เกาหลีเหนือผวา!
มีอาการไข้3.5แสนคน
สหรัฐดับใกล้หลักล้าน
กลุ่มผู้สูงอายุกว่า7แสน
เกาหลีเหนือพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดแล้ว 6 ศพยอดป่วยวันเดียวพุ่ง 18,000 ราย และพบว่ามีอีก 3.5 แสนราย มีอาการไข้ แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงที่เพิ่งมีการยืนยัน ขณะที่ผู้นำ คิม จอง อึน มาในลุคใหม่สวมหน้ากากอนามัยเป็นครั้งแรก ด้านปักกิ่ง ยืนยันไม่ล็อกดาวน์
หลังข่าวลือทำประชาชนแห่กักตุนอาหาร เซี่ยงไฮ้เล็งโควิดเป็นศูนย์กลางเดือนนี้ ขณะที่ สหรัฐฯ พบว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดใกล้แตะหนึ่งล้านราย โดยผู้เสียชีวิตจำนวนมากกว่า 7 แสนราย คือกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
สถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 พบผู้ติดเชื้อสะสม 519,736,984 ราย เพิ่มใหม่ 598,649ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 6,284,597 ราย เพิ่มใหม่ 1,961 ราย รักษาหายสะสม 474,447,139ราย เพิ่มใหม่527,851ราย สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด ได้แก่สหรัฐอเมริกา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ 85,830 ราย ยอดสะสม 84,066,379 ราย เยอรมนี ติดใหม่ 82,652 ราย ยอดสะสม25,665,910 ราย ญี่ปุ่น ติดใหม่ 45,740 ราย ยอดสะสม 8,217,978 ราย อิตาลี ติดใหม่ 39,317 ราย ยอดสะสม 16,954,784ราย ฝรั่งเศส ติดใหม่ 36,047ราย ยอดสะสม 29,097,570 ราย เกาหลีใต้ ติดใหม่ 35,883ราย ยอดสะสม 17,694,677 ราย
โควิดคร่า’ผู้สูงอายุ’มากสุดในสหรัฐฯ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ รายงานว่าขณะยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ใกล้แตะหนึ่งล้านราย ข้อมูลโรคระบาดใหญ่ชี้ว่าผู้เสียชีวิตมากกว่า 7 แสนคน เป็นคนอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ชายเสียชีวิตในอัตราสูงกว่าผู้หญิง โดย 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ เป็นผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็นผู้มีอายุ 85 ปีขึ้นไปราว 255,000 ราย ผู้มีอายุ 75-84 ปี ราว 257,000 ราย และผู้มีอายุ 65-74 ปี ราว 229,000 ราย คนผิวขาวครองสัดส่วนส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่ภาระอันไม่เท่าเทียมตกอยู่กับคนผิวดำ ชาวฮิสแปนิก และชนพื้นเมืองอเมริกัน เมื่อเทียบอายุเฉลี่ยที่น้อยกว่าของชุมชนชนกลุ่มน้อย
รายงานระบุว่า ช่องว่างความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติลดลงระหว่างโรคระบาดพุ่งสูงและกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในการระบาดระลอกใหม่แต่ละระลอก
เกาหลีเหนือเสียชีวิต6ราย
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างน้อย 6 รายเสียชีวิตในประเทศ และมีหลายแสนคนแสดงอาการเป็นไข้ ซึ่งบ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงของโรคระบาดที่ได้รับการยืนยันเป็นครั้งแรกในเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอซึ่งเป็นกระบอกเสียงของทางการเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างน้อย 6 ราย ที่แสดงอาการของโควิด-19 และเสียชีวิต หนึ่งในผู้เสียชีวิตมีการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่สามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็ว
และประชาชนราว 187,800 คนเข้ารับการรักษาตัวในสถานที่แยกกักตัว หลังจากเกิดการระบาดที่ไม่ทราบแหล่งที่มาลุกลามไปทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
3.5แสนรายมีอาการป่วย
เคซีเอ็นเอรายงานว่าประชาชนอย่างน้อย 350,000 ราย มีอาการเป็นไข้ โดยพบ 18,000 ราย แสดงอาการในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม ขณะที่ 162,200 ราย เข้ารับการรักษาตัว แต่เคซีเอ็นเอไม่ได้ระบุชัดเจนว่า มีผู้ที่มีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นบวกเป็นจำนวนเท่าใด
นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการต่อต้านไวรัสเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และการรับมือกับการระบาดหลังจากที่ประกาศว่า เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่รุนแรงมากที่สุดและประกาศให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เกาหลีเหนือวันนี้และได้เริ่มกระจายเวชภัณฑ์ไปยังพื้นที่ต่างๆ แล้ว ระบุว่าการระบาดเริ่มเกิดขึ้นในกรุงเปียงยางในเดือนเมษายน
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือไม่เคยออกมายืนยันว่าพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศมาก่อน ท่ามกลางความเคลือบแคลงใจของหลายฝ่ายที่คาดว่าเกาหลีเหนือได้เผชิญกับภาวะโรคระบาดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
สื่อชี้ ปชช.ร่วมงานใหญ่ไม่สวมแมส
สื่อมวลชนเกาหลีเหนือไม่ได้ให้รายละเอียดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาด แต่กรุงเปียงยาง จัดงานใหญ่ที่มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมากในวันที่ 15 และ 25 เมษายน ซึ่งรวมถึงการสวนสนามของทหารและงานที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมากและเกือบทั้งหมดไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย
เคซีเอ็นเอ รายงานว่า นายคิมกล่าวตำหนิว่ากรณีที่เกิดการระบาดในพื้นที่กรุงเปียงยางแสดงให้เห็นว่า มีจุดอ่อนของระบบป้องกันการระบาดที่ทางการวางเอาไว้ เขากล่าวด้วยว่า การแยกกักตัวและการรักษาประชาชนถือเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ พร้อมกับขอให้มีการรักษาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์และส่งเสริมการแจกจ่ายยารักษาโรค
เคซีเอ็นเอ ยังรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังพยายามจัดการระบบตรวจหาเชื้อไวรัสและการรักษาและสนับสนุนงานด้านการฆ่าเชื้อ
“ผู้นำคิม”สวมแมสเป็นครั้งแรก
สำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า ในการถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์กลางของเกาหลีเหนือได้เผยให้เห็นภาพผู้นำ คิม จอง อึน ของเกาหลีเหนือ สวมหน้ากากอนามัยเป็นครั้งแรก ระหว่างการประชุมพรรค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 บ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ในเกาหลีเหนือที่ขาดทรัพยากรทางการแพทย์ แต่กลับปฏิเสธความช่วยเหลือจากนานาชาติในด้านวัคซีนและยังคงปิดพรมแดน
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้เป็นวิกฤติครั้งใหญ่ต่อเกาหลีเหนือ หลังจากที่ต้องเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนอาหารมาแล้ว นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังไม่เปิดเผยรายงานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงไม่มีรายงานการนำเข้าวัคซีน ถึงแม้จะเป็นสมาชิกโคแวกซ์ก็ตาม
ปักกิ่งยืนยันไม่ล็อกดาวน์
รัฐบาลกรุงปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการล็อกดาวน์ โดยยืนยันว่าจะยังไม่มีการล็อกดาวน์ในขณะนี้และเตือนให้ประชาชนอย่าเพิ่งเร่งกักตุนอาหาร หลังจากที่คนจำนวนมากแห่ไปที่ร้านค้า เนื่องจากมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่ากรุงปักกิ่งจะยกระดับการใช้มาตรการควบคุมโควิด-19
ทั้งนี้ นายซู เหอเจี้ยน โฆษกรัฐบาลกรุงปักกิ่งแถลงว่า กระแสข่าวที่ว่าปักกิ่งจะล็อกดาวน์หรือเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความเงียบงันนั้นเป็นข่าวลือ ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร และการบริการส่งของจะไม่หยุดชะงัก ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกักตุนอาหาร ประชาชนจึงไม่ต้องกังวล การดำเนินงานต่าง ๆ ในปักกิ่งจะไม่ได้รับผลกระทบ
ข่าวลือทำปชช.แห่กักตุนอาหาร
การออกมาแถลงของนายเหอเจี้ยนนั้นเกิดขึ้น หลังมีข่าวลือว่ากรุงปักกิ่งอาจใช้มาตรการล็อกดาวน์ เช่นเดียวกับนครเซี่ยงไฮ้ โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งได้เพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการคุมโควิด ส่งผลให้ประชาชนเริ่มออกมาต่อคิวซื้อสินค้าเมื่อช่วงบ่ายวันที่12 พฤษภาคม นอกจากนี้ กรุงปักกิ่งยังประกาศขยายเวลาส่งของผ่านแอปพลิเคชั่นสั่งสินค้าออนไลน์ออกไปอีกหลายชั่วโมง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลกรุงปักกิ่งจะไม่ล็อกดาวน์ แต่จะดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนทั้ง 11 เขตหลัก รวมถึงเขตเศรษฐกิจอีกหนึ่งแห่ง โดยแบ่งเป็น 3 รอบไปจนถึงสุดสัปดาห์ ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมในเขตชานเมืองของปักกิ่งจะปิดให้บริการ
ทั้งนี้ กรุงปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 36 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยพบผู้ติดเชื้อในชุมชนเพียง 4 ราย
เซี่ยงไฮ้เล็งโควิดเป็นศูนย์กลางเดือนนี้
ที่นครเซี่ยงไฮ้ นายอู่ ฉิง รองนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ เมืองศูนย์กลางทางการเงินของจีน กล่าวว่า นครเซี่ยงไฮ้ต้องการจะบรรลุเป้าหมายให้โควิดเป็นศูนย์ในระดับชุมชนให้ได้ภายในกลางเดือนนี้และจากนั้นจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเรื่องการจราจรและอนุญาตให้เปิดร้านค้าต่างๆ แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น แต่การต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในนครเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการระบาดรุนแรงที่สุดของจีน ยังคงต้องการความพยายามร่วมกันของประชาชนทุกคน
นายอู่ กล่าวว่า ขณะนี้เป้าหมายในปัจจุบันคือการบรรลุเป้าหมายที่จะให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เป็นศูนย์ภายในกลางเดือนนี้ และขณะนี้ก็เห็นแสงสว่างแห่งความสำเร็จตามเป้าหมายนี้ใกล้เข้ามาทุกที นครเซี่ยงไฮ้กำลังเล็งที่จะขยายจำนวนของธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการได้และเมืองทั้งเมืองจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น นครเซี่ยงไฮ้จะอนุญาตให้การคมนาคมชนส่งกลับมาให้บริการและจะค่อยๆ เปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน
เร่งตามหาผู้ติดเชื้อโควิดชุดสุดท้าย
เจ้าหน้าที่ของนครเซี่ยงไฮ้ เมืองศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของจีน พยายามติดตามหาตัวผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ชุดสุดท้ายด้วยความ หวังว่าจะเป็นการเปิดทางให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์แล้ว
นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากร 25 ล้านคน ยกระดับการล็อกดาวน์ให้เข้มงวดมายิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความพยายามขั้นสุดท้าย ในการกำจัดเชื้อไวรัสให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ การตรวจหาเชื้อแบบหมู่ในนครเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 11 พฤษภาคม พบผู้ติดเชื้อไวรัสเพียง 2 ราย ภายนอกเขตที่มีการควบคุมเข้มงวดที่สุด แต่ก่อนหน้านี้ 1 วัน ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เลย ผู้ติดเชื้อที่พบนี้อยู่ใน 2 เขตจาก 16 เขตของนครเซี่ยงไฮ้ คือ ซูไห่และเฟิงเซี่ยน
ซึ่ง 2 เขตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ 8 เขตที่สัปดาห์นี้ประสบความสำเร็จพบผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ คือไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในชุมชนเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการเอาชนะไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่ติดต่อกันได้ง่าย แม้จะใช้มาตรการเข้มงวดสุดๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี