สหรัฐดับสูงสุดรอบ7เดือน
หนุนฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยง
ออสซี่ดีขึ้นจ่อคลายเข้มงวด
ทั่วโลกติดโควิดกว่า 231 ล้านราย ดับทะลุ 4.74 ล้านศพยอดตายในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน หนุนให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นให้คนชรา-เสี่ยงสูง ส่วนเกาหลีใต้ป่วยนิวไฮอีกหนหลังจากช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ขณะที่ออสเตรเลีย บรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่มากกว่าครึ่ง เล็งผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด
เมื่อวันที่ 24กันยายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ว่ามีผู้ติดเชื้อรวม 231,352,253 ราย มีผู้เสียชีวิตรวม 4,741,587 ราย และรักษาหายแล้วรวม 208,017,882 ราย
สำหรับ 5 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดทั่วโลก ได้แก 1.สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อใหม่ 127,463 ราย ติดเชื้อสะสม 43,532,491 ราย 2.อินเดีย ติดเชื้อใหม่ 31,458 ราย สะสม 33,593,492 ราย 3.บราซิล ติดเชื้อใหม่ 24,611 ราย สะสม 21,308,178 ราย 4.อังกฤษ ติดเชื้อใหม่ 36,710 ราย สะสม 7,565,867 ราย และ 5.รัสเซียติดเชื้อใหม่ 21,438 ราย สะสม 7,354,995 ราย
ขณะที่สหรัฐฯ พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เฉลี่ยรายวันเพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ว่า สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยรายวันมากกว่า 2,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนต้านไวรัสดังกล่าว ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของซีเอ็นเอ็น ระบุว่า อัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยใน 10 รัฐ ที่มีการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด สูงกว่า 10 รัฐที่มีการฉีดวัคซีนมากที่สุด ราว 4 เท่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พบผู้เสียชีวิต 8รายต่อประชากร 100,000 ราย
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีประชาชนฉีดวัคซีนแล้วร้อยละ 54.8 ของประชากรทั้งหมด โดยนายโจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกกฎระเบียบที่กำหนดให้นายจ้างเอกชนทุกราย ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 100 คน ต้องรับรองว่าพนักงานได้ฉีดวัคซีนแล้ว หรือตรวจโรคสัปดาห์ละครั้ง ทว่าหลายรัฐท้องถิ่นที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน กลับคัดค้านกฎระเบียบดังกล่าวอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการที่ปรึกษาศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ อนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์ เป็นโดสกระตุ้นสำหรับชาวอเมริกัน ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ใหญ่ที่เสี่ยงสูง และผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชราระยะยาว โดยมีมติ 15 ต่อ 0 คะแนน และเห็นชอบแนะนำการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เป็นโดสกระตุ้นให้ประชาชนช่วงวัย 50-64 ปี ที่มีความเสี่ยงสูงบางประการด้วยคะแนนเสียง 13 ต่อ 2 คะแนน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) รายงานสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมอย่างน้อย 295,132 ราย เพิ่มขึ้น 2,434 รายนับเป็นสถิติรายวันสูงสุดอีกครั้ง โดยเป็นผลจากการเคลื่อนย้ายของประชาชนในช่วงเทศกาลชูซ็อก หรือวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตสะสมมีอย่างน้อย 2,434 ราย เพิ่มขึ้น 7 ราย และยังมีผู้รักษาตัวในระบบ 28,206 ราย
ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ว่าแม้ว่าเริ่มต้นช้ากว่าหลายประเทศมาก แต่สามารถเร่งฉีดวัคซีนให้ทันกับนานาประเทศ ปัจจุบันฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนได้แล้ว 72.3% จากประมาณ 52 ล้านคน และมีผู้ได้รับวัคซีนครับ 2 เข็มแล้วเกือบ 44% รัฐบาลตั้งเป้าให้ประชากรอย่างน้อย 80% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ภายในปลายเดือนตุลาคมนี้
อีกด้านหนึ่ง ที่รัฐวิกตอเรีย มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 733 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้ออยู่ในนครเมลเบิร์น ซึ่งผู้นำรัฐวิกตอเรีย ให้คำมั่นว่าจะให้ประชาชนมีเสรีภาพมากขึ้น เมื่อผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีนแล้ว 70% โดยคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวภายในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีประชากรได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว 57% การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มต่างๆ ก็จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป และระมัดระวัง เมื่อประชากรฉีดวัคซีนแล้ว 70%
ทั้งนี้ ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19ระลอกที่3 ซึ่งเป็นผลมาจากเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลต้าทำให้ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในนครซิดนีย์และเมลเบิร์นรวมถึงในกรุงแคนเบอร์รา ส่งผลกระทบกับประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ที่มีอยู่ประมาณ25 ล้านคน การบังคับใช้ข้อจำกัดที่เข้มงวดและการสั่งให้ปิดพื้นที่ก่อสร้างเป็นเวลา2สัปดาห์ เพราะมีการระบาดในกลุ่มแรงงาน ทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ในนครเมลเบิร์นเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ตำรวจได้เข้าจับกุมประชาชนบางคนในขณะที่พยายามป้องกันมิให้มีการประท้วงอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี