‘ยูเครน’โวย‘รัสเซีย’

ฆ่าแล้วฝังพลเรือน67ศพ

หลังถอนทัพออกนอกพื้นที่

โฆษกกลาโหมหมีขาวปฏิเสธ

โจมตีสถานีรถไฟดับ30ศพ

อัยการยูเครนพบศพประชาชนอย่างน้อย 67 ศพ ถูกฝังหมู่ใกล้กับโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองบูจาหลังกองทัพรัสเซียถอนกำลังออกจากพื้นที่ โดยส่วนใหญ่ถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ด้าน โฆษกกลาโหมรัสเซีย ยืนยัน ทหารรัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีสถานีรถไฟครามาตอสก์ อ้างเศษชิ้นส่วนขีปนาวุธ ที่พบในที่เกิดเหตุ ใช้ในกองทัพยูเครนยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ไอร์นา เวเนดิคโตวา อัยการสูงสุดของยูเครนพร้อมกับสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่ไปยังเมืองบูชาทางตอนเหนือของประเทศ หลังจากกองกำลังของรัสเซียถอนทหารออกไปแล้ว พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นอนอยู่เกลื่อนถนนเป็นที่น่าสลดใจ และยังพบหลุมฝังศพหมู่ของเหยื่อสงครามอีกอย่างน้อย 67 ศพ ที่ถูกฝังรวมกันไว้ใกล้กับโบสถ์แห่งหนึ่ง

โดยจากศพที่กู้ร่างขึ้นมาได้แล้ว 18 ศพ พบว่าในจำนวนนี้ 16 ศพ มีบาดแผลจากการถูกยิง ส่วนอีก 2 ศพมีบาดแผลจากการถูกยิงด้วยกระสุนปืน และแผลจากเศษกระสุน โดยเป็นผู้หญิง 2 ศพ และผู้ชาย 16 ศพ ซึ่งเวเนดิคโตวาระบุว่า นี่เป็นหลักฐานชัดเจนว่ารัสเซียได้สังหารพลเรือน ด้วยการยิงพวกเขา

ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากหลุมท่ามกลางฝนที่ตกลงมาปรอยๆ เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด และพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป โดยสหภาพยุโรปจะเข้ามาร่วมในกระบวนการสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้กับอัยการยูเครนด้วย.

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเรียกการโจมตีที่เมืองครามาทอสก์ ในแคว้นโดเนสตก์ทางตะวันออกของประเทศว่าเป็นการจงใจโจมตีพลเรือน นายเซเลนสกี กล่าวในคลิปวิดีโอ ที่โพสต์เผยแพร่เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า เขาคาดหวังว่า ทั่วโลกจะตอบโต้อยางรุนแรงต่อการก่ออาชญากรรมสงครามนี้ เขากล่าวด้วยว่า ความล่าช้าในการจัดหาอาวุธให้กับยูเครน หรือ การปฏิเสธที่จะจัดส่งอาวุธให้ยูเครน สามารถมองได้อย่างเดียวว่า นักการเมืองที่ไม่เห็นด้วยเรื่องนี้ ต้องการช่วยรัสเซียมากกว่ายูเครน พร้อมกันนั้น เขาเรียกร้องให้ใช้มาตรการห้ามนำเข้านำมันจากรัสเซียและให้ตัดธนาคารของรัสเซียทุกแห่งจากระบบการเงินของโลก

ด้านพลตรีอิกอร์ โคนาเชนโก โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อวานว่า ทหารรัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีสถานีรถไฟครามาตอสก์ตามที่ถูกกล่าวหา และว่า เศษชิ้นส่วนขีปนาวุธ ตอชก้า-อู ที่พบในที่เกิดเหตุ เป็นขีปนาวุธที่ใช้ในกองทัพยูเครน จากการวิเคราะห์รัศมีการทำลายล้างของหัวรบขีปนาวุธตอชก้า-อู และวิธีการยิงแล้วพบว่า ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงมาจากฐานยิงที่ 19 ของกองทัพยูเครน ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านโดโบรโปลเย ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสถานีรถไฟครามาตอส ราว 45 กิโลเมตร