บัลติมอร์/ไทเป (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ย้ำว่า สหรัฐฯ จะเข้าช่วยเหลือไต้หวันในการป้องกันหากถูกจีนรุกราน และสหรัฐมีความมุ่งมั่นที่จะให้ความคุ้มครองไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นมณฑลหนึ่งของจีน ทั้งที่เพิ่งย้ำระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ว่าสหรัฐฯ ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักการ “จีนเดียว”
ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวในระหว่างกิจกรรมพบปะประชาชน ที่เมืองบัลติมอร์รัฐแมรีแลนด์ ว่า สหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นในการปกป้องไต้หวัน เขากล่าวด้วยว่า ประชาชนไม่ต้องวิตกเกี่ยวกับศักยภาพทางด้านการทหารของสหรัฐฯ เพราะจีน รัสเซีย และประเทศอื่นๆทั่วโลกทราบดีว่า สหรัฐฯ มีกำลังทหารที่มีแสนยานุภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกแต่สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องที่บางประเทศจะไปดำเนินกิจกรรมที่ทำให้อยู่ในฐานะที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรง
การประกาศย้ำจุดยืนครั้งล่าสุดนี้ เป็นการตอบคำถามของนักข่าวดังอย่าง แอนเดอร์สันคูเปอร์ ของสำนักข่าว CNN ในการตอบคำถามแบบทาวน์ฮอลล์ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ว่า สหรัฐฯ จะปกป้องไต้หวันหรือไม่หากถูกจีนโจมตี ซึ่งไบเดนตอบกลับว่า “ใช่ เราให้คำมั่นว่าจะทำเช่นนั้น” สร้างความสับสนอย่างหนักต่อนโยบายของคณะทำงานของไบเดน ที่เพิ่งระบุไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาหลังสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันบริเวณช่องแคบไต้หวัน โดยย้ำว่าสหรัฐฯ ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักการจีนเดียว
ทั้งนี้ แม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน แต่กฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ก็กำหนดให้ต้องสนับสนุน และช่วยเหลือความพยายามของเกาะแห่งนี้ในการปกป้องตนเอง รวมถึงผ่านการขายอาวุธให้ด้วย แต่ก็ยังคงมีความคลุมเครือมานานแล้วว่า สหรัฐฯจะทำอย่างไร หากจีนโจมตีไต้หวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกกันว่าเป็นความคลุมเครือเชิงกลยุทธ์
ด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวก็ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ เน้นย้ำถึงจุดยืน และนโยบายต่อไต้หวันของคณะทำงานว่า ความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างสหรัฐฯและไต้หวัน ยังคงเป็นไปตามกฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวัน (Taiwan Relations Act)นั่นคือ จะยังคงให้การสนับสนุนการป้องกันตนเองของไต้หวัน และจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานะเพียงฝ่ายเดียว และประธานาธิบดีจะไม่ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายถึงเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด
ขณะที่ไต้หวัน ก็ออกมาแสดงความเห็นหลังการสัมภาษณ์ของไบเดน โดยย้ำว่า ไต้หวันก็จะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนของตนเองกับจีนเช่นเดียวกัน ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน ระบุว่า จะไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดัน และไม่เร่งรัดใดๆ เมื่อได้รับการสนับสนุน พร้อมย้ำหนักแน่นว่าไต้หวันจะแสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะปกป้องตัวเอง และมั่นใจว่าฝ่ายบริหารของไบเดน ยังคงให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างแข็งแกร่ง
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน กล่าวว่า ความตึงเครียดทางทหารระหว่างไต้หวันกับจีนอยู่ในสภาวะที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่จีนได้ส่งเครื่องบินรบนับร้อยลำเข้าไปในเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน และระบุว่า ไต้หวันมีความสามารถในการใช้กำลังเต็มรูปแบบเข้ายึดครองไต้หวันได้ภายในปี 2025 จีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนและจะใช้กำลังเอากลับคืนมาหากว่าจำเป็น ในขณะที่ไต้หวันกล่าวว่า ไต้หวันเป็นประเทศเอกราชและจะปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี