลกระทบต่อการสืบพันธุ์ เนื่องจากวัคซีนทุกตัวและองค์ประกอบที่ใช้ทั้งหมดได้รับการทดสอบในสัตว์ก่อนจะนำมาทดสอบในมนุษย์ เพื่อประเมินว่ามีผลข้างเคียงอะไรบ้าง วัคซีนจะได้รับอนุมัติใช้งานต่อเมื่อปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเท่านั้น” กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์
“นอกจากนี้เพื่อควบคุมข่าวลือเป็นหมันเพราะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รัฐบาลอินเดียขอชี้แจงว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดบ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดการเป็นหมันทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย”
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแห่งชาติด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (NEGVAC) ได้แนะนำการฉีดวัคซีนให้ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรทุกคน ระบุว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและไม่จำเป็นต้องหยุดให้นมบุตรก่อนหรือหลังฉีดวัคซีน
อินเดียเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. โดยใช้วัคซีน 2 ตัวที่ผลิตในประเทศ ได้แก่ โควิชีลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกา-ออกซ์ฟอร์ดที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มอินเดีย (SII) และโควาซิน (Covaxin) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทภารัตไบโอเทค และสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR)
นอกจากนั้นอินเดียได้ใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สปุตนิก วี (Sputnik V) ของรัสเซียด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี